แม้วรวยเงิน-รวยอำนาจโคตรๆ !!

เกาะกระแส

00 เชื่อว่าหลายคนเริ่มจับอาการและได้เห็นอุณหภูมิความตึงเครียดที่กำลังเกิดขึ้นนับจากนี้เป็นต้นไป หลังจากบรรดาลิ่วล้อของ ทักษิณ ชินวัตร รับงานมาผลักดันเรื่องสำคัญเข้าสู่สภา พร้อมๆกันทีเดียวแบบล็อตใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น "โคตรเงินกู้2.2ล้านล้าน" ร่างแก้ไขรธน.แค่เรื่องเดียวกแทบจะอ๊วกแล้ว แต่นี่เข้ามาพร้อมๆกันมันจะขนาดไหน แต่เอาเป็นว่าเมื่อสำคัญแบบนี้มันก็ต้องมีแรงจูงใจบางอย่างขับดันเป็นแน่

00 แน่นอนว่าหากไม่ปัญญาอ่อนจนเกินไปก็คงพอจะมองออกไม่ยาก ไม่ว่าเรื่องใดถ้าเป็นเรื่องใหญ่ทั้งในรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยรวมไปถึงในรัฐสภาก็เถอะล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ คนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวข้องทั้งสิ้น เพราะรับรู้กันอยู่แล้วเขาเป็นเจ้าของ และคนพวกนี้มีสถานะไม่ต่างจาก "ขี้ข้า"เท่านั้น หรือบางคนอาจมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน ถามว่าทั้งเรื่อง "พรบ.โคตรเงินกู้" กับ ร่างแก้ไข รธน.มันใหญ่แค่ไหนก็ต้องบอกว่า "มันใหญ่มาก" ถ้าผ่านไปได้มันย่อมคุ้มค่าแน่นอน

00 สำหรับเรื่องแรกก่อน นั่นคือ พรบ.เงินกู้2.2ล้านล้านบาทที่อภิปรายกันวันที่28-29 มีค. นี้ต้องเรียกว่ามีความสำคัญยิ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นตัวเงินจำนวนมหาศาลเป็นเงินกู้ต้องใช่้หนี้กันระยะยาวไม่น้อยกว่า 50 ปีทำให้หนี้สาธารณะพุ่งพรวดเกินเพดาน และคำถามก็คือถ้าวันหน้าคนในตระกูลชินวัตรถูกขับไล่ออกไปแล้วก็มีแต่คนไทยเท่านั้นต้องรับกรรม ที่น่าสังเกตก็คือการกู้ครั้งนี้เป็นการกู้นอกงบประมาณ นั่นคือไม่ผ่านร่างพรบ.งบประจำปี ทำให้การตรวจทำได้ยากหรือแทบตรวจสอบไม่ได้เลย เหมือนกับการกำหนดกรอบวงเงินเอาไว้ก่อนจากนั้นค่อยไปดำเนินการกู้มาทำโครงการขนาดยักษ์ทั้งสิ้น เหมือนกับว่าเอาเงินมาก่อนแล้วค่อยนำมาลงทุนในภายหลัง เพราะแต่ละโครงการที่อ้างว่าสำคัญล้วนแล้วแต่ไม่มีรายละเอียดยังไม่มีการตรวจสอบเรื่องสิ่งแวดล้อม ความคุ้มทุนคุ้มค่า

00 แน่นอนว่าเมื่อเป็นแบบนี้ทำให้หลายคนมองอย่างรู้ทันว่านี่เป็น "แผนทำมาหากิน" สะสมสะเบียงเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสำหรับเพื่อการเลือกตั้งคราวหน้า หรือแม้แต่การเพิ่มทรัพย์สินเงินทองสำหรับบางครอบครัว รวมไปถึงงานใหญ่สำหรับการสร้าง "สาธารณรัฐใหม่"ด้วยหรือเปล่า เพราะหากร่างพรบ.โคตรเงินกู้ผ่านไปแล้วคิวต่อมาก็คือการแก้ไขรธน.รายมาตรา ซึ่งหากพิจารณาอย่างรู้ทันก็ต้องบอกว่ามีผลต่อทั้งเงินอำนาจเช่นเดิม นั่นคือต้องจับตาที่มาตรา 190 จะแก้ไขให้การเจรจากับต่างชาติทั้งในเรื่องที่เกี่ยวกับอธิปไตยหรือสารสำคัญอื่นๆไม่ต้องผ่านการรับรองจากรัฐสภาอีกแล้ว สามารถทำมาหากินได้สะดวก "ธุรกิจ"ล้วนๆ อีกเรื่องหนึ่งก็คือ มาตรา 68 ต้องการแก้ไขให้ทำลายการ "พิทักษ์" รัฐธรรมนูญของประชาชนเป็นหมันไปทันที เพราะต่อไปหากจะยื่นเรื่องตีความหรือขัดขวางการย่ำยีรัฐธรรมนูญจะยื่นโดยตรงต่อศาลรธน.เหมือนในอดีตไม่ได้ ต้องยื่นผ่านทางอัยการสูงสุดเท่านั้น แค่นี้ก็หลับตานึกภาพออกแล้วใช่หรือเปล่า นี่แหละถึงได้บอกว่า หากผ่านได้ทั้งสองเรื่องนี้รับรองว่าต่อไปนี้ ถือว่า ทั้งเงินและอำนาจอยู่ในกำมือของ ทักษิณ เรียบร้อยแล้ว

00 ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่เมื่อเป็นงานใหญ่ ที่ต้องรีบเสี่ยงดันกันอย่างเต็มกำลังอีกรอบ ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาเสียก่อนไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินกู้กำมะลอ 30 ล้านบาทที่ ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ผัวนอกสมรส และเรื่องโครงการจำนำข้าวที่โกงทุกเม็ดที่ปปช.กำลังใกล้สรุปเต็มแก่ เพราะถ้าเกิดแจ็กพ็อตขึ้นมารับรองว่าเป็นเรื่องใหญ่ และนี่แหละถึงได้บอกว่าทำไมถึงต้องเร่งเกมในเดือนเมษาฯเพิ่มอุณหภูมิความร้อน ที่สำคัญต้องเร่งทำก่อนที่ปิดสมัยประชุมสภาในปลายเดือนหน้าเสียด้วย

00 อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้ต่างระดม สส.และหัวโจกคนเสื้อแดงทั้งหมดบรรดามี ไม่เว้นแม้แต่พวกข้าราชการที่ต้องไปเสนอหน้ารับใช้ อาสารับงานกันเต็มที่ เพราะเมื่อเป็นงานใหญ่ก็ต้องมีการเสนอตัวและสัญญาว่าจะให้รางวัลตอบแทน มีทั้งเรื่องตำแหน่งรมต. ทรัพย์สินเงินทอง ตำแหน่งความก้าวหน้าทางราชการ ควบคุมมวลชนฝ่ายตรงข้ามนัดกันไปเต็มพิกัด ทั้งจตุพร พรหมพันธุ์ ธิดา ถาวรเศรษฐ์ ต่างไปหมอบแทบเท้า ไม่สนใจว่าชาวบ้านเขาจะดูทุเรศเพียงใด เพราะขนาด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่เป็นรักษาการนายกฯถึงกับต้องทิ้งทำเนียบฯไม่สนใจใยดีกับสถานการณ์ชายแดนใต้ทิ้งภาระรับผิดชอบบินไปเสนอหน้ากับเขาด้วย แต่รายนี้อาจพิเศษกว่าคนอื่นตรงที่ไม่เหมือนเดิม โอกาสหลุดวงโคจรสูง !!