ผ่าประเด็นร้อน
ถ้าบอกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน คือ ฉบับปี 2550 มีที่มาหรือต้นกำหนดจากเผด็จการ จากการรัฐประหารเมื่อปี 2549 ก็ใช่แล้วไง
แต่ขณะเดียวกันก็ต้องอธิบายว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันถือว่าได้รวบรวมเอาข้อเด่นข้อดี และอุดข้อด้อยหรือจุดอ่อนจากฉบับก่อนเอาไว้แทบทั้งหมด โดยเฉพาะการลอกเอาข้อดีของรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่หลายคนยกย่องว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยที่สุดฉบับหนึ่งมาจากประชาชน เพียงแต่ว่าได้เพิ่มความเข้มงวดกับนักการเมืองขี้ฉ้อขี้โกงให้หนักหนาสาหัสมากขึ้นเท่านั้นเอง
ถ้าอ้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีที่มาจากเผด็จการ ก็ต้องยืนยันว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่ได้รับการลงประชามติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียงกว่า 14 ล้านเสียง ได้รับเสียงสนับสนุนกว่าร้อยละ 57
ดังนั้น ถ้าเทียบกันระหว่างบรรทัดต่อบรรทัดต่อข้อความ ทุกวรรคกับรัฐธรรมนูญฉบับอื่น รับรองว่ามีความก้าวหน้าและมีความเป็นประชาธิปไตยให้อำนาจการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนไม่ด้อยกว่าอย่างแน่นอน
ตรงกันข้าม ในหมวดที่เกี่ยวกับการควบคุมนักการเมืองได้มีความเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะพวกนักการเมืองที่เป็น “นักธุรกิจการเมือง” ถึงกับร้องจ๊ากในเรื่องความผิดเกี่ยวกับการยุบพรรคและถูกตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งก็รวมไปถึงการกำหนดให้มีองค์กรอิสระให้เกิดการถ่วงดุลมากขึ้น
ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่นักการเมืองขี้โกงเกลียดมากที่สุดฉบับหนึ่ง อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะไม่ใช่เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ดีกว่าฉบับก่อนๆ
สำหรับพรรคเพื่อไทยจะว่าไปแล้วก็ได้รับประโยชน์จากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันนี้ไปเต็มๆชนะการเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินก็ด้วยรัฐธรรมนูญฉบับนี้แหละ และจากการบริหารภายใต้การนำของ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร มานานปีกว่าก็ไม่เคยปรากฏว่ารัฐธรรมนูญเป็นอุปสรรคใดๆเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะได้ประโยชน์อย่างไรก็ตามมันก็ยังไม่ใช่เป้าหมายทั้งหมด เพราะสิ่งสำคัญที่สุดก็คือตราบใดที่ความผิดของทักษิณ ชินวัตร ยังไม่ได้ลบล้างออกไปก็ย่อมหมายความว่าจะไม่มีการหยุดเคลื่อนไหวในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ความพยายามในการแก้ไขคราวนี้ก็เช่นเดียวกัน ความหมายไม่มีอะไรมากไปกว่าต้องการแก้ไขเพื่อลบล้างความผิดเพื่อคนๆเดียว นั่นก็คือ ทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ หรืออาจพ่วงพวกนักการเมืองที่ทำผิดบางกลุ่มเข้าไปด้วย แต่ปัญหาก็คือนับวันชาวบ้านเขารู้ทันมากขึ้นทุกวัน เพราะสิ่งที่เขากังวลที่สุดอยู่ในตอนนี้ก็คือเรื่อง “ปัญหาปากท้อง” เรื่องข้าวของแพงมากกว่า มาบ้าเรื่องคิดจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วชาวบ้านเขาไม่ได้เดือดร้อน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับประชาชนเลยแม้แต่น้อย และยังคิดว่าต่อให้แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นเทวดาแค่ไหนก็คงไม่ทำให้ผลงานของรัฐบาลชุดนี้ดีขึ้น อย่างไรก็ดี คนที่เดือดร้อนและทุรนทุรายจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีเพียง ทักษิณ เท่านั้น เพราะเขาไม่ได้ประโยชน์ ยังไม่อาจกลับเข้ามามีอำนาจทางการเมืองได้อย่างเปิดเผย อีกทั้งความผิดติดตัวก็ยังเป็นชนักปักหลังอยู่ เคลื่อนไหวไม่สะดวก
ที่ผ่านมามีความพยายามหลายอย่างที่จะใช้อภิสิทธิ์อยู่เหนือกฎหมาย ทั้งในเรื่องของการจะออกเป็นพระราชบัญญัติลบล้างความผิดโดยอำพรางมาในชื่อพระราชบัญญัติปรองดองแห่งชาติมาแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จมีคนต่อต้านอย่างหนักจนต้องถอยร่นไปชั่วคราว หรือก่อนหน้านี้ก็มีความพยายายามใช้เสียงข้างมากในสภา จากพวก “ลูกน้อง” ที่เป็น ส.ส.จะฉีกทิ้งทั้งฉบับด้วยการเสนอให้แก้ไขมาตรา 291 เพื่อนำไปสู่การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แต่ก็มาสะดุดอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าทำไม่ได้ จนต้องมาเปลี่ยนแผนใหม่จะใช้วิธีการลงประชามติก่อนการแก้ไข
แต่ปัญหาก็คือ ล่าสุดเริ่มมีความลังเลว่าจะใช้วิธีการลงประชามติแบบไหน แบบที่เป็นข้อยุติผูกมัดตามกฎหมาย หรือว่าเป็นแบบถามความเห็นธรรมดา เหมือนกับขอคำแนะนำให้กับรัฐบาล เพราะถ้าเป็นข้อยุติมันก็ต้องผูกผันกับกฎหมายและต้องผ่านด่านสำคัญอย่างน้อยสองด่าน นั่นคือต้องได้เสียงรวมกันตามตัวเลขล่าสุดต้องมากว่า 25 ล้านเสียงขึ้นไป ถ้าไม่ถึงก็ต้องจบเห่ และจะต้องถูกถามหาความรับผิดชอบจากรัฐบาลเพราะเป็นเจ้าภาพ ทั้งในเรื่องของการผลาญงบในการทำประชามติไม่น้อยกว่า 2 พันล้านบาท และด่านที่สองคือต้องมีคนเห็นชอบให้แก้ไขมากกว่า แต่ละด่านถือว่าหินทั้งสิ้น และโอกาสที่จะไม่ผ่านนั้นมีสูง ดังนั้นจึงเป็นที่จับตามองว่ารัฐบาลจะใช้วิธีลงประชามติแบบไหน จะใช้แบบลงมติแบบไม่มีผลผูกพันแบบสำรวจความคิดเห็น แต่จะนำผลที่ได้มาเป็นข้ออ้างในการแก้ไขหรือไม่
อย่างไรก็ดี เมื่อสถานการณ์ลากยาวมาถึงขั้นนี้แล้วถือว่ามันยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะใช้วิธีตบตาอำพรางแบบไหนชาวบ้านก็รู้ทันว่าการแก้รัฐธรรมนูญไม่ใช่เรื่องจำเป็น และเร่งด่วน อยู่ไปแบบนี้ไม่เห็นเดือดร้อนอะไร แต่ที่พวกเขากังวลมากกว่าก็คือจะทำอย่างไรให้รัฐบาลของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่บงการโดย ทักษิณ ชินวัตร มีผลงานสมราคาคุยมากกว่า ปัญหาน่าจะเป็นเรื่องนี้มากกว่า และที่สำคัญเป็นปัญหาของ ทักษิณ ไม่ใช่ปัญหารัฐธรรมนูญ!!