“ปานเทพ” วอนตุลาการศาล รธน.รวมคำร้องแก้ไขมาตรา 68 ฉบับพันธมิตรฯ เข้ากับ 4 คำร้องก่อนหน้า เพื่อไม่ให้ขาดช่วงกันและเติมเต็มหลักฐานให้สมบูรณ์ ชี้เปิดโอกาสให้สู้คดีความจะเป็นทางออกของประเทศ พร้อมย้ำยังไม่ชุมนุม ปล่อยแดงเรียนรู้ธาตุแท้นักการเมืองที่จับประชาชนเป็นตัวประกัน หวังนิรโทษพ่วง “แม้ว” จนทำให้การนิรโทษกรรมเฉพาะมวลชนถูกยื้อถึง 2 ปี
วันที่ 27 พ.ค. 56 นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
โดยนายปานเทพกล่าวถึงกรณีที่นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ แนะนำให้สภาควรนำร่าง พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นตัวหลัก แล้วนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของนายวรชัยมาร่วมว่า เรื่องนี้น่าจะมีความขัดแย้งกันเองในพรรคเพื่อไทยพอควร สืบเนื่องมาจากคนเสื้อแดงปลุกระดมกันมาตลอดว่าทหารฆ่าประชาชน รัฐบาลอภิสิทธิ์ฆ่าประชาชน ทำให้เสื้อแดงจำนวนไม่น้อยยอมรับไม่ได้ถ้านิรโทษกรรมให้ทหาร นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ แต่ตรงนี้มันยากเพราะถ้าเสื้อแดงเสนอร่างนิรโทษกรรมตัวเองเพียงอย่างเดียวจะเกิดความขัดแย้งทันที เพราะล้างความผิดให้คนกลุ่มเดียว ส่วนคนกลุ่มอื่นที่เหลือไม่ได้รับการยกเว้นความผิดด้วย เช่น ทหาร ทำไมยังต้องเผชิญความเสี่ยงต่อไป แต่ชายชุดดำกลับรอดได้
ถ้าจะไม่ให้มีความขัดแย้ง คือ ทุกกลุ่มต้องได้นิรโทษกรรมหมดถึงจะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ประโยชน์ไปด้วย ดังนั้นความคิดเสนอล้างความผิดให้เฉพาะมวลชน ผ่านมา 2 ปียังไม่สามารถเสนอได้ เพราะเขารู้ว่าถ้าล้างความผิดเฉพาะมวลชนคนเสื้อแดง ลำดับชั้นต่อไปมันจะยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะทหารคงไม่ยอม คนที่โดนเผาร้านค้า จะยอมได้อย่างไร รวมไปถึงฝ่ายการเมือง เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จากกรณี 7 ตุลา คนเหล่านี้จะยอมหรือถ้าไม่พ้นผิดไปด้วย แล้วต่อมาถ้าคนสองกลุ่มนี้ไม่มีโอกาสรอดแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณจะรอดได้อย่างไร เพราะเป็นกรณีที่ยากกว่าอีกเนื่องจากศาลตัดสินแล้ว
จึงไม่แปลกใจที่พูดเหมือนเอาร่างนายวรชัยเพื่อเอาใจคนเสื้อแดง แต่สุดท้ายก็เอาร่างฉบับของ ร.ต.อ.เฉลิม เข้าสู่สภา รัฐบาลก็ไม่กล้าพูดว่าลึกๆ แล้วฝั่ง พ.ต.ท.ทักษิณไฟเขียวเอาร่าง ร.ต.อ.เฉลิม น่าสนใจเพราะก่อนนี้มีร่างนิรโทษกรรมหลายร่าง ทำไมถึงไม่เสนอร่างเหล่านั้น แสดงให้เห็นว่ามีความขัดแย้งพอควรที่ลับลวงพรางขัดแย้งกันเอง
นายปานเทพยังกล่าวอีกว่า ไม่ว่ากรณีไหนพันธมิตรฯยืนกรานไม่เอาการแก้กฎหมาย หรือตรากฎหมายใดๆ เพื่อล้างความผิดให้ใครเลยแม้แต่พันธมิตรฯ ก็ตาม เพื่อไทยพยายามเสนอให้พันธมิตรฯ ยอมรับนิรโทษกรรม และโดนคดีความเพื่อบีบให้ยอมจำนน ถูกห้ามเคลื่อนไหวทางมวลชน แต่พันธมิตรฯ ไม่ยอมจำนน ยืนหยัดคัดค้านต่อไป เมื่อส่งสัญญาณเช่นนี้ไปรัฐบาลต้องคิดหนักว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ฉะนั้นการที่เราไม่ผลีผลามทำอะไรก่อนเวลาอันควร ปล่อยให้เกิดความขัดแย้งในเพื่อไทย ว่าจะเอาอย่างไร
เราไม่จำเป็นต้องไปชกล่วงหน้าโดยที่ไม่รู้ว่าเป้าที่แท้จริงของเขาต้องการอะไร และเชื่อว่าปล่อยให้เขาเลือกกันเองมันจะรู้ธาตุแท้ของนักการเมือง ว่าในที่สุดก็เอาประโยชน์ตัวเองมากกว่ามวลชนมาเป็นตัวตั้ง เขาต้องการเอาเสื้อแดงเป็นตัวประกันเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ แกนนำ รวมถึงนายสมชาย ไม่ปล่อยให้นิรโทษกรรรมเฉพาะมวลชน ทั้งที่ผ่านมาสองปีแล้ว
“การที่ให้เขาเรียนรู้ซึ่งกันและกันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในสถานการณ์นี้ ถ้าพันธมิตรฯ เคลื่อนไหวมวลชนก่อนเวลาอันควร พวกเขาจะรวมตัวกันทันที แต่ถ้าเราแสดงท่าทีว่าเราไม่เห็นด้วยอย่างไร เขาจะมีบทเรียนกันเองว่าใครคือของจริงใครคือของปลอม ใครคือนักฉกฉวยโอกาส ไม่เคยเสียสละให้มวลชน” นายปานเทพกล่าว
โฆษกพันธมิตรฯ กล่าวอีกว่า ปรากฏการณ์หน้ากากกาย ฟอว์กส์ ที่เพื่อไทยออกมาตอบโต้ สะท้อนว่าเขากังวลว่าจากโลกออนไลน์จะลงสู่ท้องถนน กลุ่มนี้เหมือนหัวเชื้อนำไปสู่การขยายเผยแพร่ ถ้าทำสำเร็จสามารถเกิดกระแสจุดติดได้นอกจอ
นายปานเทพยังกล่าวถึงการที่พันธมิตรฯเข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้วินิจฉัยการแก้มาตรา 68 โดยให้รวมพิจารณากับ 4 คำร้องก่อนหน้านี้ว่า หากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านใดท่านหนึ่งได้ฟังรายการอยู่ ขอวิงวอนว่าสิทธิของประชาชนเมื่อเขาเห็นประเด็นไม่ควรตัดสิทธิเขา ในการที่จะมีโอกาสพิจารณาร่วมกับ 4 คำร้องก่อนหน้านี้ ถ้าตัดสิทธิทำให้ขาดช่วงกัน เพราะหลักฐานใน 4 ช่วงแรก อาจไม่ครบถ้วนในเงื่อนไขเวลา ที่เราได้ค้นพบในเวลาต่อมา การเปิดโอกาสให้เราสู้คดีความ มันเป็นหนทางที่เราได้สู้กันตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อพันธมิตรฯเคารพหลักนิติรัฐ ก็หวังว่าที่แห่งนี้จะเป็นที่พึ่งที่จะเป็นทางออกของประเทศ เพื่อไม่ให้ประเทศวุ่นวาย