กมธ.ถกแก้ ม.190 ปธ.ที่ประชุม แจ้ง เลขาฯกฤษฎีกา ส่งร่าง พ.ร.บ.ทำหนังสือสัญญา รอพิจาณาก่อนชง ครม. ปชป.แนะ ฟังนักวิชาการนำมาประกอบ พ.ร.บ. ซึ่งเป็น กม.ประกอบ ม.190 พท.บี้ ถกแก้ ม.190 เหตุ กม.ประกอบถกนาน กมธ.เห็นชอบ ม.1-2 ของร่าง รธน.มาตรา 190 ไม่แก้ไข แต่ให้คง ม.3-4 ไว้ สั่งเลขาฯ-กรมสนธิสัญญาฯ จัดการหนังสือสัญญา เพื่อแก้ ม.190 ให้ชัดเจน
วันนี้ (1 พ.ค.) ที่ อาคารรัฐสภา 2 มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ ... พ.ศ. ... มาตรา 190 ซึ่งมี นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร เป็นประธาน กมธ.ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าทางเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้จัดส่งร่างพระราชบัญญัติการทำหนังสือสัญญา พ.ศ. .... มายัง กมธ.ตามที่ได้ขอความอนุเคราะห์ ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจัดทำขึ้นร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ ร่างดังกล่าวเป็นเพียงร่างเบื้องต้นที่ทำขึ้นจากผลกระประชุมระดับเจ้าหน้าที่ของทั้งสองหน่วยงาน และยังคงมีประเด็นปัญหาที่จะต้องพิจารณาอย่างละเอียดเพื่อให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจนก่อนที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
โดยก่อนที่ประชุมจะเข้าสู่วาระการพิจารณา นายสรรเสริญ สมะลาภา ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอหารือต่อที่ประชุมว่า การประชุมในครั้งนี้ ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาได้จัดส่งร่าง พ.ร.บ.การทำหนังสือสัญญา มาให้ที่ประชุม กมธ.ตามที่ได้ร้องขอแล้ว ดังนั้นจึงเห็นว่าที่ประชุมควรได้รับฟังข้อเสนอแนะจากนักวิชาการหรือผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ก่อนเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาต่อไปว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ ซึ่งจะเป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญมาตรา 190 นั้น ว่ามีประสิทธิภาพและกำหนดชัดเจนหรือไม่ว่าหนังสือสัญญาฉบับไหนควรเข้าหรือไม่เข้าอย่างไร โดย กมธ.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ให้ความเห็นสนับสนุน
จากนั้น กมธ.ในส่วนของพรรคเพื่อไทย อาทิ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ส.ส.ขอนแก่น และ นายวิชาญ มีนชัยอนันต์ ส.ส.กทม.ได้เสนอให้พี่ประชุมได้พิจารณาลงไปในรายละเอียดในร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกำหนดประเด็นของการแก้ไข มาตรา 190 เลย เพราะการพิจารณากฎหมายประกอบนั้นยังมีประเด็นที่มีความละเอียดอีกมาก และในบางประเด็นได้เกินไปกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ไป ส่วนที่ผ่านมา กมธ.ก็ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากผู้ทรงคุณวุฒิและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกับมาตรา 190 ว่ามีปัญหาอะไรหรือควรแก้ไขตรงส่วนใดบ้างมาพอสมควรแล้ว ดังนั้น จึงอยากให้ที่ประชุมได้กำหนดประเด็นที่ต้องการแก้ไขให้ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมได้มีหารือถึงประเด็นดังกล่าว โดยได้มี กมธ.ร่วมสลับกันร่วมแสดงความคิดเห็น เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง กระทั่งได้ข้อยุติให้ที่ประชุมเข้าสู่วาระการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ซึ่ง กมธ.ได้ก็มีการพิจารณาในมาตรา 1, 2 และ 4 โดยให้ยกเว้นมาตรา 3 ไว้ เนื่องจากยังมีประเด็นที่เป็นอุปสรรคต่อการพิจารณาอีกมาก
จากนั้นที่ประชุม กมธ.มีมติเห็นชอบมาตรา 1 และ มาตรา 2 ให้ยืนตามร่างแก้ไขมาตรา 190 ผ่านไปโดยไม่ต้องแก้ไข ส่วน มาตรา 4 นั้น นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าควรมีการกำหนดระยะเวลาในการบังคับให้ออกกฎหมายประกอบมาตรา 190 ให้ชัดเจน เพราะปัญหาที่ผ่านมีเพียงแค่กำหนดระยะเวลาไว้ แต่ไม่มีการบัญญัติสภาพบังคับหรือบทลงโทษหากไม่มีการออกกฎหมายตามที่รัฐธรรมนูญไว้อย่างชัดเจน ซึ่งที่ประชุม กมธ.ได้เห็นตามที่นายเกียรติเสนอ
กระทั่ง นายกฤช ซึ่งทำหน้าที่ประธานในการประชุม ได้กล่าวสรุปว่า ที่ประชุม กมธ.มีมติเห็นชอบ มาตรา 1 และ มาตรา 2 ของร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 190 โดยไม่ต้องแก้ไข แต่ให้คง มาตรา 3 และมาตรา 4 ไว้ โดยมอบหมายให้ฝ่ายเลขาฯ กมธ.ไปรวบรวมและหนังสือสัญญาที่เข้ามาสู่การพิจารณาของรัฐสภา อีกทั้งมอบหมายให้กรมสนธิสัญญาและกฎหมายไปรวบรวมหนังสือสัญญาต่างๆ ที่หน่วยงานต่างๆ ได้มาขอความเห็นจากกรมสนธิสัญญาฯเพื่อนำมากำหนดกรอบและประเด็นปัญหาในการแก้ไขมาตรา 190 ให้ชัดเจนยิ่งขึ้นต่อไปในการประชุมในครั้งต่อไป
