xs
xsm
sm
md
lg

“ปานเทพ-อิฐบูรณ์” โต้กลับซีอีโอ ปตท. ท้าดีเบตไม่ตอบรับแสดงว่ากลัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“อิฐบูรณ์” ชี้ “ซีอีโอ ปตท.” หวังดิสเครดิตภาคประชาชน เดินหน้าซื้อสื่อโฆษณาชวนเชื่อ ย้ำคนไทยต้องแบกภาระน้ำมันแพงเพราะโครงสร้างสามานย์ บวกค่านำเข้าทั้งที่ผลิตในประเทศ ซ้ำเงินกองทุนฯ ยังถูกใช้เพื่อรองรับธุรกิจเครือ ปตท. ด้าน “ปานเทพ” ท้าดีเบต 3 ต่อ 3 ลั่นถ้าไม่ตอบรับแสดงว่าไม่กล้าเผชิญหน้ากับข้อเท็จจริง

วันที่ 2 เม.ย. 56 นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV

โดยนายปานเทพกล่าวถึงกรณี นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ซีอีโอ ปตท. กล่าวหาข้อมูลภาคประชาชนเป็นเท็จว่า เป็นคำพูดที่ไร้ความรับผิดชอบ เพราะไม่สามารถชี้แจงได้ว่าอะไรเท็จอะไรจริง แล้วช่วงนี้ ปตท.มีการดำเนินการประชาสัมพันธ์ซ้ำๆ ในหลายพื้นที่สื่อ จะเห็นได้ว่าเป็นการถามตอบชุดคำถามเดิมๆ โดยไม่สนใจข้อมูลที่โต้กลับจากภาคประชาชนเลย ด้วยเหตุผลนี้ภาคประชาชนจึงได้ท้าว่าถ้าข้อมูลเราเป็นเท็จ ให้ขึ้นเวทีสาธารณะเพื่อโต้ข้อกล่าวหา แต่ในที่สุด 2 สัปดาห์ผ่านไป ปตท.ก็นิ่งเงียบ แล้วดำเนินการประชาสัมพันธ์ข้างเดียวต่อไป

นายอิฐบูรณ์กล่าวว่า ยกตัวอย่างในหนังสือพิมพ์มติชน ทำเป็นว่าบทสัมภาษณ์ถูกทำขึ้นโดยทีมข่าวเศรษฐกิจ แต่ทำไมคำถามถึงตรงกับหลายๆ สื่อที่ออกไป ที่ว่าไทยผลิตน้ำมันได้ถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวันจริงหรือไม่ คำถามนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อต้องการดิสเครดิตภาคประชาชน ทั้งที่ไม่เคยมีใครพูดว่าผลิตน้ำมันดิบได้ 1 ล้านบาร์เรล มีแต่พูดว่าผลิตปิโตรเลียมทั้งระบบได้ 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไม่ใช่เจาะจงเฉพาะน้ำมันดิบ

นายปานเทพกล่าวเสริมว่า การถกเถียงเรื่องกำลังการผลิตนี้ มันนำไปสู่การตีความว่าเรามีปริมาณน้ำมันดิบมากจริงหรือไม่ จำเป็นต้องนำเข้ามากแค่ไหน คำตอบคือเราอาจไม่เพียงพอให้ใช้ก็ได้ แต่ไม่จำเป็นต้องนำเข้ามากขนาดนี้ เพราะเราเอาไปส่งออกนอกประเทศด้วย นายไพรินทร์บอกว่าน้ำมันดิบใช้ไม่ได้ทั้งหมด เพราะบางแหล่งมีปรอท จำเป็นต้องส่งออกขายต่างประเทศ นอกจากนี้ยังส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปให้ประเทศเพื่อนบ้านด้วย แต่นายไพรินทร์ไม่พูดให้ครบว่าได้ส่งข้ามทวีปไปถึงอเมริกาด้วย คำถามคือการส่งข้ามทวีปที่มีราคาแพงขนาดนี้ทำไมอเมริกาถึงเลือกน้ำมันจากไทย เหตุผลก็เพราะว่าปิโตรเลียมชั้นเยี่ยมกำมะถันต่ำอยู่ที่อ่าวไทย เป็นเหตุให้ปิโตรเลียมแถบอ่าวไทยราคาสูงที่สุด แพงกว่าของดูไบเสียอีก แต่คุณขายทรัพยากรคุณภาพชั้นเยี่ยมไปในราคาต่ำแสนต่ำ แล้วถ้าอ้างว่าปรอทเป็นปัญหา ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ได้บอกว่าปรอทเป็นเรื่องเล็กมาก ทั่วโลกเขากำจัดด้วยเทคโนโลยีที่ไม่ยากเลย แต่กำมะถันต่างหากที่เป็นปัญหาหนักกว่า ต้องใช้ต้นทุนในการกลั่นที่มากกว่า แต่ที่ ปตท.ไม่สนใจก็เพราะสามารถผลักภาระให้ประชาชนได้

นายอิฐบูรณ์กล่าวว่า ที่สำคัญวันนี้เงินกองทุนน้ำมันไปรองรับการใช้แอลพีจีของธุรกิจปิโตรเคมี แอลพีจีผลิตได้ในประเทศพอเพียงต่อผู้ใช้ทั้ง 3 กลุ่ม คือ ครัวเรือน รถยนต์ อุตสาหกรรม แต่ต่อไปถึงธุรกิจปิโตรเคมีไม่พอ แต่ดันกลับโครงสร้างให้ธุรกิจปิโตรเคมีได้ใช้ก่อน เพื่อดันให้กลุ่มอื่นไม่พอใช้ แล้วธุรกิจปิโตรเคมีรับผิดชอบกองทุนน้ำมันเพียง 1 บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่ภาคส่วนอื่นๆ จ่าย 12-13 บาทต่อกิโลกรัม

นายปานเทพกล่าวว่า เราต้องจ่ายค่ากินเปล่าคือ ค่าขนส่ง ค่าปรับปรุง ค่าประกันภัย ตกแล้ว 10 บาทต่อลิตร บวกกับเงินเข้ากองทุนน้ำมัน ที่ทำให้น้ำมันแพงขึ้น โดยอ้างว่ามีกองทุนฯ เพื่อพยุงราคาช่วยคนจน แต่ในที่สุดเกือบครึ่งหนึ่งเราต้องจ่ายเข้ากองทุนน้ำมันเพื่อแบกรับภาระก๊าซให้บริษัทปิโตรเคมี ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท.เอง เรากำลังถูกปล้นอย่างอยุติธรรม

ต่อกรณีที่นายไพรินทร์บอกว่า หากยกเลิกส่งออกน้ำมัน 4 หมื่นบาร์เรล ก็ไม่ได้มีผลให้ราคาลดลง เพราะถึงอย่างไรต้องเป็นไปตามกลไกตลาดโลก นายอิฐบูรณ์กล่าวแย้งว่า มันไม่มีผลจริง เพราะโครงสร้างราคาเนื้อน้ำมัน มันยังชั่วช้าอยู่ แล้วที่บอกส่งออก 4 หมื่นบาร์เรล ดูเหมือนเล็กน้อยมาก แต่นั่นส่งผลให้รายได้ธุรกิจในเครือ ปตท. 2 เดือนแรกของปี 56 ฟันกำไรไปแล้ว 5.5 หมื่นล้านบาท มองภาพรวมของปี 2555 ฟันกำไรส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป 3.9 แสนล้านบาท มากขนาดติดอยู่ในอันดับ 4 สินค้าส่งออกของประเทศไทย เศษน้ำมันที่เขาว่ามันคือหัวใจสำคัญของธุรกิจพลังงาน

ส่วนที่นายไพรินทร์โต้ว่า ปตท.ไม่ได้มีกำไรเยอะ นายปานเทพกล่าวว่า ปตท.ควบคุมกิจการพลังงานทั้งโครงข่าย สามารถผ่องถ่ายกำไรได้หมด จะให้กำไรมากหรือน้อย ถ้าอยากทำให้เปอร์เซ็นต์ต่ำๆ ยอดรายได้ 5 ปีที่แล้วอยู่ที่ 1.5 ล้านล้านบาท ปี 2555 ขึ้นมาอยู่ที่ 2.79 ล้านล้านบาท รายได้มโหฬารขนาดนี้บอกได้นิดเดียว

แล้วการจะทำให้เปอร์เซ็นต์กำไรน้อยลง ไม่ยาก ก็จ่ายให้มาก เพิ่มโบนัส ซื้อสื่อ ประชาสัมพันธ์เยอะๆ ฯลฯ นอกจากนี้น่าพูดความจริงว่านับตั้งแต่ซื้อกิจการโรงกลั่นมา จริงใช่หรือไม่วันนี้ ปตท.เป็นโบรกเกอร์นำเข้าน้ำมันแทนการซื้อตรงจากโรงกลั่นทั้งหมด ไม่ว่าบริษัทไหนซื้อผ่าน ปตท.หมด ต่อให้ ปตท.ไม่มีกำไรเลยก็จะได้รายได้มหาศาลอยู่ดี ทำให้เปอร์เซ็นต์กำไรซึ่งมีมากถูกกลบเกลื่อนไปว่ามีเปอร์เซ็นต์เหลือน้อยลง มันเป็นเทคนิคทางบัญชีให้ตัวเองดูดีขึ้น เพราะเมื่อบริษัทแม่ถูกจับตาเลยทำเปอร์เซ็นต์ให้ต่ำลงหน่อย แต่บริษัทลูกกำไรมโหฬาร

ปี 2544 ตั้งแต่แปรรูป เฉพาะเงินทุนใหม่ที่เข้าบริษัทเพื่อการลงทุนอยู่ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท แต่กำไรช่วง 12 ปีมานี้อยู่ที่ 9 แสนล้านบาท จะมีใครขายหุ้นในราคาต่ำขนาดนี้แล้วทำกำไรได้มากขนาดนี้ แล้วยังมาใช้เทคนิคทางบัญชีมาทำให้ประชาชนเห็นใจ

นายปานเทพยังกล่าวด้วยว่า นายไพรินทร์บอกว่าหาก ปตท.กลับไปเป็นของรัฐจะเกิดความไม่โปร่งใส ตนมองว่าแบบที่เป็นอยู่ครึ่งหนึ่งก็ถูกครอบงำจากรัฐ ซ้ำร้ายอีกครึ่งก็ต้องแสวงหากำไรสูงสุด ตกลงไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย ถ้าคิดจะผูกขาดรัฐต้องถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างน้อยราคาน้ำมันแพงขึ้นยังเอาเงินไปพัฒนาประเทศได้

นายปานเทพกล่าวปิดท้ายว่า การเคลื่อนไหวของนายไพรินทร์ซ้ำๆ สื่อต้องให้ความเป็นธรรมประชาชนด้วย บอกสักหน่อยว่าเป็นพื้นที่โฆษณา แล้วถ้า ปตท.บอกเราบิดเบือนข้อมูล ขอท้าให้ดีเบต เลือกมา 3 คน ส่วนภาคประชาชนจะเอา ส.ว.รสนา มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ม.ล.กรกสิวัฒน์ หรือตนก็ได้ ถ้าไม่ตอบกลับแสดงว่าไม่กล้าเผชิญหน้ากับข้อมูลของภาคประชาชน

กำลังโหลดความคิดเห็น