xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค-เทือก” ไม่สนโดนเพิ่มอีก 2 คดี ลั่นฟ้องกลับ “ธาริต” และพวกใส่ร้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสุเทพ เทือกสุบรรณ (แฟ้มภาพ)
“อภิสิทธิ์-สุเทพ” ไม่หวั่น “ดีเอสไอ” ส่งหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหาสั่งฆ่า และพยายามฆ่าเพิ่มอีก 2 คดี เจ้าตัวลั่นไม่ให้รัฐบาลเอาคดีมาต่อรองออกนิรโทษกรรม ช่วย “นช.แม้ว” และบริวารเด็ดขาด กร้าวยอมติดคุกเพื่อรักษากฎหมายโดยไม่ยอมสยบให้อำนาจอธรรม “เทพเทือก” ยันการควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบจากการก่อจลาจล ก่อการร้ายในครั้งนั้นเป็นไปตามหลักของกฎหมาย ลั่นฟ้อง “ธาริต” และพวกทุกคดีที่ใส่ร้าย จวก “ทักษิณ” และพวกเหลิงอำนาจ เชื่อใกล้ถึงจุดจบ



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อยื่นหนังสือแจ้งให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ไปรับทราบข้อกล่าวหาต่อพนักงานดีเอสไอ ในวันที่ 14 พ.ค. 56 ใน 2 คดี ประกอบด้วย ข้อหาก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล กรณีการเสียชีวิตของ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา และฐานพยายามฆ่านายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการเข้าควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบในปี 2553 ภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็นคดีที่ 2 และ 3 หลังจากที่ดีเอสไอเคยแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วครั้งหนึ่ง

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าจะเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนพร้อมกับนายสุเทพตามที่ดีเอสไอนัดหมายเพื่อรับทราบการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งก็อยู่บนฐานแนวคิดเดิมของดีเอสไอที่เคยมีการแจ้งข้อหามาก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่นั้นจะต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาให้ชัดเจนก่อน โดยคาดว่าคงใช้เวลาไม่นาน แตกต่างจากคราวที่แล้วที่พนักงานสอบสวนมีการบรรยายข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายยาว แต่คราวนี้คงไม่ต้องเท้าความอะไรอีก

อย่างไรก็ตาม แรงบีบที่เกิดขึ้นไม่มีผลต่อจุดยืนของตนและนายสุเทพ นอกจากทำให้ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น และการดำเนินคดีต่อตนและนายสุเทพ หลายคดีก็จะส่งผลเพียงแค่ทำให้ต้องใช้เวลาไปกับการต่อสู้คดีมากขึ้น แต่ยืนยันว่าไม่ทำให้เสียสมาธิในการต่อสู้ทางการเมืองที่กำลังทวีความเข้มข้นมากขึ้นในหลายประเด็น โดยเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้สังคมเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้อำนาจรัฐในขณะนี้ เหมือนกับที่พรรคได้เขียนไปในจดหมายเปิดผนึกว่าทั้งตำรวจและดีเอสไอเป็นเครื่องมือทางการเมือง

“ผมเตือนไปแล้วว่าถ้าหวังว่าจะเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อต่อรอง ก็บอกได้ว่าไม่มีผล และไม่อยากให้คนมีหน้าที่ตามกฎหมายไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้ากระทำผิดกฎหมายผมก็มีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิเท่านั้นเอง”

ส่วนกรณีที่นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯ สมช.ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระบุว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอจะสะดุดพฤติกรรมของตัวเองไม่วันใดก็วันหนึ่งนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนย้ำไปหลายครั้งว่าใครก็ตามที่ไม่ทำตามเนื้อของกฎหมายในที่สุดก็ต้องรับผิดชอบ ทุกอย่างเป็นไปตามระบบ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเหตุใดนายธาริตจึงยังเดินหน้าแบบนี้ เพราะหากมีอำนาจการเมืองเข้าไปสั่งการในที่สุดแล้วคนใช้อำนาจตามกฎหมายต้องเป็นคนรับผิดชอบ

ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวยืนยันว่า การที่นายธาริตเจ้าเก่าดำเนินคดีต่อตนและนายอภิสิทธิ์เพิ่มนั้นเป็นสิ่งที่คาดหมายไว้อยู่แล้ว เพราะคนเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะยัดเยียดข้อหาสั่งฆ่า และพยายามฆ่าให้กับตนและนายอภิสิทธิ์มาโดยตลอด แต่ตนยืนยันว่าการทำหน้าที่ควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบจากการก่อจลาจล ก่อการร้าย มีการใช้อาวุธสงครามฆ่าทหาร ตำรวจ และประชาชนในขณะนั้นเป็นไปตามหลักของกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่คืนความสงบให้บ้านเมือง และดีเอสไอไม่มีอำนาจในการสอบสวนคดีนี้ เพราะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดังนั้นเมื่อมีการแจ้งข้อหาตนเพิ่มอีกสองคดีก็จะฟ้องกลับนายธาริตเพิ่มอีก 2 คดี ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเช่นเดียวกัน

นายสุเทพยังฝากถึงพนักงานสอบสวนด้วยว่า ตนจะใช้สิทธิทางกฎหมายตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อเห็นว่านายธาริตและพวกได้ทำตัวเป็นพนักงานสอบสวนทั้งที่ไม่มีอำนาจ แต่มีเจตนาที่จะเอาผิดตนกับนายอภิสิทธิ์ ด้วยการตั้งข้อหาทั้งตนและนายอภิสิทธิ์ไปเรื่อยๆ จนไม่สามารถกระดิกกระเดี้ยไปไหนได้ เพื่อหวังผลกดดันให้ยอมจำนนและบีบบังคับให้จำยอมในเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และสมุนบริวาร โดยกฎหมายที่จะออกมานั้นพยายามจะบอกว่าพวกตนจะได้ประโยชน์ด้วย ซึ่งทั้งตนและนายอภิสิทธิ์ยืนยันว่าไม่ต้องการได้รับการนิรโทษกรรม แต่เห็นว่ากฎหมายบ้านเมืองต้องศักดิ์สิทธิ์ ใครทำผิดต้องได้รับโทษ แต่ถ้าสู้คดีแล้วแพ้ก็ต้องรับโทษ นี่คือหลักของบ้านเมือง ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองก็จะไม่สงบสุข

“ผมเชื่อว่าความพยายามของรัฐบาลจะไม่สำเร็จ เพราะพวกผมมีหัวใจที่หนักแน่น ไม่ยอมสยบให้กับอธรรม หรือคนที่ใช้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้อง เราไม่มีวันยอมแม้ต้องแลกด้วยการติดคุกก็ตาม เป็นไงเป็นกัน ขอรักษาหลักการของบ้านเมืองและหลักการของกฎหมาย จึงขอย้ำว่าจะบีบบังคับอย่างไร พวกตนก็ไม่มีวันยอมจำนน แต่จะสู้คดีตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน โดยถือว่าเกิดมามีชีวิตในประเทศไทยช่วงอธรรมครองเมืองก็ต้องก้มหน้าก้มตาสู้คดีไป”

นายสุเทพยังเรียกร้องให้ประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้านการใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย อย่ายอมให้มีการใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรมและไม่ถูกต้อง อย่ายอมให้ใช้พวกมากเขียนกฎหมายยกเว้นโทษ ลบล้างความผิดให้พวกตัวเอง เพราะนั่นคือการทำลายหลักการที่สำคัญของบ้านเมือง และจะทำให้บ้านเมืองมีปัญหาต่อไปไม่สิ้นสุด ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบันทุกองค์กรต้องไม่หวั่นไหว แต่ต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ โดยเชื่อว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่กำลังถูกกดดันในขณะนี้ก็จะไม่หวั่นไหวเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เห็นว่าบรรยากาศทางการเมืองในขณะนี้กำลังนำไปสู่ปัญหา ซึ่งพรรคก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองและประชาชนก็ต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองในการรักษาประเทศด้วย

สำหรับสัญญาณที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งถึงพรรคเพื่อไทยนั้นทำให้เห็นชัดเจนขึ้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นนักโทษหนีคดีมีอิทธิพลบงการนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ให้ทำตามได้ทุกเรื่อง โดยมีความฮึกเหิม เหลิงอำนาจ ไม่เคารพกฎหมายและศาล ไม่ใช่นักประชาธิปไตย ซึ่งจะทำให้ชัยชนะของคนเหล่านี้ไม่ยั่งยืน เพราะในวันหนึ่งประชาชนจะทนไม่ได้ และวันนั้นก็จะได้รับผลกรรมที่สร้างขึ้น โดยในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ทำงานเพื่อประชาชนทั้งประเทศ แต่ทำตามคำบงการของพี่ชายโดยไม่คำนึงถึงความถูกผิด ถึงขนาดบิดเบือนข้อเท็จจริงในการปาฐกถาทำร้ายประเทศไทยในเวทีโลกอย่างที่ไม่เคยมีผู้นำชาติไหนทำมาก่อน


กำลังโหลดความคิดเห็น