xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.ปชป.กู้ 2 ล้านล้าน ติงค่าปรึกษาแพงเวอร์ หวั่นบานปลาย “ชัชชาติ” ปัดตั้งที่ปรึกษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"กรณ์" เสียดาย รมว.คลัง ไม่เข้าฟัง ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ แจงในกมธ.พิจารณากู้ 2 ล้านล้าน ชี้ทำงานไปคนละทาง เหตุผู้ว่าฯแบงค์ห่วงความโปร่งใส หากดอกเบี้ย 5 เปอร์เซ็นต์ที่รบ.กู้เคลื่อน เสี่ยงหนี้หัวโต "สามารถ" ติง ให้บ.ที่ปรึกษาคิดราคา ค่าที่ปรึกษาจึงสูงเวอร์ เล็งต่อเหลือ 1.2 เปอร์เซ็นต์ "เจือ" เตือน" รบ.โครงการไร้แผนบำรุงรักษา หวั่นงบบาน เดจาวูเหมือนแอร์พอตลิงค์



วันนี้ ( 9 พ.ค. ) ที่รัฐสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ กมธ.เสียงข้างน้อย คณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศวงเงิน 2 ล้านๆ บาท ซึ่งนำโดยนายกรณ์ จาติกวานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และนายเจือ ราชสีห์ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โดย นายกรณ์กล่าวว่าจากการที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยได้เข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.ถึงประเด็นการกู้เงิน 2 ล้านๆบาท ว่าเป็นที่น่าเสียดายที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นประธาน กมธ.ชุดนี้ ไม่ได้เข้ามาร่วมรับฟังด้วย เพราะที่ผ่านมาดูเหมือนว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทยและรัฐบาลจะเดินไปคนละทาง ทั้งนี้ นายประสาร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีความกังวลเรื่องความโปร่งใสการใช้งบประมาณในโครงการต่างๆ และความคุ้มค่าการลงทุน อย่างไรก็ตามผู้ว่า ธปท.ได้ยืนยันว่าสภาพคล่องในระบบเพียงพอและสามารถรองรับการกู้เงินของรัฐบาลได้ แต่หากอัตราดอกเบี้ยคาดการณ์ 5 เปอร์เซ็นต์ของรัฐบาลคลาดเคลื่อนแม้เพียงเล็กน้อยก็จะส่งผลให้เม็ดเงินที่ต้องใช้คืนเพิ่มขึ้นจำนวนมหาศาลได้เช่นกัน

ด้านนายสามารถ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวมีค่าจ้างที่ปรึกษาสูงถึง 43,000 ล้านบาท อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง มูลค่า 14,300 ล้านบาท คิดเป็น 2.47 เปอร์เซ็นของค่าก่อสร้างโครงการ นอกจากนี้ ในโครงการรถไฟทางคู่ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนจากเดี่ยวโดยการสร้างเพิ่มอีกหนึ่งทาง โดยใช้ที่ปรึกษา วิศวกร ที่เป็นคนไทย อีกทั้งโครงการก็ไม่ได้ซับซ้อนกลับต้องใช้ค่าที่ปรึกษาสูงถึง3.91 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ค่าที่ปรึกษาในรถไฟความเร็วสูงคิดเป็น 1.44 เปอร์เซ็นต์ โดยค่าปรึกษานั้นเป็นตัวเลขที่บริษัทที่ปรึกษาคำนวณมาให้ทั้งหมด ซึ่งการที่ให้บริษัทที่ปรึกษาเป็นผู้คิดราคานั้นย่อมต้องเป็นราคาที่สูงมากอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ทาง กมธ.เสียงข้างน้อยจะขอต่อรองราคาให้ลดลงอีก 1.2เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้มีราคาเทียบเท่ากับค่าที่ปรึกษาของโครงการรถไฟความเร็วสูง

ส่วนนายเจือ กล่าวว่า การกู้เงิน 2 ล้านๆ บาท เพื่อดำเนินโครงการฯ ของรัฐบาลนั้นยังไม่รวมค่าบำรุงรักษา ซึ่งในส่วนค่าบำรุงรักษานั้นจะต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนมาก ซึ่งหากไม่มีการเตรียมการในส่วนนี้จะต้องประสบปัญหาเช่นเดียวกับที่แอร์พอตลิงค์กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมได้ปฏิเสธข้อเสนอของกรรมาธิการเสียงข้างน้อยในส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ที่ขอให้มีการตั้งที่ปรึกษากรรมาธิการ 3 คน ประกอบด้วย ดร.สุเมธ องค์กิตติกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติก สภาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ, รอง ศจ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม และนายบรรยง พงษ์พานิช ผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน และเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอรัปชั่นภาคเอกชน ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมว.คมนาคม ยืนยันต่อสาธารณะว่าจะให้มีการตรวจสอบการใช้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทอย่างโปร่งใส โดยมีการไปลงนามร่วมกับภาคเครือข่ายต่อต้านคอรัปชั่นในร่างข้อตกลงคุณธรรมเกี่ยวกับการใช้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท

แหล่งข่าวในที่ประชุมระบุว่า นายชัชชาติยังให้เหตุผลว่าถ้าจะมีการตั้งที่ปรึกษากรรมาธิการเพื่อตรวจสอบในเรื่องความโปร่งใส จะไม่ให้มีเอกชนเข้ามา โดยอ้างว่าควรทำเหมือนกับกรรมาธิการงบประมาณ นอกจากนี้ครือข่ายองค์กรภาคประชาชนเคยให้สัมภาษณ์ถึงการใช้งบ 3.5 แสนล้านบาทว่ามีข้อครหาเรื่องค่าหัวคิว 30% มีเพียงคำพูดเท่านั้น แต่กลับไม่มีหลักฐาน แสดงให้เห็นว่านายชัชชาติไม่ได้มีเจตนาที่จะให้มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใส แต่ใช้เครือข่ายสร้างภาพต่อสาธารณะเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ภาคเครือข่ายได้ส่งจดหมายถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง เพื่อขอร่วมตรวจสอบ แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ

นายต่อตระกูล กล่าวว่า ได้รับการทาบทามจากกรรมาธิการ ฯให้ไปเป็นที่ปรึกษาเพื่อให้ข้อมูลทางด้านวิศวกรรม แต่เมื่อกรรมาธิการฯ เสียงข้างมากไม่อนุญาตก็ไม่ติดใจอะไร เพียงแต่แปลกใจว่านายชัชชาติ เคยระบุว่า พร้อมให้มีการตรวจสอบอย่างโปร่งใสเกี่ยวกับการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท แต่ทำไมรัฐบาลซึ่งมีเสียงข้างมากในกรรมาธิการฯจึงปิดกั้นโอกาสของตัวเองตั้งแต่ขั้นตอนแรกในการรับข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ซึ่งจะทำให้การออกกฎหมายเงินกู้ 2 ล้านล้าน เป็นไปด้วยความรอบคอบ มีการใช้จ่ายเงินในโครงการที่เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับประเทศและประชาชน จึงรู้สึกเสียดายว่ากรรมาธิการฯตามระบบรัฐสภาที่น่าจะมีความเป็นประชาธิปไตย กลับมีความเป็นประชาธิปไตยที่ล้าหลังกว่าองค์กรธุรกิจ ที่ยังมีการรับฟังความเห็นหลากหลายจากฝ่ายต่างๆ ทั้งที่คนในรัฐบาลมักอ้างถึงความเป็นประชาธิปไตยอยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ตัวแทนองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น นำโดย นายประมนต์ สุธีวงศ์ ได้หารือร่วมเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตในการดำเนินโครงการของกระทรวงคมนาคม ในโครงการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท กับนายชัชชาติ และมีข้อตกลงร่วมกันในการลงนามข้อตกลงคุณธรรม เพื่อให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปด้วยความโปร่งใส และเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเขียนทีโออาร์ กระบวนการและเอกสารในการจัดซื้อจัดจ้าง ไปจนสิ้นสุดโครงการ และอนุญาตให้องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นเผยแพร่ข้อมูลต่อสาธารณะได้ จนทำให้องค์กรต่อต้านคอร์รัปชี่น แสดงความชื่นชมว่า นายชัชชาติ เป็นผู้บริหารที่มีความกล้าหาญ ยอมรับและสนับสนุนให้นำข้อตกลงคุณธรรมมาใช้ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นคนแรก






กำลังโหลดความคิดเห็น