“ปู” แจกยิ้มชิ่งนักข่าว ปล่อย “ปุ้ม” แจงปรับ ครม.-ถกกรอบเจรจา “บีอาร์เอ็น” พรุ่งนี้

นายกฯ และชาวคณะกลับจากลาว ไม่ตอบปรับเก้าอี้ ครม. หันมาส่งยิ้มแล้วหนี เลขาฯ แจงยาว ยังไม่ส่งสัญญานอะไร มีแต่ข่าวจากสื่อ ปลอบ รมต.ที่มีชื่อในข่ายหลุดเก้าอี้ถ้ามั่นใจผลงานก็อย่าหวั่นไหว ส่วนโผทหารกลางปียังไม่เห็นชื่อ ส่วนเรื่องแก้ รธน.-พ.ร.บ.ปรองดอง ต้องรอเวลา เผย สมช.เตรียมรายงานกรอบการหารือเพิ่มกับกลุ่มบีอาร์เอ็นให้ นายกฯ-ผบ.ทบ.ทราบพรุ่งนี้

วันนี้ (13 มี.ค.) เมื่อเวลา 16.15 น. ที่ท่าอากาศทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางกลับจากการเยือนทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.โดยการดึงกลุ่มมัชฌิมามาร่วมรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้แต่ยิ้ม พร้อมกล่าวว่า “วันนี้ไม่มีอะไรค่ะ” โดยชี้ให้สัมภาษณ์นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ที่ยืนรอส่งขึ้นรถ

ด้านนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวการปรับ ครม.ว่า ยังไม่เห็นนายกรัฐมนตรีพูดอะไร ทั้งนี้เรื่อการปรับ ครม.นั้นอยู่ที่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว วันนี้ยืนยันว่ายังไม่มีข่าวอะไร คงต้องรอฟังจากนายกรัฐมนตรี ส่วนกระแสข่าวในช่วงนี้คงเป็นเรื่องที่พูดกันไปเอง ส่วนที่ทำไมเรื่องดังกล่าวจึงเกิดขึ้นในช่วงนี้นั้นตนเองก็ไม่ทราบ คงต้องถามกลับไปยังสื่อมวลชนที่เสนอข่าวดังกล่าวออกมา ตนเองก็สงสัยว่าทำไมช่วงนี้ข่าวการปรับ ครม.จึงเยอะเหลือเกินตนก็อยากรู้เหมือนกัน เมื่อถามว่าแสดงว่ามีการส่งสัญญาณอะไรออกมาจากแกนนำในรัฐบาล นายสุรนันทน์กล่าวว่า “ผมพูดแทนนายกรัฐมนตรีได้คนเดียวเลยว่าถึงตอนนี้นายกรัฐมนตรีไม่ได้มีสัญญานอะไรเลย ก็ยังอยู่ในขั้นตอนที่ต้องพิจารณากันไป”

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำให้การทำงานของรัฐมนตรีที่มีชื่อว่าจะถูกปรับออกสะดุดหรือหวั่นไหวหรือไม่ นายสุรนันทน์กล่าวว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีดูจากผลงาน ใครที่ทำงานก็ไม่ต้องไปหวั่นไหวอะไร และรัฐมนตรีที่มีชื่อก็ยังไม่เคยเห็นนายกรัฐมนตรีพูดอะไร เพราะฉะนั้นเรื่องการปรับ ครม.ตรงนี้คงต้องรอเวลาอย่างเดียว

เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มมัชฌิมา นายสุรนันทน์กล่าวว่า “ผมเห็นแต่ข่าวในสื่อมวลชน ในตึกไทยคู่ฟ้าไม่เห็นพูดอะไร”

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีได้พูดหรือไม่ว่าเหตุผลในช่วงเวลาที่รอนั้นคืออะไร เพราะในส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนาก็ส่งรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีมาแล้ว เลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ต้องรอนายกรัฐมนตรีขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ต่อข้อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการปรับ ครม.ในช่วง 1-2 เดือนนี้ นายสุรนันทน์กล่าวว่า “แหมพูดไปถึง 1-2 เดือนเชียววันนี้รอนายกฯ อย่างเดียว เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นครับ”

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการพิจารณาบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารกลางปี นายสุรนันทน์กล่าวว่า ตนในฐานะเลขาธิการนายกรัฐมนตรียังไม่เห็นเรื่องดังกล่าว

เมื่อถามถึงถึงความคืบหน้าเรื่องของ พ.ร.บ.ปรองดองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสุรนันทน์ กล่าวว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องรอการรายงานจากการพิจาณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาก่อน และที่รัฐบาลต้องรอเวลาเพราะการรอนั้นก็เพื่อทำให้เกิดความรอบคอบในการตัดสินใจ เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองหรือการบริหารราชการแผ่นดิน จังหวะนี้เราต้องใช้ความรอบคอบและดูในเรื่องของประเด็นให้เกิดความถี่ถ้วนก็จะทำให้การตัดสินใจนั้นเป็นประโยชน์กับประชาชนสูงสุด

เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมและจุดยื่นหลังที่ กกต.กทม.มีมติรับเรื่องร้องเรียนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร นายสุรนันทน์กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องรอความชัดเจนจากทาง กกต.กลางก่อน

ส่วนข้อเสนอการตั้งรัฐปัตตานี นายสุรนันทน์กล่าวว่า เรื่องปัญหาภาคใต้ วันเดียวกันนี้ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดย พล.ท.ภราดล พัฒนถาบุตร เลขาฯ สมช.เรียกประชุมและมีการวางกรอบงานต่างๆในการพูดคุยตามที่เป็นข้อตกลงไว้ ซึ่งจะมีการรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบในช่วงบ่ายวันที่ 14 มี.ค. เมื่อถามว่าหากมีการยื่นเงื่อนไขการตั้งรัฐปัตตานีจริงรัฐบาลมีการวางแผนและนโยบายไว้อย่างไร นายสุรนันทน์กล่าวว่า กรอบและแผนงานต่างๆยังอยู่ในขั้นตอนของ สมช.ซึ่งวันที่ 14 มี.ค.จะมีการประชุมภายในกับนายกรัฐมนตรีและมาลองดูว่ากรอบต่างๆ ที่วางไว้นั้นคืออะไร วันนี้ยังไม่มีนโยบายที่จะพูดไปถึงเรื่องใดๆทั้งสิ้นอย่างที่ปรากฎเป็นข่าว

เมื่อถามว่ารัฐบาลยังคงยึดหลักการใช่หรือไม่ว่าจะไม่มีเรื่องการแบ่งแยกดินแดนเกิดขึ้น นายสุรนันทน์กล่าวว่า รัฐบาลเรายึดหลักการดังกล่าวอยู่แล้ว ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญภายใต้ราชอาณาจักรไทย

เมื่อถามว่านายกฯ ได้กำชับอย่างไรบ้างก่อนที่จะไปเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็น นายสุรนันทน์กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าไม่ใช่การเจรจาแต่เป็นเพียงการพูดคุยและเป็นเพียงขั้นตอนแรกในการหาทางออกเพื่อลดความรุนแรง เพื่อลดการยิงหรือทำร้ายประชาชน เป็นการพูดคุยเพื่อหาทางออกมากกว่า กรอบในการพูดคุยก็ต้องรอว่า สมช.และคณะทำงานที่ไปหารือกันจะนำเสนออะไรให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบ โดยนายกรัฐมนตรีจะเชิญรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.มาร่วมนั่งพิจารณาด้วย