xs
xsm
sm
md
lg

พท.อ้างไม่แจงศาล รธน.คือการต่อสู้แบบอหิงสา ขู่ ปชป.ประจาน “ปู” เจอฟ้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ (แฟ้มภาพ)
พท.อ้างไม่ส่งคำชี้แจงศาล รธน.เป็นการแสดงออกแบบอหิงสา ไม่ได้กดดันศาลฯ แค่ความเห็นต่างในทางกฎหมาย ปัดให้ท้ายสมุนแดงก่อม็อบบี้ศาลฯ พร้อมฉะ ปชป.เดินสายเล่นงานปาฐกถาขายชาติหวังดีสเครดิต “ปู” ขู่หากออกจดหมายเปิดผนึกประจาน “ยิ่งลักษณ์” จนเสียหาย เจอฟ้องแน่ ท้า “ชวน-มาร์ค-เทพเทือก” แน่จริงให้ร่วมลงชื่อ เหน็บ ปชป.ปฏิรูปพรรค แค่เล่นปาหี่ โวย 58 ส.ว.สรรหา ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เรียก นายกฯแจงปาฐกถาฉาวกับ กมธ.ไม่ได้



นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีทางเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังไม่มีสมาชิกรัฐสภา 312 คน ยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยจะครบกำหนดในวันที่ 15 พฤษภาคม 2556 ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนในฐานะที่เป็นสมาชิกรัฐสภาที่เข้าชื่อไม่ส่งคำชี้แจงเชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาอีก 311คน คงจะไม่ส่งคำชี้แจงเช่นเดียวกันไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพราะว่าในขณะนี้การแสดงออกของสมาชิกรัฐสภา 312 คน เราแสดงออกแบบอหิงสาเพื่อไม่ให้ใครมาช่วงชิงอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยเพราะบทบัญญัติรัฐธรรมนูญถือว่าสมาชิกรัฐสภาเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทยถือว่ามีอำนาจในการตรากฎหมายหรือแก้ไขบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นอำนาจของประชาชนในลักษณะที่ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยแบบตัวแทนโดยประชาชนใช้อำนาจเสนอกฎหมายผ่านสมาชิกรัฐสภา 312 คน จะทำหน้าที่ผู้แทนปวงชนชาวไทยรักษาไว้ซึ่งอำนาจอธิปไตย

“เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดขอให้ประชาชนผู้รักในประชาธิปไตยได้ให้กำลังใจ เรื่องการไม่ส่งคำชี้แจงโดยทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้กดดันศาลรัฐธรรมนูญหรือต้องการเอาชนะหรือจะไปขัดแย้งกับศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด แต่เป็นความเห็นต่างในทางกฎหมายของสมาชิกรัฐสภา 312 คนกับการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญ”

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวเรียกร้องไม่ให้ฝ่ายค้านหรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลมาเสี้ยมว่าเป็นการทำร้ายซึ่งกันและกัน เรื่องดังกล่าวควรให้ทุกฝ่ายมาตรวจสอบอำนาจหน้าที่ของตนเอง การที่จะมากล่าวหาว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำร้ายเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องไม่อยากให้ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์นำเรื่องดังกล่าวมาเป็นเกมการเมือง และทำร้ายสมาชิกรัฐสภาด้วยกัน เพราะฉะนั้นการไม่ส่งคำชี้แจงโดยทำหนังสือถึงศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 15 พฤษภาคม ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นความขัดแย้งแต่เป็นการเห็นต่างทางข้อกฎหมายซึ่งเชื่อว่าคงมีข้อยุติในที่สุด

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์จะทำจดหมายเปิดผนึกชี้แจงขอเท็จจริงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับประชาธิปไตยที่ประเทศมองโกเลียว่า สอดคล้องกับสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์พูดผ่านเวทีผ่าความจริงที่จังหวัดยโสธร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการกล่าวหาว่าการกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นการขายประเทศ ซึ่งตนมองว่าการออกจดหมายเปิดผนึกและการเดินสายของพรรคประชาธิปัตย์และมุ่งโจมตีปาฐกถาพิเศษของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นั้น เป็นเพียงเกมการเมืองเพื่อดิสเครดิตความน่าเชื่อของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งในประเด็นดังกล่าวเป็นการเล่นเกมการเมืองแบบไม่สร้างสรรค์ ตนมีความเห็นอยู่ 3 ประการ

1.สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคารพในสิทธิเสรีภาพของการแสดงความคิดเห็นของผู้อื่นตามที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองสิทธิ์และเป็นไปตามหลักการของประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาสภาพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฏร์ธานี ยังก้าวไม่พ้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลักคือยังก้าวไม่พ้นจึงลืมหลักการสิทธิเสรีภาพของการแสดงออก

2.การกระทำครั้งนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ในการออกจดหมายเปิดผนึกเป็นการยืนตรงข้ามกับหลักการประชาธิปไตย และที่สำคัญสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ถูกกล่าวหาว่าจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารจึงน่าจะซึมซับหลักการคิดเผด็จการ ทำให้ไม่เข้าใจว่าเวทีปาฐกถาพิเศษของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นเวทีแสดงความคิดความอ่านและหลักการของผู้นำชุมชนในโลกประชาธิปไตย

3.หากการออกจดหมายเปิดผนึกของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้บิดเบือนคำกล่าวปาฐกถาของน.ส.ยิ่งลักษณ์จนเกิดความเสียหาย ตนและฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยพร้อมจะดำเนินคดีกับผู้ที่ออกจดหมาย

โฆษกพรรคเพื่อไทย ยังท้าให้ นายชวน นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และแกนนำพรรคลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย อย่าลักษณะให้สมาชิกตัวเล็ก หรือโฆษกพรรค มาอ่านจดหมาย การออกจดหมายเปิดผนึกต้องเพื่อประโยชน์ต่อประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ ผมไม่แปลกใจ ในประเด็นที่ว่ามีการประชุมของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นำร่องไพรมารีโหวต เป็นการเมืองแบบเดิมๆ ตีสองหน้า หน้าหนึ่งเดินสายผ่าความจิรงกล่าวหานายกฯ อีกหน้าหนึ่งจะปฏิรูปพรรค แต่เมื่อดูคำให้สัมภาษณ์ของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ใช้เวทีปฏิรูปกล่าวโจมตี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำนองให้ท้ายคนชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นการกล่าวหาที่บิดเบือนข้อเท็จจริง

“ผมมองว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ปฏิรูปพรรคตรงไหน สุดท้ายใช้เวทีนี้กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ผมขอปฏิเสธไม่เป็นความจริง นายกฯไม่เคยให้ท้ายผู้ชุมนุม เพื่อไทยและแกนนำพรรคไม่ได้ให้ท้ายผู้ชุมนุม การชุมนุมเป็นสิทธิ์ประชาชนหากอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย และนายอภิสิทธิ์ให้ข้อมูลกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าอยู่อยู่เบื้องหลังการชุมนุมอีก เป็นการเล่นการเมืองตีสองหน้า ยืนยันรัฐบาลไม่มีใครสนับสนุนการชุมนุม”

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกลุ่ม ส.ว.ผู้รักชาติจำนวน 58 คน นำโดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา แถลงข่าวเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอโทษในการกล่าวปาฐกถาพิเศษโจมตีรัฐธรรมนูญและจะเรียกชี้แจงในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ของวุฒิสภานั้น ส่วนใหญ่เป็น ส.ว.สรรหา มาจากการแต่งตั้ง ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยไม่ผ่านการเลือกตั้ง แล้วมาเรียกร้องให้นายกฯ ขอโทษโดยไม่เข้าใจระบอบประชาธิปไตย

โฆษกพรรคเพื่อไทย อ้างว่า การปาฐกถาพิเศษเป็นการแสดงออกจากแนวคิดหลักวิชาการ การจะใช้เวทีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วุฒิสภาเป็นเครื่องมือ และอ้างจะมีใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียกนายกฯด้วยนั้น เรื่องนี้ตนไม่อยากให้ใช้เวที กมธ.เพื่อโจมตีทางการเมือง จะทำให้สถาบัน กมธ.เสียหาย ตนขอเรียกร้องให้ ส.ว.เลือกตั้งช่วยทำความเข้าใจกับ ส.ว.สรรหา 58 คน ที่จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ กมธ.จะทำให้ภาพลักษณ์สถาบันวุฒิสภาเสียหาย โดยใช้ กมธ.เป็นสิ่งไม่ถูกต้องและขอให้ ส.ว.กลุ่มนี้ละอาย ที่แสดงออกชัดเจนทำตัวน่าจะเป็นพวกยึดติดกลุ่มอำนาจเก่า น่าจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้

ส่วนที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยเสนอให้มีการพิมพ์เอกสารคำกล่าวปาฐกถาของนายกฯแจกทั่วประเทศนั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้คณะทำงานของพรรคเห็นว่าคำกล่าวปาฐกถาจนทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์และอาจเกิดความสับสนได้ ทำให้มีการหารือกันว่าจะนำคำกล่าวปาฐกถาของนายกฯเผยแพร่โดยใช้ช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค รวมถึงขณะนี้พรรคได้เปิดเวที “เพื่อไทยเพื่ออนาคตประเทศไทย” ที่จะเริ่มปราศรัยในวันที่ 11-12 พฤษภาคมนี้ โดยจะเดินสายเผยแพร่คำกล่าวปาฐกถาผ่านเวทีของพรรคตลอดช่วงปิดสมัยประชุมรัฐสภาโดยชี้แจงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเป็นการพูดบนข้อเท็จจริง ตามประวัติศาสตร์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นจริงไม่ได้พูดเอาประโยชน์เข้าตัวเอง อีกทั้งสมาชิกพรรคยังนำคำปาฐกถาที่แปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยเรียบร้อยแล้ว

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการชุมนุมในวันที่ 8 พฤษภาคม ของกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ไม่น่ามีความรุนแรงใดๆ เพราะผู้ชุมนุมก็ได้รับบทเรียนที่ผ่านมา ถ้าการชุมนุมไม่อยู่ในเสรีภาพก็ขาดการสนับสนุน ซึ่งการกล่าวหาของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นการดำเนินการการเมืองวังวนเดิมๆ การจะประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์และจะปฏิรูปพรรค ตนมองว่าน่าจะเป็นการปาหี่ทางการเมืองมากกว่า ไม่มีอะไรใหม่เล่นรูปแบบเดิมๆ

“ทางพรรคประชาธิปัตย์จะต่อต้านเผด็จการยืนอยู่ข้างประชาชน ขอให้พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 3 ร่างก่อน หลังถูกปล้นจากทำรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน2549 จนเกิดรัฐธรรมนูญจากกากเดนเผด็จการ ผมขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ปฏิรูปปากตัวเองก่อน อีกทั้งวิปฝ่ายค้านมีมติไม่สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ควรจะกลับมติวิปฝ่ายค้านด้วยการสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งผมจะส่งพวงมาลัยไปมอบด้วยตัวเองที่พรรค”


กำลังโหลดความคิดเห็น