“ปานเทพ” ไม่เชื่อ ปชป.ชนะศึกผู้ว่าฯ ช่วยให้คานอำนาจได้จริง ชี้มีผลแค่ทางจิตวิทยาให้คนกรุงสบายใจมากกว่า เพราะปัจจัยหลักหยุดความเหิมเกริมรัฐบาลไม่ใช่กทม. แต่คือการเคลื่อนไหวของมวลชน พร้อมระบุประชาชนถูกปั่นหัวเรื่องขั้วอำนาจจนลืมมองประโยชน์ที่แท้จริง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ "คนเคาะข่าว"
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
ต่อข้อถามที่ว่า ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะช่วยต้านขบวนการรวบประเทศได้มากน้อยแค่ไหน นายปานเทพ กล่าวว่า วิธีป้องกันการกินรวบประเทศคือ ต้องให้อีกฝั่งหนึ่งเข้าไปแทนนั้นหรือ แล้วมันจะเป็นการแบ่งกันกิน หรือเข้าไปหยุดยั้งการทุจริต สนใจแต่ว่าเป็นคนละข้างแต่ไม่สนเรื่องการคานอำนาจได้จริงหรือเปล่า เพราะ กทม.ไม่ใช่ฝ่ายค้านอภิปรายรัฐบาล แต่มันเป็นเรื่องจิตวิทยา และความสบายใจมากกว่า ไม่อยากให้รู้สึกว่าเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองเพิ่งผ่านไปแล้วจะแพ้ได้อย่างไร เหมือนคน กทม.ไร้สติในการตัดสินใจ
แต่จริงๆ แล้ว ความเชื่อเรื่องคานอำนาจทำไม่ได้จริง ได้แค่ความสบายใจว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้ยึดครอง กทม. บางคนบอกว่า ถ้าเพื่อไทยชนะเขาจะย่ามใจแล้วเดินไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญ และออกกฎหมายปรองดอง ตนมองว่าถ้าเขาจะเดินก็เดินต่อ ไม่ใช่เพราะกทม. แต่ปัจจัยหลักที่เขาจะเดินต่อหรือไม่คือ การเคลื่อนมวลชนนอกสภามากกว่า มันไม่เกี่ยวกับ กทม.เลย จริงอยู่ถ้าเขาชนะ กทม. อาจมองว่าคน กทม.ไม่เคลื่อนแล้ว เลยเดินหน้าต่อ นั่นเป็นปัจจัยเสริมเท่านั้น ไม่ใช่ปัจจัยหลัก มันคานไม่ได้หรอก ได้แค่ความสบายใจ
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า ตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูดว่าส่งเสาไฟฟ้าก็ชนะ คน กทม.ไม่พอใจมาก แต่คิดกลับกันถ้าเราอยู่บนความกลัวอีกหน่อยประชาธิปัตย์ส่งเสาไฟฟ้าก็ชนะเช่นกัน แต่แปลกไม่มีคนพูดเรื่องการทุจริตใน กทม. ทั้งๆ ที่มีหนักมาก อาจเพราะคนกทม.ไม่สนใจในเรื่องเนื้อหา แต่ถูกปั่นหัวในเรื่องขั้วอำนาจ จนไม่มองประโยชน์ที่แท้จริง มันเลยกลายเป็นเครื่องมือของขั้วอำนาจทั้งหลายในการเข้ามาช่วงชิง
ตั้งขอสังเกตว่า ในทุกจังหวัดทั่วประเทศจะมีบรรยากาศรอบในเป็นขั้วหนึ่ง แล้วรอบนอกจะเป็นอีกขั้ว ถ้าตราบใดยังมีความคิดแบบนี้ โดยไม่มองประโยชน์ประชาชนส่วนใหญ่เป็นตัวตั้ง มันก็ง่ายต่อการสร้างวาทกรรมว่า นี่คืออำมาตย์ นี่คือไพร่ มันประดิษฐ์ได้ตราบใดที่ความคิดไม่สามารถเข้าใจปัญหาที่แท้จริงได้ มีคนดูถูกคนรอบนอกซื้อได้ด้วยเงิน แต่ในเมืองเลือกไปเพราะพวกเขาพวกเรา ตกลงเราควรเลือกด้วยวิธีคิดแบบไหนกันแน่ โดยที่เราไม่ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
ยกตัวอย่าง เช่น เรื่องพลังงาน ไม่มีพรรคการเมืองขั้วไหนมีแนวคิดนำกลับมาเป็นของชาติเลยเลย มองแต่พวกเขาพวกเรา สงครามขั้วอำนาจจะจบลงได้ถ้าคนที่อยู่ในขั้วอำนาจทำมันพังเสียเอง หรือไม่ทำพังแต่เปลี่ยนแปลงแล้วนำไปสู่การปฏิรูป หรือประชาชนเรียกร้องให้ปฏิรูปกดดันพรรคการเมืองให้เปลี่ยน แต่ปัจจุบันกลายเป็นขั้วอำนาจเสียส่วนใหญ่ คนต้องการฏิรูปกลายเป็นคนกลุ่มน้อย
นายพิภพ กล่าวว่า เอาจริงๆ คนสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งประเทศแค่ 1 ใน 3 พลังที่ต่อต้านเขาส่วนใหญ่อยู่ที่ กทม. กับเขตเทศบาลในต่างจังหวัด แล้วถ้าคน กทม.เคลื่อน คนในเขตเทศบาลก็สามารถเคลื่อนเข้ามาเสริมได้ง่าย ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สามารถทำตามใจชอบได้ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายปรองดอง หรือแก้รัฐธรรมนูญ ยิ่งผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ ออกมาแบบนี้ ทำให้เห้นว่าคน กทม.รับไม่ได้ แต่คน กทม.ก็ไม่ได้มีพลังมากพอในการต่อต้านการยึดอำนาจของเพื่อไทย และไม่สามารถตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันได้ เพราะเอาเข้าจริงๆ คนไทยทั้งประเทศสนใจเรื่องคอร์รัปชันมากแค่ไหน เพราะตอนประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็มีการทุจริตเช่นกัน
