xs
xsm
sm
md
lg

พท.ชูถิ่น “เจ๊แดง” เสียงแน่น บี้ ปชป.เลิกโทร.บีบ “ธาริต” หยุดโยงนิรโทษฯ “แม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย
โฆษก พท. อ้างหาเสียงน้อยหลัง “เยาวภา” เข้าวินเลือกตั้งซ่อมเชียงใหม่ แต่เสียงลด เทียบคะแนนไม่ต่างคนเก่า ตอก ปชป.เคารพ กม.เลิกโทร.กดดัน “ธาริต” คดีพิมพ์ลายนิ้วมือบริจาคเงินพรรค แจง ส.ส.-ส.ว.ร่อน จม.ไม่ฟังศาล รธน.รับพิจารณาแก้ ม. 68 กันถูกล่วงอำนาจ ปัดล้มองค์กรอิสระ ซัด “องอาจ” ใจแคบ กล่าวนิรโทษฯ อำพรางช่วย “แม้ว” ชี้อย่าขวางปรองดอง-ปชต. ย้ำ ถก BRN 29 เม.ย.ต่อ มีไฟใต้ยังเดือด



วันนี้ (22 เม.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 ที่นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งซ่อม ว่า ขอบคุณชาวเชียงใหม่ เขต 3 ที่มอบคะแนนไว้วางใจให้นางเยาวภา 7 หมี่นกว่าคะแนน จะเป็นกำลังใจให้พรรคขับเคลื่อนนโยบายตามที่ได้หาเสียงไว้ ซึ่งนางเยาวภา เป็นแกนนำพรรคเพื่อไทยจะช่วยขับเคลื่อนนโยบายพรรคและทำงานทั้งใน และนอกสภาให้เกิดความเข้มแข็ง แม้ผลคะแนนที่ออกมาของนางเยาวภา จะน้อยกว่าการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ก็ไม่ได้สะท้อนถึงความนิยมของพรรคลดลง แต่เนื่องจากมีเวลาหาเสียงน้อย ติดช่วงเทศกาลสงกรานต์ และมีจำนวนผู้มาใช้สิทธิไม่มาก ซึ่งคะแนนนางเยาวภา ได้ก็ต่างจากคะแนนที่ นายเกษม นิมมลรัตน์ ชนะการเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ไม่มาก

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณี นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุมีแกนนำประชาธิปัตย์บางคนโทรศัพท์มาตำหนิการทำงานดีเอสไอที่เรียกแกนนำพรรคประชาธิปัตย์มาแจ้งข้อหา และพิมพ์ลายนิ้วมือกรณีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุเป็นแค่การทำผิดเทคนิคเชิงกฎหมายว่า ไม่สบายใจที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์โทรศัพท์ไปต่อว่า นายธาริต เหมือนเป็นการกดดันเจ้าพนักงานหรือไม่ ที่ผ่านมานายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์เคยบอกว่า ไม่สามารถทำให้คนไทยทุกคนรวยเท่ากันได้ แต่ทำให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน แต่การที่มีแกนนำพรรคโทรศัพท์ไปกดดันดีเอสไอโดยอ้างว่า เป็นการทำผิดเทคนิคทางกฎหมายนี่คือ วาทกรรมทางการเมือง ขอเรียกร้องให้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์เคารพหลักนิติรัฐ นิติธรรม เลิกกดดันการทำงานของดีเอสไอ เพราะเป็นเรื่องน่าอับอาย หากมีหลักฐานก็จะร้องเอาผิดกับแกนนำพรรคที่โทรศัพท์ไปกดดันการทำงานของดีเอสไอ ซึ่งสมควรถูกประณาม

นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อถึงกรณี ส.ส.และ ส.ว.บางส่วนออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการรับคำร้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่า ทีมกฎหมาย พรรคเพื่อไทยเตรียมยกร่างจดหมายเปิดผนึกส่งถึงศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงประชาชนว่า การรับเรื่องวินิจฉัยการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราของศาลรัฐธรรมนูญไม่ถูกต้อง เป็นการก้าวล่วงอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากปล่อยให้มีการยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญต่อไป ระบบถ่วงดุลจะมีปัญหา เพราะอำนาจในการออกกฎหมายเป็นของสมาชิกรัฐสภา ยืนยันว่า การทำหนังสือเปิดผนึกถึงศาลรัฐธรรมนูญ และประชาชนครั้งนี้ไม่ใช่การขัดแย้ง หรือล้มองค์กรอิสระ แต่ต้องการให้รักษาหลักการแบ่งแยกอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการไว้

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณี นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งฉายา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เป็นการนิรโทษกรรมอำพราง เพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นการมองอย่างจิตใจคับแคบ เพราะ ส.ส.ที่สนับสนุนกฎหมายนี้ ยืนยันว่า ไม่มีแกนนำได้ประโยชน์ แต่ทำเพื่อช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่ม ให้เกิดความปรองดอง สามัคคี และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต้องติดคุกมาร่วม 3 ปี ไม่อยากให้พรรคประชาธิปัตย์นำเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม มาเป็นประเด็นการเมืองกระทบไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณและรัฐบาล อย่าขวางเรื่องการสร้างความปรองดอง และการสร้างประชาธิปไตย

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาสร้างความสงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับกลุ่มบีอาร์เอ็น ในวันที่ 29 เม.ย.ว่า เป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์เพื่อลดความรุนแรง แม้จะมีการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่เพื่อต่อต้านการเจรจาครั้งนี้ แต่การพูดคุยต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ใช้ความอดทน เพราะทุกฝ่ายเห็นด้วยกับการเจราจา แต่คงต้องเจรจาหลายครั้ง ใช้เวลานาน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ตกผลึกในการสร้างความปรองดองในพื้นที่


กำลังโหลดความคิดเห็น