“เฉลิม” โชว์เต็มที่ หลัง “นายกฯ ปู” โทร.สั่งดูแลภาคใต้ให้มากขึ้น ลั่นรับไม่ได้ข้อเสนอบีอาร์เอ็น เล็งคุยตัวต่อตัว “ตอยิบ” พร้อมรับผิดชอบหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น โวแก้ปัญหาได้ดีกว่า ปชป. ย้ำเล่นงานผู้ว่าฯ ผู้การฯจังหวัด หากปล่อยม็อบเข้ากรุง อ้างมีทั้งม็อบแท้ม็อบเทียบผสมโรงล้มรัฐบาล ปัดให้ความเห็นกลุ่มเสื้อแดงและญาติผู้เสียชีวิตค้าน พ.ร.บ.ปรองดอง บอกหากไม่พิจารณาก็พร้อมปล่อยตามยถากรรม ขู่ถ้าไม่ผ่าน “นช.แม้ว” ก็ไม่ได้กลับประเทศ
วันนี้ (30 พ.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของกลุ่มบีอาร์เอ็นเป็นรอบที่ 3 ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (30 พ.ค.) ตนได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาหารือ เพราะที่ผ่านมาการพูดคุยกับบีอาร์เอ็นตนรับผิดชอบแบบกลางๆ ไม่ได้ไปรับรู้มากจึงไม่มีความรู้ แต่ล่าสุดเมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการจึงต้องลงไปให้ลึก แต่ไม่จำเป็นต้องเชื่อ และจะหารือกับผู้บัญชาการเหล่าทัพว่าการไปพูดคุยครั้งนี้คณะเจรจาจะต้องมีกรอบในการเจรจา เมื่อเรามีกรอบไปกลุ่มอาร์เอ็นจะเสนออะไรถ้าเรารับได้เราจะรับ แต่สิ่งที่รับไม่ได้คือ การแบ่งแยกดินแดน การตั้งรัฐปัตตานี และมหานครปัตตานี เรื่องนี้บอกให้จบบนโต๊ะ ไม่ต้องมาบอกตน ไม่มีการเจรจาเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังการเจรจา แต่เหตุการณ์ยังไม่ลดแสดงว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นคุมไม่ได้ การเจรจาจะมีประโยชน์อะไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ความจริงคุมไม่ได้อยู่แล้ว เพราะมีหลายพรรคหลายพวก แต่การเจรจาเพื่อให้นานาประเทศและองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) รับรู้ว่า 1. ไทยไม่นิยมความรุนแรง 2. ไทยเป็นรัฐเดี่ยว และ 3. เรารับและพร้อมรับฟังข้อเสนอ นอกจากนี้ การที่กลุ่มบีอาร์เอ็นเสนอจะให้โอไอซีและเอ็นจีโอมาเป็นคนกลางนั้นคงเป็นไปไม่ได้ จะไปเจรจากับกลุ่มที่ 3 ทำไม เพราะเรื่องนี้เป็นการเจรจาระหว่างบีอาร์เอ็นกับไทย
ส่วนข้อเสนอที่บีอาร์เอ็นเสนอมามีข้อไหนที่เรารับได้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ในความคิดตนไม่มีสักข้อ รับไม่ได้สักข้อเดียว แต่ก็ต้องลองไป วันนี้เจรจาเป็นแบบนี้ วันหน้าอาจดีขึ้น ยังมีวันพรุ่งนี้ แต่คงเร็วไปที่จะพูดเรื่องการยุติการพูดคุย
เมื่อถามว่า เรากำลังตกกับดัก และยกระดับให้กลุ่มบีอาร์เอ็นหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการยกระดับให้กลุ่มบีอาร์เอ็น หากไปคุยแล้วไม่รู้เรื่อง ถามนายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะไปคุยด้วยได้หรือไม่ แต่คงไม่ได้คุยในนามรัฐบาล และไม่เป็นทางการด้วย
“ต่อไปหากไม่รู้เรื่อง ผมจะขออนุญาตตอยิบคุยกับตอเหลิม เพราะผมจะไปหา รมว.มหาดไทยมาเลเซียอยู่แล้ว ส่วนจะเป็นเมื่อไรต้องขออนุญาตนายกฯ”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ประเมินหรือไม่ว่าการพูดคุย 2 ครั้งที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับการสูญเสียที่เกิดขึ้นคุ้มค่ากันหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่เจรจาก็เกิดเหตุอยู่แล้ว แต่การเจรจาเป็นการเพิ่มช่องทาง
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิมมาดูแล ถือเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า น่าจะใช่ เพราะตนเป็นรองนายกฯ เบอร์ 1 เมื่อถามย้ำว่า หากเกิดปัญหา จะอยู่ในความรับผิดชอบของท่านใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “รับผิดชอบสิ 2 ปีที่ผ่านมาเราประเมินว่าเราแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำอะไรเลย นี่ออกหมายจับเยอะ แล้วกำลังจะออกหมายจับทั้งพรรคประชาธิปัตย์ให้มาช่วยแก้ปัญหา ไม่ต้องไปไหน จากนี้ต่อไปปัญหาภาคใต้จะกระชับพื้นที่ ลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น แต่ไม่ใช่ขอพื้นที่คืน”
ต่อข้อถามว่าคิดจะลงพื้นที่อีกหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “ลง แต่บอกไม่ได้ว่าเมื่อไร ลับ ลวง พราง แต่ตอนนี้ต้องทำเต็มที่ เพราะนายกฯ โทร.มาเฉ่งปี๋ ดุผมว่าพูดน้อยไป ไอ้ผมก็ไม่ค่อยรู้ มาบอกว่าน้อยไป ท่านบอกว่ารองนายกฯ ไม่ออกมาแสดงความเห็นเลย ที่ผ่านมาไม่ได้พูด เพราะว่ารู้ไม่จริงก็ยอมรับ ผมรับเงินไม่ถึง 6 เดือน พวกพรรคประชาธิปัตย์เกิดปักษ์ใต้ อยู่ปักษ์ใต้ โตปักษ์ใต้ เป็นผู้แทนปักษ์ใต้ยังแก้ไม่ได้ แต่ผมอยู่บ้านริมคลอง”
ส่วนหลังจากได้รับมอบอำนาจแล้ว จะลงมาดูแลเรื่องใต้อย่างเต็มที่หรือไม่นั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “จากนี้ไปผมจะพยายามตัดสินใจในเรื่องใต้ให้มากที่สุด
ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงการควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องต่อรัฐบาลในช่วงนี้ว่า ขณะนี้มีม็อบแท้ ม็อบเทียมในแต่ละจังหวัด ประชาชนที่เดือดร้อนจริงๆ นั้นมี ซึ่งเวลามีม็อบไล่รัฐบาล ม็อบเหล่านี้จะถูกชักจูงมาร่วมม็อบด้วย ดังนั้น ในวันที่ 4 มิ.ย.เวลา 14.00 น. ตนเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากจังหวัดไหนมีผู้เดือดร้อน ผู้ว่าฯ ต้องรู้เรื่อง ต้องรับรู้ทุกจังหวัด ถ้าปล่อยม็อบเข้ามาต้องรับผิดชอบ หากเดือดร้อนจริงๆ เราช่วย ซึ่งถ้าประชุมเสร็จผู้ว่าฯ หรือผู้บังคับการจังหวัดไหนไม่รับผิดชอบจะเสนอนายกฯ ให้เพิ่มตำแหน่งผู้ตรวจราชการ หากตำแหน่งไม่พอจะเสนอคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เพิ่มตำแหน่งได้ ไม่ใช่เอะอะปล่อยเข้า กทม.
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงมาคุมเข้มม็อบในช่วงนี้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เพราะมีคนคิดจะล้มรัฐบาล แต่ตนอยู่ตรงนี้ล้มยาก ไม่มีปัจจัยอะไร มีแค่พวกผิดหวัง พรรคการเมืองบางพรรคอยากส้มหล่น อยากเป็นรัฐบาลแต่แพ้เลือกตั้งจึงรวบรวมพลพรรคชุดเก่าก่อน 19 ก.ย. 49
เมื่อถามว่า เป็นเพราะการผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และร่าง พ.ร.บ.ปรองดองหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เรื่องการนิรโทษกรรมและปรองดองไม่ร้อน แต่เย็น ตนต้องการเดินหน้าให้บ้านเมืองสงบ เรียนว่าอย่ามาใช้อวิชชา ยิ่งนายกฯ มอบตนแบบนี้สนุก ไม่มีอะไรน่ากลัว และวันที่ 8-12 มิ.ย.จะเดินสายภาคอีสาน จะบอกผู้ว่าฯทั้งหมดอย่าให้คนเดือดร้อนเข้าใจผิดมาร่วมกับม็อบเด็ดขาด แต่ยืนยันไม่ใช้ความรุนแรง มาเลยหากเขามาปราศรัย กทม.ตนจะไปราศรัยฝั่งธนฯ ดูว่าเขาจะฟังใครมากกว่ากัน
ส่วนที่มีญาติผู้เสียชีวิตออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง รองนายกฯ กล่าวว่า เข้าใจและเห็นใจ แต่ไม่ขอแสดงความเห็น เพราะกฎหมายเสนอเข้าสภาฯ ไปแล้ว ส่วนคนเสื้อแดงนั้นตนคงไม่ต้องไปทำความเข้าใจ เพราะตนไม่เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง แต่เมื่อคืนนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย มาหาตน ตนก็อธิบาย นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย และนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ก็โทรศัพท์มาหา ตนก็อธิบาย แต่จะไม่อธิบายกับมวลสมาชิกเสื้อแดง ตนไม่มีบารมี ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย แต่เรื่องนี้หากไม่เลื่อนก็ไม่เลื่อน ไม่รวมก็ไม่รวม ไม่พิจารณาก็ไม่พิจารณา แต่หากกฎหมายไม่ผ่าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็กลับบ้านไม่ได้
“การเมืองไม่มีอะไร มีแต่พรรคการเมืองแพ้เลือกตั้งจะสร้างสถานการณ์ เอาสมาชิกในพื้นที่มารวมกับเจ้าของบ่อนบางซื่อ เพื่อให้มีองคาพยพมากขึ้นก็เลยต้องเดินสายบอกประชาชน ใครเดือดร้อนไม่ต้องเข้า กทม. ผู้ว่าฯ จะดูแล ท่านอยู่ในจังหวัด ผู้ว่าฯ จะจัดการ ตำรวจจะดูแล ปลัดกระทรวงจะดูแล ผมจะกำกับ หากไม่เรียบร้อยต้องแก้กฎระเบียบ จะบอกนายกฯ”
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวย้ำอีกว่า ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองไม่ใช่การคืนเงิน พ.ต.ท.ทักษิณ ในกฎหมายไม่มีการคืนเงิน ผลกฎหมายหลังจากนั้นก็ไม่มี ผู้พิพากษาก็ไม่ได้เก่งกว่าตน ผู้พิพากษามีทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง ให้ความเห็นต่างกัน เรื่องนี้ต้องเอากฎหมายเป็นหลัก เมื่อถามว่า ภายหลังหากมีการคืนเงินให้ พ.ต.ท.ทักษิณจะทำอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า “ถ้าผมตายไปแล้วผมจะรู้หรือ อายุ 66 ปีแล้ว แต่ให้ความมั่นใจ 105 เปอร์เซ็นต์ไม่มีการคืนเงิน”
ส่วนที่ศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนการพิจารณาคำร้องที่มีการให้วินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขัดต่อมาตรา 68 หรือไม่นั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนบอกแล้วว่าศาลรัฐธรรมนูญจะยังไม่วินิจฉัย และจำไว้ว่าต่อให้วินิจฉัยก็เลิกกัน เขียนใส่ซองไว้วันนี้ พอวินิจฉัยออกมาก็จะบอกว่าแก้รัฐธรรมนูญได้ อย่าไปมองการเมืองเลวร้าย