สะเก็ดไฟ
ท่ามกลางการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เข้มข้น เร่าร้อนขึ้นทุกขณะ แต่เมื่อเหลือบมองไปที่ปลายด้ามขวานสถานการณ์กลับร้อนแรง น่ากลัวมากกว่า สัญญาณอันตรายเริ่มบ่งบอกชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่ากลุ่มผู้ก่อการยังไม่ยอมง่ายๆ
ล่าสุดเกิดเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดในจังหวัดปัตตานี หลังจากที่ก่อนหน้านี้เกิดการปะทะกันจนกลุ่มผู้ก่อการตายไปหลายศพ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ต้องรีบกุลีกุจอเรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคง แสดงความขึงขัง หลังโดนจวกเละ
นินทากันทั้งเมืองว่า วันนี้รัฐบาลไม่เป็นอันทำอะไร นอกจากทุ่มพลังทั้งหมดสู้ศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ระดมพล ส.ส.ยันรัฐมนตรีหาเสียงทุกเช้าค่ำ งานด้านอื่นๆ หยุดไปหมด
ปัญหาภาคใต้ปะทุรุนแรงขึ้นมาอีกรอบ ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดแน่ชัด แต่ที่แน่ๆ เจ้าภาพหลักรับผิดชอบการแก้ไขปัญหาความไม่สงบภาคใต้ตอนนี้ยังไม่มี เบื้องแรกบอกว่านายกฯ จะดูด้วยตัวเอง ไปๆ มาๆ คนเทคแอ็กชันโชว์เพาเวอร์บ่อยๆ กลับกลายเป็น “เฉลิม อยู่บำรุง” เป็ดเหลิมรู้ทุกเรื่องแต่ทำได้ไม่ดีสักเรื่อง
การสั่งการตอนนี้ยังดูสับสนอลหม่านบ่อยครั้งที่ “เฉลิม” ขัดแย้งกับหน่วยความมั่นคงตลอดจนกองทัพ ออกมาทะเลาะผ่านสื่อให้เห็นกันเนืองๆ ข้อเสนอล่าสุดเรื่องการประกาศเคอร์ฟิวถูกตีตก หน้าแตกหมอไม่รับเย็บ
เสียงเร่งเร้าให้มีเจ้าภาพหลักหนาหูขึ้นทุกวัน พร้อมทั้งจี้ให้นายกฯหันมาเอาใจใส่เรื่องปัญหาภาคใต้อย่างจริงจังอย่ามัวแต่เสนอหน้าช่วย “จูดี้” พงศพัศ พงษ์เจริญ หาเสียงจนลืมงานบ้านงานเมือง
การปรับ ครม.ครั้งถัดไปจึงน่าจับตาเหลือเกินว่าจะมีการตั้งคนมาดูแลสะสางปัญหานี้หรือไม่ หรือจะเลือกปรับกันบนผลประโยชน์ ไม่ใส่ใจงานบริหารชาติบ้านเมืองเหมือนเคยๆ??
ภาพความสูญเสียในภาคใต้ทุกคนเห็นจนชินตาระคนสงสารจับใจ รัฐบาลจะบริหารแบบธุระไม่ใช่แบบนี้ต่อไปไม่ได้ วันนี้ “เฉลิม” ที่รับบทบาทตรงนี้ยังทำได้ไม่ดีเอาเสียเลย แม้แต่การลงพื้นที่ยังไม่เคยเห็น เอาแต่นั่งบัญชาการอยู่ในห้องแอร์เมืองหลวง เจ้าตัวเองก็ระบุชัดไม่พร้อมจะดูแลจริงจัง ดังนั้นก็เปลี่ยนตัวให้รู้แล้วรู้รอด ไม่ดีกว่าหรือ!!
การข่าวของ “เฉลิม” ก็เอาแต่ฟังการรายงานจากสายตำรวจ เพราะมาจากเถือกเถาเหล่ากอเดียวกัน ไม่ค่อยรับฟังจากหน่วยงานความมั่นคง หรือสายทหาร การทำงานมันเลยแปรผกผันกันอย่างที่เห็น
การออกมาพูดบนพื้นฐานของข้อมูลที่ไม่แน่นหนา และไม่ตรงกันทุกภาคส่วน ทำให้เกิดความเสียหาย ไม่แน่ใจว่าความพยายามที่จะประกาศเคอร์ฟิวมันไปกระทบจิตใจของคนในพื้นที่ นำมาซึ่งการก่อเหตุรุนแรงหรือเปล่า
เรื่องการเข้าถึง เข้าใจ พัฒนา ยังห่างไกลกับที่รัฐบาลชุดนี้กำลังทำอยู่ นอกจากการอัดงบประมาณลงไปแล้ว ก็ไม่มีเรื่องอื่นใดที่ทำอย่างเป็นรูปธรรม การพัฒนาด้านต่างๆ บอกว่าจะทำนั่นทำนี่ สร้างงาน สร้างอาชีพ สุดท้ายก็เป็นเพียงลมปากหวานหูไปวันๆ
ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลควรแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นวาระสำคัญเร่งด่วน เพราะแนวโน้มยิ่งปล่อยไว้ หรือบริหารกันแบบนี้ต่อไปสถานการณ์จะยิ่งรุนแรง
จะถือโอกาสปรับ ครม.ครั้งหน้าเอาคนรู้ปัญหามารับผิดชอบก็ทำเสียเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ “เป็ดเหลิม” เพราะพิสูจน์แล้วว่างานนี้ผิดฝาผิดตัว
ระหว่างนี้ก็ช่วยๆ ทำให้เห็นด้วยเถอะว่า เอาใจใส่ปัญหาภาคใต้ไม่น้อยกว่าภารกิจเลือกผู้ว่าฯ กทม.!!