“กูเกิลเหลิม” โวรู้แล้วมือบึ้มหน้ารามฯ แต่อุบไว้-ขู่ผู้ว่าฯ ปล่อยม็อบเยือนทำเนียบสั่งเด้งแน่

รองนายกฯ ย้ำเหตุระเบิดรามคำแหง 43/1 ไม่โยงภาคใต้ แจงเพิ่มมาตรการรักษาพื้นที่เสี่ยง 9 จุด เชื่อไม่มีเหตุรุนแรง โวรู้ตัวมือระเบิดแล้ว แต่พูดไม่ได้ ชี้ฝ่ายค้านยื่นตีความร่าง พ.ร.บ.ปรองดองไม่ได้ เย้ยยังไม่เป็นกฎหมาย ขู่ผู้ว่าฯ หากปล่อยม็อบมาชุมนุมทำเนียบสั่งย้ายทันที เผย “แม้ว” ไม่ได้โทรศัพท์อวยพรวันเกิด ย้ำปลายปีได้กลับบ้านแน่เพราะ พ.ร.บ.ปรองดอง แจง สมช.คุยบีอาร์เอ็น ต้องประชุม ศปก.กปต.ก่อน ชี้แนวคิดล้อมรั้วแนวชายแดน ให้กองทัพตัดสินใจ

วันนี้ (28 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุระเบิดซอยรามคำแหงซอย 43/1 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตัดประเด็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ภาคใต้ มองว่าไม่เร็วเกินไปหรือไม่ว่า เป็นเรื่องไร้สาระที่ไม่เกี่ยวกับภาคใต้ หรือการปฏิวัติ ตนเพิ่งคุยกับ พล.ต.ต.นัยวัตน์ เผดิมชิต ผบก.น.4 และจากการฟังรายงานและพรรคพวกที่มี ลึกๆ ตนมีความเชื่ออยู่ แต่ไม่ได้แนะนำ ผบก.น.4 เพราะถ้ามาขอคำปรึกษาตนจะเสียแนวทางสืบสวน

เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ทางการเมือง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องการเมือง ข้อมูลที่ตนได้รับคือ เป็นเรื่องของการค้าขายที่อีกฝั่งถนนค้าขายได้ปกติ แต่อีกฝั่งขายไม่ได้ ซึ่งอาจจะทำให้มีปัญหาได้ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ต้องให้ ผบก.น.4 เป็นผู้ตรวจสอบ ปัจจุบันแก๊งก่อเหตุเล็กน้อยหวังประโยชน์การค้า แต่ไม่เกี่ยวกับปัญหาภาคใต้หรือการที่ทหารปฏิวัติ

เมื่อถามว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ระบุว่า มีขบวนการต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องมีรายงานเข้ามาหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ตัววัตถุที่ใช้ทำระเบิดไม่ใช่ของต่างชาติ แต่ลักษณะของระเบิดเหล่านี้เป็นของกลุ่มก่อกวนมากกว่า ซึ่งจะใช้ข่มขู่นักธุรกิจขนาดเล็ก

เมื่อถามถึงการเพิ่มมาตรรักษาความปลอดภัยจุดเสี่ยงทั้ง 9 จุด และการดูแลบุคคลสำคัญ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า หลังเหตุระเบิดตนได้สั่งการให้ระวังเพิ่มมากขึ้นอยู่แล้ว เพราะรัฐบาลมีคนที่ไม่ชอบ ก็ต้องระวัง แม้กระทั่งที่ทำเนียบรัฐบาลจะต้องมีการเตรียมพร้อม เชื่อว่าไม่มีเหตุการณ์อะไร

เมื่อถามว่า พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ระบุว่า ควรจะมีการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เพราะถึงจะควบคุมได้แต่ไม่ควรประมาท ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตำรวจทำงานอยู่แล้วอย่าเป็นห่วง คนพวกนี้ไม่ได้หวังผลทางการเมือง อย่างไรก็ตาม การข่าวบอกว่าไม่มีขบวนการต่างชาติเข้ามาเกี่ยว

เมื่อถามว่าความคืบหน้าการจับตัวผู้ร่วมก่อเหตุ และจะจับตัวผู้กระทำความผิดได้เมื่อไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่สามารถบอกได้ เพราะอาจจะเสียรูปคดี แต่รู้มาจากนักเลงแถวนั้นโทรศัพท์มาบอก ตนก็เลยกระซิบบอกไป แต่อาจจะผิดก็ได้ ย้ำว่าไม่มีเรื่องความรุนแรง แต่ถ้าเกิดเหตุระเบิดในพื้นที่ถนนข้าวสารอาจจะเหนื่อยกว่านี้ เพราะต่างชาติมีเยอะ เราไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่สามารถคุมได้

ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นตีความร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ ว่า ร่าง พ.รบ.ปรองดองที่ตนเสนอ ยังไม่เป็นกฎหมาย แต่ฝ่ายค้านส่งศาลรัฐธรรมนูญแล้ว จะตีความได้อย่างไร และเชื่อเถอะว่าการเมืองวันนี้ไม่มีอะไร พรรคประชาธิปัตย์เดินมา 1 ปี 8 เดือน สะเปะสะปะไม่มีหลักกฎหมาย ตนไม่ได้ดูถูก ขอแช่ง ใครก็ตามที่ไปปราศรัยตามต่างจังหวัด ถ้าไปจ้างคนมาฟังขอให้แพ้ ถ้าตนไปปราศรัยแล้วไปจ้างคนมาฟังก็ขอให้แพ้การเลือกตั้ง

ทั้งนี้ ถ้านักธุรกิจใหญ่ๆ 3 คน มีธุรกิจธนาคารหนึ่งคน ขายหมูเห็ดเป็ดไก่หนึ่งคน และขายของเมาอีกคน ถ้าไม่หนุนเงินก็ไม่มีม็อบ เพราะรอบที่แล้วพวกของเมาซื้อโฆษณา 500 ล้านบาท แล้วรัฐบาลจะอยู่อย่างไร ตนมาจากดิน รู้ละเอียด วันนี้ทำท่ากล้าๆ กลัวๆ ขอเตือนว่าอย่าไปยุ่ง หากถึงเวลาเลือกตั้งก็ให้เงินเขาไป จะให้เท่าไรก็ให้ไป 500 ล้าน หรือพันล้านก็ให้ไป แต่เมื่อเขาเป็นรัฐบาลแล้วอย่าไปทำเลย ซึ่งตนไม่ยอม มาชุมนุมได้อะไรได้แต่ถ้าคุณไปจ่ายเงินกันแบบนี้ ตนขอประจาน 1. ธุรกิจธนาคาร 2. ขายหมูเห็ดเป็ดไก่สำเร็จรูป และ 3. ไอ้น้ำเมา สามกลุ่มนี้จะประสานงานกันหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่รอบที่แล้วมีการซื้อโฆษณากัน ซึ่งทั้ง 3 บริษัทนี้ได้ฟังตนพูดแล้วก็ขอให้ยุติ อย่าไปยุ่ง

ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมที่สนามหลวงที่มีข่าวว่าได้รับเงินและมีการกินข้าวฟรีนั้น ไม่อยากบอกว่าจ่ายเงิน แต่เป็นม็อบที่สร้างสีสัน ส่วนจะมีการเคลื่อนไหวรุนแรงอย่างที่มีการคาดการณ์รุนแรงในเดือน ส.ค.นี้ ตนจะบอกเอง

ถามว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ประกาศจะเคลื่อนไหวคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ปรองดองที่จะเข้าสภา ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษก พธม. ไปกินข้าวด้วยกันบ่อย ในอดีตเคยเป็นศิษย์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องยอมรับว่าคนตัวเล็กต้องแสดงบทบาทให้คนกลัวเกรง แต่งานนี้ยอมรับว่าไม่มีเงื่อนไขที่จะมาทำอย่างเก่า และถ้าใครชุมนุมตนดูแลหมด แต่อย่าเข้าทำเนียบ และตนได้บอกคนทั่วประเทศหากมีการคัดค้านอย่ามา กทม.เดี๋ยวจะเป็นเงื่อนไข ทั้งนี้ นายกฯ สั่งตนให้ทำความเข้าใจกับผู้ว่าฯ และตำรวจ ซึ่งตนจะเชิญมาหารือ จากนี้ต่อไปจังหวัดเดือดร้อน จะต้องไปดูแล หากดูไม่ได้ก็ร่วมกับตำรวจแก้ไขปัญหา หากจังหวัดใดแก้ไม่ได้แล้วมีประชาชนมาเรียกร้องที่ทำเนียบ ตนจะเรียนนายกฯ เพื่อปรึกษาโยกย้ายผู้ว่าฯ รัฐบาลไม่สามารถรู้ได้ดีเท่าผู้ว่าฯ ไม่ว่าจะม็อบใดๆ ก็ตาม ผู้ว่าฯ ต้องเป็นผู้จัดการปัญหาดังกล่าว

ถามว่าการตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เหมือนเป็นการลดอำนาจผู้ว่าฯ ลง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เรื่องนี้ถ้าไม่ให้อำนาจก็ไม่ได้ แต่ก็ใช้อำนาจมากเกินไป ก็ต้องค่อยๆ แก้กันไป ตนใจเย็นไม่ได้ใจร้อน อย่างม็อบ อปท.ที่มาชุมนุมก็สามารถคุยกันได้

เมื่อถามว่า กรณีที่สั่งย้ายผู้ว่าฯ หากปล่อยให้ม็อบมาชุมนุมเรียกร้องที่ทำเนียบจะเริ่มตั้งแต่เมื่อไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า จะมีการประชุม มันต้องมีเหตุผล ไม่อย่างคุณไม่รับผิดชอบ เช้าก็มาที่ทำเนียบ พอเอาเข้าจริงก็แก้ได้ ต้องมีการจัดระเบียบ

ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงวันครบรอบวันคล้ายวันเกิด เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ว่า ไม่ได้มีโทรศัพท์ทางไกลมาอวยพร ตนไม่ค่อยได้ติดต่อกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เวลาพูดเล่นว่าเป็นขี้ข้านั้นประชดพรรคประชาธิปัตย์ เพราะตนสนิทกับ พ.ต.ท.ทักษิณมากเกินกว่าจะแค่คุยโทรศัพท์ เพราะรู้จักมาตั้งนานแล้ว จะต้องโทรศัพท์ไปทำไม ตนมีมารยาท ที่ผ่านมาใช้คำแทนตัวอย่างไร และวันนี้เป็นอดีตนายกฯ เราก็จะต้องให้เกียรติกัน

ถามว่าปลายปีนี้ พ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับบ้านตามที่ได้ประกาศไว้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า มีแนวทางเพราะดูจากที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ร่าง พ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติ เสียคน เพราะไปบอกว่าร่าง พ.ร.บ.ปรองดองนี้คือเรื่องเงิน 4.6 หมื่นล้านเป็นคดีอาญา นักกฎหมายก็ขำกลิ้ง ส่วนปัจจัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับบ้านภายในสิ้นปีนี้ มาจาก พ.ร.บ.ปรองดอง เมื่อถามย้ำว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาพร้อม ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า แน่นอน และตนมั่นใจว่า พ.ร.บ.ปรองดองผ่านด้วย

ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิมในฐานะผู้อำนวยการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) กล่าวถึงการพูดคุยระหว่าง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับกลุ่มบีอาร์เอ็นในวันที่ 13 มิ.ย. ว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้นัดรับประทานอาหารกับ ผบ.ทบ. เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้กำชับในเรื่องการเตรียมการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นว่า คนที่จะไปต้องมาประชุมกับ ศปก.กปต.ก่อน แล้วค่อยหาข้อยุติ ทุกคนมีเจตนาดีแต่ต้องตกผลึกทางความคิดก่อน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกฯ ก็เห็นด้วย

เมื่อถามว่ากองทัพมีแนวคิดจะล้อมรั้วเหมือนภาคเหนือ เพื่อป้องกันการเข้ามาตามแนวชายแดน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เรื่องยุทศาสตร์ ตนได้บอกนายกฯ และหลายคน ว่าให้กองทัพตัดสินใจเพราะมีความรู้ และนักการเมืองอย่าไปยุ่งมากนัก รู้บาทรู้สลึงก็ไปคุยเป็นหมื่น ซึ่งกองทัพก็อยู่ในพื้นที่ คนพวกนี้ไม่เคยไม่ปฏิบัติงานในพื้นที่ แล้วจะรู้อะไร

ถามว่านายกฯ ได้เล่าถึงเรื่องที่พบกับมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ประเทศญี่ปุ่นหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คุยกันดี นายกฯ ไปไหนใครๆ ก็รัก ถามต่อว่าจะมีข่าวว่า มหาธร์จะช่วยเหลือเพราะเห็นด้วยกับการพูดจากับกลุ่มบีอาร์เอ็น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ก็ทำนองนั้น ถ้านายกฯ สั่งเมื่อไรตนก็ไป

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.รายจ่ายงบประมาณปี 57 ในวันที่ 29 พ.ค. ว่า นายกฯ สั่งตั้งแต่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมา นายกฯ ได้ให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลังรับผิดชอบ ต้องให้รองฯ เฉลิม รับผิดชอบด้วย ส่วนในเรื่องความพร้อมในการอภิปรายงบประมาณนั้น ตนว่าไม่มีอะไรเลย ตนได้รับมอบให้ดูแลเรื่องของข้อกฎหมายและความมั่นคง

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ฝ่ายค้านตั้ง 3 ประเด็นในการอภิปรายงบประมาณปี 57 ว่า ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตั้งไปเถอะ งบใช้จ่ายประจำ งบลงทุน งบประมาณผูกพัน งบต่อเนื่อง เป็นไปตามสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นไปตามกำหนดกระทรวงการคลัง และนโยบายรัฐบาล ก็มีเท่านี้ ถามว่าฝ่ายค้านจะตรวจสอบการทุจริตหากมีการหาผลประโยชน์ กล่าวว่า ไม่ใช่ หากเป็นเช่นนั้นต้องได้งบก่อน ค่อยนำไปใช้ แต่งบยังไม่ผ่านสภา ก็กล่าวหาว่าทุจริตแล้ว งบจะมีอะไร นักข่าวก็รู้เพราะอยู่มานาน ตนอยู่มา 30 ปีก็เห็นอย่างนี้ตลอด มีการง้างหมัด ชกโป้งเดียวจอด ตนคิดว่าเห็นผลโพลหรือไม่ว่า นายกฯ ยังได้รับความไว้วางใจ เป็นครั้งแรกที่คนไม่ค่อยไว้ใจฝ่ายค้าน