ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “ปานเทพ” ตอกหน้า “ปูนิ่ม” ขี้จุ๊ หาเสียงจะยกเลิกกองทุนน้ำมัน และลดค่าครองชีพ 2 ปีผ่านไปข้าวของแพงหูฉี่ พร้อมท้า ปตท.ดีเบตเปิดเผยข้อมูลราคาพลังงานให้ประชนรู้ภายใน 7 วัน หลังผู้บริหาร ปตท.ระบุถูกป้ายสีด้วยข้อมูลที่บิดเบือนผ่านสื่อออนไลน์
วันนี้ (24 มี.ค.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีรวมพลังปฏิรูปประเทศแก้ไขปัญหาพลังงาน “พลังงานไทย เพื่อใคร? ใครได้ ใครเสีย” ซึ่งจัดขึ้นโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.สตูล สงขลา ตรัง กระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมสินเกียรติบุรี อ.เมือง จ.สตูล โดยพูดถึงประเด็นราคาพลังงานที่ น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร เคยให้สัญญาไว้ในขณะหาเสียงเลือกตั้ง แต่เมื่อมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีการจัดตั้งรัฐบาลขึ้นก็ไม่ได้ทำตามที่พูดไว้
นายปานเทพ กล่าวว่า ถ้าต้องสูญเสียทรัพยากรของชาติไปไม่ว่าที่ใดของประเทศ ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมีความอุดมสมบูรณ์ และสวยงาม ทั้งทางทะเล และความอุดมสมบูรณ์อื่นๆ
“ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร พูดในขณะหาเสียงเลือกตั้งว่า หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล สิ่งแรกที่เราจะทำคือ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชน โดยการกระชากค่าครองชีพลงมา และยกเลิกกกองทุนน้ำมัน ซึ่งจะทำให้น้ำมันมีราคาลดลง โดยน้ำมันเบนซิน 95 ลดลงมา 7.50 บาทต่อลิตร น้ำมันเบนซิน 91 ลดลง 6.78 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลลดลง 2.20 ต่อลิตร เพราะพรรคเพื่อไทยทราบดีว่า ราคาน้ำมันเป็นเรื่องใหญ่ เป็นต้นทุนของเศรษฐกิจทุกประเภท ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ จะให้พี่น้องมาแบกรับภาระได้อย่างไร ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลได้ประกาศว่าจะยกเลิกกองทุนน้ำมัน จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้ทำจริง และจัดเก็บมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ”
นายปานเทพยังระบุอีกว่า ล่าสุด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาน้ำมันเบนซิน 95 ต้องเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันอีกกว่า 9 บาทต่อลิตร และปัจจุบัน ก็ไม่มีน้ำมันเบนซิน 91 ให้ประชาชนใช้ คนทั่วไปจะรู้ว่าเติมน้ำมันเบนซิน 91 จะคุ้มค่ากว่าการเติมเบนซิน 95 เพราะอัตราการระเหยน้อยกว่า และ ณ วันนี้เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่น่าเชื่อ คือ คนเสื้อแดงเริ่มขยับทวงคืนพลังงานจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยบอกว่า การขึ้นราคาน้ำมันเป็นการขูดเลือดขูดเนื้อกับประชาชน ทั้งนี้ มีคนตระกูลชินวัตรพัวพันกับ ปตท. และได้รับประโยชน์จากการขึ้นราคาน้ำมัน แต่คนเสื้อแดงก็ยังไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้ โดยเลือกที่จะเชื่อว่า ปตท.เป็นของอำมาตย์ ถ้าเป็นของอำมาตย์จริง รัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่มา 2 ปีแล้วทำไมไม่ทวงคืน
“ผู้บริหาร ปตท.ออกมาพูดว่า มีการบิดเบือนข้อมูลผ่านสื่อออนไลน์จำนวนมาก แต่จริงๆ แล้ว ปตท.ใช้เงินจำนวนมากซื้อสื่อเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร โดยไม่เคยบอกความจริงด้านอื่นให้ประชาชนรู้ ถ้าคิดว่าข้อมูลบิดเบือนจริง ผมขอท้าให้ ปตท. และกระทรวงพลังงาน มาเปิดเวทีโต้วาทีดีเบตกันเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลที่กังขา โดย ปตท. กับกระทรวงพลังงานจะส่งใครมาร่วมดีเบตก็ได้ แต่ภาคประชาชนขอส่ง ส.ว.รสนา โตสิตระกูล และหม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี ส่วนตัวแทนของพันมิตรฯ จะจับสลากกันระหว่างปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ กับ พ.ท.รัฐเขต แจ้งจำรัส ถ้าภายใน 7 วัน ปตท.และกระทรวงพลังงานไม่พร้อมเผชิญหน้า แปลว่าท่านไม่กล้าออกมายอมรับความจริงต่อหน้าประชาชน”
ที่สำคัญคือ ประเทศไทยมีแหล่งพลังงานเป็นของตัวเอง แต่เรากลับต้องซื้อน้ำมันในราคาแพงกว่าสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และสหรัฐอเมริกา ทั้งๆ ที่ประเทศเหล่านี้ไม่มีการขุดเจาะน้ำมัน และเขาซื้อน้ำมันดิบจากประเทศไทย ส่วนสาเหตุที่คนไทยใช้น้ำมันแพง เนื่องจากรัฐจัดเก็บค่าภาคหลวงจากต่างชาติต่ำมาก ขายต่างชาติถูก แต่ให้คนในประเทศตัวเองตัวเองใช้น้ำมันราคาแพง เพราะมีข้าราชการ และนักการเมืองจำนวนมากนั่งอยู่ในบอร์ด ปตท. และได้ประโยชน์ เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใน ปตท. และบริษัทในเครือ ยิ่งขายแพงก็ยิ่งได้กำไรมาก ยิ่งได้เงินปันผลเยอะ โดย 12 ปีที่ป่านมา ปตท. ได้กำไร 9 แสนกว่าล้านบาท
ปตท. ถูกสังคมตั้งคำถามว่า เป็นผู้ทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศใช่หรือไม่ ตระกูลชินวัตรถือหุ้นใน ปตท. แม้จะมีจำนวนหุ้นไม่มาก แต่ถ้าเป็นการถือหุ้นในยุคที่เรืองอำนาจก็จะเป็นผู้ได้ประโยชน์อย่างมหาศาล และในระหว่างการแปรรูป ปตท. ได้มีนอมินีจำนวนมากมาถือหุ้นในรูปแบบกองทุน โดยมาถือหุ้น ปตท. แบบไม่มีการเปิดเผยข้อมูล ไม่โปร่งใส หากมีนักการเมืองแอบถือหุ้นผ่านกองทุนเหล่านั้น เราก็ไม่มีทางรู้เลย ทั้งนี้ พันธมิตรฯ ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองให้มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้น ปตท. ถ้าศาลมีคำสั่งให้ ปตท.เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เราอาจได้ยินชื่อนักการเมือง ส.ส. ส.ว. และผู้พิพากษารวมอยู่ด้วย
ปตท.ถือหุ้นในโรงกลั่นเกือบทั้งหมด จำนวน 15-20% การที่คนไทยใช้เบนซิน 95 แพง เนื่องจากถูกบวกค่ากลั่น โดยระบุว่าไทยต้องใช้ราคาเดียวกับโรงกลั่นที่สิงคโปร์ เงินที่บวกเพิ่มอีก 10 บาทต่อลิตรเป็นการปรนเปรอให้แก่โรงกลั่นของ ปตท. นอกจากนี้ ค่าก๊าซหุงต้มก็จะปรับราคาขึ้นเช่นกัน ทั้งๆ ที่ผู้ใช้ก๊าซรายใหญ่คืออุตสาหกรรมลูกของ ปตท. ซึ่งซื้อก๊าซก๊าซไปใช้ในราคาถูกกว่าตลาด แต่ผลักภาระให้ประชาชนในภาคครัวเรือนรับผิดชอบ โดยการปรับราคาก๊าซขึ้นอีก ทุกวันนี้ ปตท. กินหัวคิว 2 ทาง ทั้งปรับราคาน้ำมันให้แพงขึ้นเก็บเงินจากภาคประชาชน และกุบัญชีว่าตัวเองมีรายได้ต่ำ ทั้งๆ ที่ให้โรงกลั่นทั้งหมดซื้อน้ำมันดิบผ่าน ปตท. เพียงเจ้าเดียว
“ต่อคำถามที่ว่า พันธมิตรฯ จะเดินหน้าเรื่องนี้กันอย่างไร ในเดือนเมษาที่จะถึงนี้มีวิกฤตหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเขาพระวิหาร และราคาพลังงานของไทย เรากำลังบ่มสถานการณ์ให้ประชาชนเตรียมพร้อม เมื่อเกิดวิกฤตเราจะเป่านกหวีดทันที เรื่องพลังงานเป็นการต่อสู้ของประชาชน 65 ล้านคน ต่อข้าราชการ และนักการเมืองขี้ฉ้อไม่เกิน 500 คนเท่านั้น” โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกล่าว
จากนั้น นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย ขึ้นเวทีรับช่วงต่อ โดยกล่าวอย่างออกรสว่าพี่น้องชาวใต้ต้องยอมรับว่า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายจตุพร พรหมพันธุ์ เป็นคนใต้ด้วย คือ “คนใต้ตีนทักษิณ ชินวัตร” โดยในขณะที่ นปช.เสื้อแดง ติดคุกจากคดีเผาบ้านเผาเมืองอยู่อีกกว่า 30 คน แต่ “อำมาตย์เต้น” กลับได้นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
นายชัชวาลย์ ยังระบุอีกว่า ประเด็นที่คนไทยทั้งประเทศต้องจับตามองพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลของรัฐบาลชุดนี้ คือ เรื่องการเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม การพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ การออก พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งประชาชนทั้งประเทศจะต้องแบกหนี้สินมหาศาลจากเงินจำนวนนี้ติดตัวไปอีก 50 ปี รวมทั้งเรื่องนโยบายการรับจำนำข้าว ที่เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มนายทุนเป็นหลัก ชาวนาไม่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง