xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” จี้รัฐรุกกลับบีอาร์เอ็น ถ้าคุมโจรไม่ได้ไม่ต้องคุย เตือนไม่ทบทวนยิ่งเสียหาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (แฟ้มภาพ)
หัวหน้าประชาธิปัตย์ ถาม สมช.มีเหตุผลอะไรคุยบีอาร์เอ็นต่อ หลังปล่อยคลิปด่ารัฐตัวการรุนแรง ชี้นับวันนานาชาติยิ่งเข้าใจผิด แนะประเมินเพิ่มช่องแก้หรือเพิ่มปัญหา ชี้ยิ่งคุยสอดรับเป้าแค่คนกลุ่มหนึ่ง เตือนไม่ทบทวนยิ่งเสียหาย บอกล้อมรั้วไม่รู้ทำได้แค่ไหน จี้ “เหลิม” คุยโจรต้องกำหนดให้ชัด พร้อมรุกกลับคุมป่วนไม่ได้ก็ไม่ต้องถก ขอนายกฯ ชูทิศทาง อย่าเชื่อ “ทักษิณ” มาก

วันนี้ (30 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มบีอาร์เอ็นเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านเว็บไซต์ยูทิวบ์ที่กล่าวหารัฐบาลไทยเป็นฝ่ายที่สร้างความรุนแรงนั้น ว่า วันนี้ต้องตั้งคำถามกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่ามีเหตุผลอะไรที่จะพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นต่อ เมื่อเขากล่าวหาว่ารัฐเป็นฝ่ายที่ใช้ความรุนแรง ซึ่งรัฐบาลต้องยืนยันว่าเขาต้องเปลี่ยนท่าทีก่อนจะเจรจาในรอบต่อไป เพราะนานาชาตินับวันจะเข้าใจผิดมากขึ้น จากการที่บีอาร์เอ็นเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดและกล่าวร้ายกับรัฐ ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรี รองนายกฯ และเลขาฯ สมช. ควรที่จะเป็นเดือดเป็นร้อนว่าเขากำลังนำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งหากรัฐไม่มีการยืนยันจุดยืนแบบนี้การพูดคุยก็จะกลายเป็นเครื่องมือให้เขาใช้วิธีโฆษณาชวนเชื่อสร้างความเข้าใจผิดในประชาคมโลก และจะไม่นำไปสู่ความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ยืนยันว่าต้องเจรจาต่อเพื่อเพิ่มช่องทางในการแก้ปัญหานั้น ก็ต้องประเมินดูว่า 3-4 เดือนที่ผ่านมาเป็นการเพิ่มช่องทางแก้ปัญหา หรือเพิ่มปัญหาในพื้นที่

“ถึงเวลาที่จะต้องยืนยันกับกลุ่มบีอาร์เอ็นว่าทำงานอย่างนี้ต่อไม่ได้ หากจะพูดคุยสันติภาพต้องจริงใจ ไม่ใช่ใช้เวทีนี้เพื่อเป็นบันใดในการโฆษณาชวนเชื่อ สร้างความเข้าใจผิดกับสังคมโลก และไม่ยึดกรอบการพูดคุยที่รัฐบาลเคยลงนามไว้ ซึ่งเราคาดการณ์อยู่แล้วว่าเขาต้องใช้วิธีการแบบนี้ แต่รัฐต้องรู้เท่าทัน และต้องพยายามไม่ให้การดำเนินการเป็นไปอย่างนี้เรื่อยๆ มีแต่จะเสียหาย เพราะการก่อเหตุในพื้นที่หากลองเปรียบเทียบดูจะเห็นว่ารูปแบบและวิธีการค่อนข้างชัดว่าสอดรับหรือทำให้กระบวนการการพูดคุยเป็นไปตามเป้าหมายของคนกลุ่มหนึ่ง มากกว่าจะเป็นการแก้ปัญหาในพื้นที่ ซึ่งหากรัฐบาลยังไม่ทบทวนก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อความเสียหายอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณี ผบ.ทบ.มีข้อเสนอให้ล้อมรั้วแนวชายแดนในการแก้ปัญหานั้นว่า เป็นแนวคิด ไม่ทราบว่ารูปธรรมจะทำได้มากแค่ไหน ซึ่งการควบคุมชายแดนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นก็สามารถช่วยได้ ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิมอ้างว่าจะลงไปเจรจากับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นเองนั้น ก็ขึ้นอยู่ที่ท่าที หากจะทำจริงต้องกำหนดเงื่อนไขให้ชัด โดยให้บีอาร์เอ็นยึดตามเงื่อนไขที่ สมช.เคยลงนามไว้ และต้องบอกกับบีอาร์เอ็นว่าหากเจรจาแล้วสภาพในพื้นที่ไม่ช่วยกันทำให้ดีขึ้นก็ไม่ควรคุยกัน ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลทบทวนเรื่องนี้ก่อนที่จะมีการพูดคุยในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ เพราะขณะนี้สะท้อนความไม่เป็นเอกภาพ ความอ่อนแอ ไม่มียุทธศาสตร์และทิศทางที่ชัดเจนในการพูดคุย และคิดว่าถึงเวลาที่รัฐบาลจะต้องทำงานในเชิงรุกในแง่การพูดคุย

เมื่อถามว่า การพูดคุยสองเดือนที่ผ่านมารัฐบาลสร้างภาพมาโดยตลอด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เวลานี้ถือว่าไม่เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาล บีอาร์เอ็นรุกมากขึ้น และเป็นไปสู่เป้าหมายเขามากขึ้น ส่วนจะเรียกว่าล้มเหลวได้หรือไม่นั้น หากไม่สามารถแก้ปัญหาเดิมได้ก็อย่าให้สถานการณ์แย่ลง และเป็นไปตามความต้องการของบีอาร์เอ็น ทั้งนี้ก่อนเจรจาวันที่ 13 มิ.ย.นี้รัฐบาลต้องรุกกลับไปว่าหากบีอาร์เอ็นต้องการคุยจะมีท่าทีอย่างนี้ไม่ได้ หากกล่าวหาว่ารัฐเป็นผู้ก่อความรุนแรงก็ต้องตอบโต้กลับไปว่าแล้วรัฐบาลจะพูดคุยกับเขาทำไม และหากเขาคุมความรุนแรงไม่ได้ก็ไม่มีเหตุผลต้องคุย อย่างไรก็ตาม อยากให้นายกฯ มีทิศทางที่ชัดเจนเรื่องนี้ ไม่ควรเชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาก เพราะทำให้ทิศทางผิดหมด ซึ่งตนเชื่อว่ายังไม่สายหากรัฐบาลแก้ไขเรื่องนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น