เส้นทางอำนาจ “เจ๊แดง” ต้องใช้บริการ “มัชฌิมา”

รายงานการเมือง

ข่าวคราวการปรับ ครม.คราวนี้มาไวกว่าที่คาด หลังเสร็จศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ก็เชิดฉิ่งกันทันที แต่ที่แปลกและน่าสนใจว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ก็คือการนำพรรคการเมืองอื่น และกลุ่มการเมืองอื่นเข้ามาร่วม “รัฐบาลปูกรรเชียง”!!

กระแสข่าวกลุ่มมัชฌิมา ของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” จะเข้าเสียบร่วมหอลงโรงกับรัฐบาลหนาหูเหลือเกิน ด้วยความสงสัยเชิงตรรกะและเหตุผลว่า มันมีความจำเป็นจริงๆหรือ ที่จะเอากลุ่ม มุ้ง เข้ามาร่วมรัฐบาลตอนนี้

เพราะมองตามหน้าเสื่อจำนวน ส.ส.ในสภา ฝ่ายรัฐบาลก็มีอยู่แน่นเอี้ยด เกินครึ่งไปไกล เสถียรภาพมั่นคง ลำพังพรรคเพื่อไทยพรรคเดียวก็เกินกึ่งหนึ่งแล้ว จะเอาใครเข้ามาอีกหาพระแสงอะไร เดี๋ยวก็โดนข้อหาเป็นแผด็จการรัฐสภาไปเสียฉิบ!!

ขณะเดียวกันจะต้องมีปัญหาภายในตามมาแน่นอน แค่หลับตาก็นึกภาพออก กลุ่มแก๊งในพรรคเพื่อไทย จอมโวยวายก็จะออกมาตามสันดาน ไม่ทันไร “แก๊งสระอิด” ก็ออกมาตีกัน สร้างกำแพงบล็อกกันแล้ว ด้วยความคิดเพียงว่า เอาเข้ามาทำไมให้เปลืองโควต้ารัฐมนตรี สู้เอาไว้ให้ลุ้นแย่งกันภายในดีกว่า

แต่ทว่าหลายครั้งหลายที พรรคการเมืองพรรคนี้มักทำอะไรแบบไร้เหตุผล ข้าจะเอาเสียอย่างใครจะทำไม ไม่ได้สนใจกระแสสังคม หรือความเสื่อมทรามที่จะตามมาแม้แต่น้อย

รู้กันดีว่า “สมศักดิ์” กับ “เจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” แกนนำระดับสูงพรรคเพื่อไทย สนิทสนมกันขนาดไหน หากย้อนไปดูความยิ่งใหญ่ของกลุ่มวังบัวบานในพรรคไทยรักไทยจะเข้าใจได้ดี 2 คนนี้ทำงานรู้ใจ คนหนึ่งเป็นฝ่ายบัญชาการ คนหนึ่งเป็นฝ่ายบัญชี!!

ชัดเจนว่า ความเคลื่อนไหวที่จะเสียบเข้าร่วมครม.คราวนี้ของกลุ่มมัชฌิมาต้องผูกโยง คอนเนคชั่นกับ “เจ๊แดง” ในเบื้องหลัง เจ้าแม่วังบัวบานไม่ปฏิเสธหากจะดึงเข้ามาผนึกกำลังสร้างฐานอำนาจของกลุ่มตัวเองในพรรคเพื่อไทย ทั้งยังอ้าแขนรับเต็มที่

แต่น่าสนใจ ว่าเหตุใดจึงมีบางสุ้มเสียงจากเครือข่ายคนเสื้อแดงอย่าง “ก่อแก้ว พิกุลทอง” แกนนำคนเสื้อแดง ออกโรงมาสนับสนุนกลุ่มมัชฌิมาด้วย ทั้งที่ความจริงแล้วไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน และน่าจะต่อต้านด้วยซ้ำ สืบไปสืบมาก็พบว่า “ก่อแก้ว” เป็นรุ่นน้องสถาบันเดียวกับ “สมศักดิ์” นั่นเอง

“ก่อแก้ว” จบปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (เกียรตินิยม) เมื่อ พ.ศ. 2531 ขณะที่ “สมศักดิ์” จบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในปี พ.ศ. 2521 รุ่นพี่รุ่นน้องสถาบันเดียวกัน 10 รุ่น

เมื่อมีแนวร่วมพอสมควรกลุ่มมัชฌิมาก็เดินเกมปล่อยข่าวสารพัดสารพัน จนมากเข้าๆ กลายเป็นอาการร้องแรกแหกกระเชอ นั่นก็สะท้อนว่ายังไม่มีความชัดเจนใดๆ ว่าจะได้ร่วมหอลงโรงกับรัฐบาลจริงๆ เพราะถ้าหากมีหลักประกัน มีการรับปากเป็นมั่นเหมาะแล้ว

คงนิ่งเงียบ รอแต่งตัวร่วมรัฐบาลอย่างเดียวก็พอ!!

วันนี้เจ้าของพรรคตัวจริงก็ยังเป็นคนเดิม นักโทษหลบหนีคดีอยู่ที่ต่างแดน “ทักษิณ ชินวัตร” หนทางเข้าร่วมรัฐบาลของกลุ่มมัชฌิมายังดูตีบตัน เพราะตรวจสอบคุณสมบัติแล้วไม่ผ่านด่านทักษิณ เพราะไม่ชอบพวกงูเห่า ทรยศ หักหลัง เข็ดเขี้ยวมานักต่อนัก

“เนวิน ชิดชอบ” นั่นก็คราวหนึ่งแล้ว วันนี้ยังเจ็บไม่หาย ตอนนี้ “สุรนันทน์ เวชชาชีวะ” ผู้เคยตีจากในยามยากก็ผยองมากร่างข้างกายน้องสาว สร้างความรำคาญใจกระอักกระอ่วน จะเตะทิ้งน้องก็ไม่ยอม “ทักษิณ” ต้องยอมให้ “สุรนันทน์” เกาะชายกระโปรงยิ่งลักษณ์ขึ้นมามีหน้ามีตาแบบหน้าไม่อาย

นายกฯ ปูกำลังหลงคำป้อยอจากคนใกล้ชิดแบบนี้ “ทักษิณ” หวั่นเหลือเกินจะไม่ได้กลับบ้าน!!

การจะเพิ่มพวกหวังดีประสงค์ร้าย อยากให้นายใหญ่กลับบ้านแต่ปาก เข้ามาอีก “ทักษิณ” ไม่เอาด้วยแน่ คนอย่าง “สมศักดิ์” ไว้ใจได้ที่ไหน เชี่ยวกรากเหลี่ยมคูทางการเมือง รู้หลบหลีกปลีกหนีเป็นที่สุด เมื่อเข้าตาจนจริงๆ ก็จะยึดประโยชน์และเอาตัวรออดมากกว่าสู้ตายถวายหัว

วีรกรรมที่เคยทำไว้ สมัย “สมศักดิ์” เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ จน “ทักษิณ” ต้องเอา เนวิน มาคานอำนาจ และสุดท้ายก็ปลดกลางอากาศ มันก็เรื่องผลประโยชน์ทำนองนี้ ทักษิณต้องตัดตอนก่อนพังทั้งคณะ

สำทับด้วยเสียงของ “ยิ่งลักษณ์” นายกฯ สมองกลวง ที่ย้ำแล้วย้ำอีกไม่อยากปรับ ครม.ตอนนี้ นัยหนึ่งก็ต้องการสร้างเพาเวอร์จากคำประกาศิตตัวเอง ว่าการปรับ ครม.อยู่ที่นี่ที่เดียว ต้องการแสดงให้เห็นว่าไม่มีใครบงการได้ ตามจังหวะ “หลงอำนาจ” งัดข้อกับพี่ชายตัวเองอยู่เนืองๆ นั่นก็ชัดเจนแล้วว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้จะมีเพียงพรรคชาติไทยพัฒนาเท่านั้นที่จะต้องปรับเปลี่ยน ส่วนอื่นๆ คงที่หมด!!

กลุ่มมัชฌิมาส่อแววต้องกินแห้ว ร้องเพลงรอต่อไป ไม่รู้ว่าภายใต้รัฐบาลชุดนี้จะมีโอกาสเข้ามาเสียบหรือไม่ หรืออาจต้องรอไปจนถึงการเลือกตั้งใหญ่คราวหน้านู่นเลยก็ได้

กระนั้นก็ตาม หากว่าวันหนึ่ง “เจ๊แดง” เข้ามามีบทบาทสูงขึ้นในวงกงสี ก็อาจจะมีการหยิบยกกรณีนี้ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง ล่าสุด “เยาวภา” เตรียมตัวลงสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เชียงใหม่ แทน “เกษม นิมมลรัตน์” คนขับรถ ในฐานะนอมินี ที่ลาออกไปเปิดทางให้เจ้าตัวกลับสู่สนามเบื้องหน้า

วางหมากกลตั้งรับกับปฏิบัติการจากฝ่ายตรงข้ามที่จะกระชาก “ยิ่งลักษณ์” ตกเก้าอี้นายกฯแบบสายฟ้าแลบ “เจ๊แดง” เสียบแทนช่วงรอยต่อ เป็นสมบัติตกทอดกันแค่ในตระกูล

เหตุผลสุดแสนชั่วอุบาทว์ ที่ประชาชนต้องก้มหน้ารับชะตากรรม แค่คิดว่านายกฯคนต่อไปคือ “เยาวภาหน้าซาลาเปา” ก็ไม่รู้จะอุทานเป็นเสียงอย่างไร

ทว่าในแง่มุมการเมือง กลับเป็นการสร้างความหวังเรืองรองให้กลุ่มมัชฌิมา แค่ “เยาวภา” ได้มาเป็น ส.ส. สร้างอิทธิพลในพรรคเพื่อไทยอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้นกว่าเก่าก่อน เข้ามาเป็นแกนนำใหญ่ดูแล ส.ส. แน่นอนว่าจะต้องเป็นกลุ่ม ก๊วนที่ใหญ่ที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ยามนั้น “เยาวภา” อาจมองหาคนช่วยที่รู้มือ นั่นก็หมายถึง “สมศักดิ์”

กลุ่มมัชฌิมาคงต้องรอต่อไปอีกสักหน่อย แต่น่าจะอีกไม่นานแล้ว เพราะสัญญาณมาแล้วว่า “เยาวภา” กำลังจะผงาด สุดท้ายคงได้ร่วมรัฐบาลเสร็จสมอารมณ์หมาย บนความหวาดกลัว หวั่นใจของประชาชน

กลุ่มผลประโยชน์เข้ามาสุมหัวกันในรัฐบาล แกนนำจอมงาบกลับมามีบทบาทลงสนามเต็มตัว มันเหมือนภาพเก่าๆ สมัยไทยรักไทย ยังไงยังงั้น การเมืองเชิงบริหารทุกวันนี้ก็ไม่ได้เรื่อง

บ้านเมืองภายใต้การนำของ “ยิ่งลักษณ์” ไม่พัฒนาไปไหน หนำซ้ำยังต้องมาเจอการเมืองรูปแบบเดิมๆ เข้ามาสวาปามประโยชน์ชาติอีกแล้ว