xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ” โต้ “แม้ว” ประชามติไม่หมู เชื่อหลอกแดงไปเรื่อยๆ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ปานเทพ” ชี้ “แม้ว” เลี่ยงโหวตวาระ 3 หวั่นน้องสาวเจอข้อหาล้มล้างรัฐธรรมนูญ เชื่ออ้างประชามติหมูๆ แค่หลอกเสื้อแดง เพราะรู้ทั้งรู้เสียงไม่มีทางเกินกึ่งหนึ่ง มั่นใจรัฐบาลเลือกยื้อเกมแก้ รธน.ให้นานที่สุด เพื่อรักษาอำนาจ กอบโกยงบมหาศาลต่อไป

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

โดยนายปานเทพได้กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พูดถึงการลงประชามติแก้รัฐธรรมว่าหมูมาก ความจริงนั้นทักษิณไม่ได้มั่นใจอย่างที่พูด แต่เพื่อโน้มน้าวเสื้อแดงให้เชื่อตาม เพราะมีตัวแปรเยอะ

ตนคิดว่าที่ พ.ต.ท.ทักษิณถอยเรื่องลงมติวาระ 3 ซึ่งจริงๆ เสียงในสภามีพอ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณอ้างว่าไม่พอ เนื่องจากหากผ่านวาระ 3 แล้วประธานรัฐสภาต้องเอาไปให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใน 20 วัน เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย เมื่อนั้นถือว่านายกฯ ต้องร่วมรับผิดชอบในความผิดที่จะเกิดขึ้น เพราะต้องมีคนไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยอยู่แล้ว ฉะนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องเผชิญข้อหานำเรื่องไม่บังควรขึ้นทูลเกล้าฯ และหากศาลตัดสินว่าขัดรัฐธรรมนูญอาจมีโทษสูงสุดถึงขั้นยุบพรรค ตัดสิทธิทางการเมือง และอาจมีโทษทางอาญาในข้อหาล้มล้างรัฐธรรมนูญ โทษสูงสุดคือประหารชีวิต แต่ถ้าถึงมือนายกฯ แล้ว ไม่อยากมีข้อหา จึงไม่ทูลเกล้าฯ ใน 20 วัน และศาลก็วินิจฉัยไม่เสร็จภายใน 20 วัน เรื่องนี้ก็จะตกไปเลย ฉะนั้นทักษิณจึงต้องหาทางให้น้องสาวเสี่ยงน้อย เลยไม่เสี่ยงที่จะให้ลงมติวาระ 3

แล้วถ้าสมมติมีผู้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญจำนวนมากราย แต่ละรายต้องเรียกพยานหลายสิบปาก ระหว่างนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่ทรงพระราชทานคืนมา ภายใน 90 วัน จะไม่มีใครรู้ว่าทรงไม่เห็นด้วย หรือทรงรอคำวินิจฉัยของศาล ทุกอย่างก็จบ แล้วมาตรา 151 บัญญัติว่า “ร่างพระราชบัญญัติใด พระมหากษัตริย์ไม่ทรงเห็นชอบด้วยและพระราชทานคืนมายังรัฐสภา หรือเมื่อพ้น 90 วันแล้วมิได้พระราชทานคืนมา รัฐสภาจะต้องปรึกษาร่างพระราชบัญญัตินั้นใหม่ ถ้ารัฐสภามีมติยืนยันตามเดิมด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา” ซึ่ง 2 ใน 3 นั้นยากกว่าเดิมมาก ถึงเวลานั้นมั่นใจหรือว่ารัฐสภาจะกล้าลงเสียงถึง 2 ใน 3 ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย

จะเห็นว่าคนที่พูดให้โหวตวาระ 3 ส่วนใหญ่เป็นแกนนำเสื้อแดงที่ไม่ได้ตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี และพวกบ้านเลขที่ 111 ก็เพราะต้องการเข้ามานั่งในตำแหน่งแทนคนพวกนี้ และตัวเองไม่ต้องมีความเสี่ยงทางกฎหมายเลย

นายปานเทพกล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณเลี่ยงความเสี่ยงให้น้องสาวด้วยการอ้างชัยชนะการทำประชามติ ซึ่งดูกันจริงๆ แล้วยากมากที่คนออกมาใช้สิทธิจะเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง แต่ถ้าหากจะเลี่ยงมาเป็นการขอคำปรึกษาจากการลงประชามติ ซึ่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2552 ในมาตร 9 บัญญัติว่า “การออกเสียงเพื่อให้คำปรึกษาแก่คณะรัฐมนตรี ให้ถือเสียงข้างมากของผู้มาออกเสียงในการให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบในเรื่องที่จัดทำประชามติ” การให้คำปรึกษาต่อคณะรัฐมนตรีก็บอกแล้วว่าไม่เกี่ยวกับรัฐสภา ไม่ใช่ข้อยุติ แปลว่าอำนาจอยู่ที่รัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรีจะปฏิบัติหรือไม่ก็ได้เป็นแค่คำปรึกษา ที่สำคัญถ้าเกิดมติเห็นชอบลงวาระ 3 ก็ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลอีก จึงเห็นว่าการลงประชามติสุดท้ายแล้วจะไม่มีผลทางกฎหมาย ในเมื่อรัฐธรรมนูญนี้มาจากประชามติคนทั้งประเทศ จะใช้วิธีปรึกษาได้อย่างไร ต้องมีคนยื่นตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกอยู่ดี ฉะนั้นวิธีนี้ก็ไม่ได้ยุติความเสี่ยงต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์เลย

สุดท้ายแล้วก็จะหาทางออกไม่ได้ คงยื้อเรื่องนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จำทำได้ เป็นรัฐบาลไปเรื่อยๆ มีงบประมาณมหาศาลใช้




กำลังโหลดความคิดเห็น