วานนี้(4 ก.พ..56) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปรัฐลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เพื่อหารือกับนาย มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้จากกำหนดการเดิม ระหว่างวันที่ 4 - 9 ก.พ. แต่รัฐบาลมาเลเซียซึ่งมอบหมายให้นายมหาเธร์ ดูแลด้านพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนมาเลเซียและไทย ยังไม่แจ้งยืนยันวันเวลา ที่จะให้คณะของร.ต.อ.เฉลิมเข้าพบ ทำให้กำหนดการของร.ต.อ.เฉลิมเลื่อนออกไป ล่าสุดได้รับการยืนยันว่า จะไม่มีการยกเลิกการหารือครั้งนี้แต่อย่างใด
ขณะที่วันที่ 21 ก.พ. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประเทศมาเลเซีย จะเดินทางมาพบร.ต.อ.เฉลิม ที่ประเทศไทย
ก่อนหน้านี้รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายราจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดย ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่คุยกับแกนนำของกลุ่มก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ จนกว่าจะหารือในการแก้ไขปัญหาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ผู้ก่อตั้งเวปไซค์ไทยอินไซเดอร์ โพตส์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า “ได้คุยกับผู้ยิ่งใหญ่ที่มาเลเซียและได้สอบถามกรณีเหลิมบินไปหานายกฯมาเลเซียว่า..ปชช.ของทั้งสองประเทศจะได้ประโยชน์อะไรกับการไปเจรจาของเหลิมบ้าง..เค้าบอกผมว่า ยังไม่ได้คุยอะไรเลยทางเราก็พล่ามน้ำลายนองเป็นภาษาไทยและเค้าก็ไม่เข้าใจว่าพล่ามอะไรและหลังจากนั้นก็"เมา"และมีคน"จัดหา"ให้เพลิดเพลินอย่างเดียว ไม่มีสาระอะไรเพื่อปชช.ครับ..บอกกี่ครั้งแล้วว่า..ผมอยู่กับศูนย์อำนาจที่นั่นและร่วมงานทางธุรกิจกันมากว่า 20 ปี อย่ามาโม้ที่นี่เลย ผมตรวจสอบได้หมด”นายเอกยุทธระบุในเฟซบุ๊ค
** “เฉลิม” รอวันพบ “มหาเธร์”
ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ครูอาสาใน จ.ปัตตานี ถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยิงเสียชีวิตว่า ตนจะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ที่จะมีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์ และแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศปก.กปต.) ซึ่งตนจะหารือกับกองทัพ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง แล้วจะมีความชัดเจนว่าศปก.กปต.จะทำอะไรบ้าง และมีการแบ่งงานอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่เคยพูดคุยกับครูอาสาเป็นการภายในแล้ว แต่เขาไม่เชื่อ โดยคิดว่าไปทำความดี และเขามีความคลางแคลงใจ อย่างไรก็ตาม ตนเคยยกตัวอย่างแล้วว่าควรส่งตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) ลงไปสอนหนังสือแก่นักเรียนในพื้นที่ที่อันตรายจริงๆนั้น เพราะสามารถพกพาอาวุธได้ รวมถึงป้องกันตัวเองและครูในโรงเรียนได้
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า สำหรับการพบหารือกับนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซียนั้น ตนกำลังรออยู่ว่าจะเป็นวันใด เพราะศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) ระบุว่าเป็นช่วงวันที่ 4-9 ก.พ.นี้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดวันเข้าพบที่แน่นอน ซึ่งถ้าท่านพร้อมเมื่อใด ตนจะเดินทางไปพบทันที ทั้งนี้ ตนเห็นว่าอดีตนายกรัฐมนตรีมีบารมีที่จะสามารถช่วยพูดคุยกับกลุ่มต่างๆได้ ทั้งนี้ นายราจิบ นาซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เคยแนะนำตนว่ารัฐบาลมาเลเซียมอบหมายให้นายมหาเธร์ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและแนวชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย รวมถึงสามารถหารือกับคนได้หลายกลุ่ม
เมื่อถามว่า เชื่อมั่นว่าอดีตนายกรัฐมนตรีจะสามารถเป็นตัวกลางประสานความเข้าใจและความร่วมมือกับแกนนำที่ยังเข้าใจรัฐบาลไทยผิดใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนเชื่อว่าท่านทำได้ ขณะที่ฝ่ายต่างๆของไทยมีความเห็นตรงกันแล้วว่าต้องพึ่งพาประเทศเพื่อนบ้านในการพูดคุยกับกลุ่มเหล่านั้น แต่ไม่ใช่การเจรจา และต้องไม่มีผลที่ทำให้เกิดการแบ่งแยก
** "ประยุทธ์" ซัดพวกยิงไทยพุทธ-ไทยมุสลิม
ที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ผู้ก่อความไม่สงบยิงครูสอนทำนาในพื้นที่ จ.ปัตตานี เสียชีวิต ว่า ตนได้สั่งเจ้าหน้าที่ให้ติดตามตั้งแต่เกิดเหตุ และให้สำรวจว่า มีหน่วยงานไหนเอาคนนอกพื้นที่เข้ามาหรือไม่ เพราะบางทีอาจไม่ได้แจ้งกัน เมื่อไม่ได้แจ้งจะทำให้เกิดช่องว่าง คนที่ไปทำงานในพื้นที่ภาคใต้ถือเป็นเรื่องดีและเป็นน้ำใจของคนภาคกลาง เพราะเป็นการฟื้นฟูนาร้างตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้งนี้ ต้องไปทบทวนว่าจะแก้ช่องว่างพวกนี้อย่างไร ซึ่งทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) แสดงความเป็นห่วง และสั่งการมายังตนขอให้ดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้เข้มข้นมากขึ้น ซึ่งตนได้สั่งการให้คนในพื้นที่ทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยจะมีการปรับกำลังทั้งพลเรือน ตำรวจ ให้รับผิดชอบงานในเชิงรับมากขึ้นในพื้นที่ที่ไม่รุนแรงมากนัก เพื่อจะได้นำทหารไปปิดกั้นส่วนอื่น ซึ่งอีกประมาณ 2-3 เดือนเมื่อตำรวจได้รับการอนุมัติให้ทำงาน ทางทหารจะแบ่งมอบพื้นที่ให้ตำรวจทำงาน
"ยืนยันว่า การทำงานไม่สับสน และมีความชัดเจน โดยเราได้จัดรองแม่ทัพภาคทุกกองทัพภาคไปเป็น ผบ.ฉก.จังหวัด โดยจัดกำลังลงไปทั้งหมด 16 กองพัน เพี่อประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด โดยจะมีการปรับพื้นที่ให้มีการสอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ถือเป็นการแก้ปัญหาในระยะที่สอง คือ การสร้างความเข้มแข็งให้หน่วยงานในพื้นที่ หากสถานการณ์ดีขึ้นจะค่อยๆ ปรับกำลังออก แต่ถ้ายังไม่เรียบร้อยก็ปรับอะไรไม่ได้ ขอร้องให้ประชาชนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในเรื่องการข่าว วันนี้ต้องแยกให้ออกว่า สถานการณ์เกิดขึ้นจากอะไร ซึ่งการที่มีการทำร้ายทั้งคนไทยพุทธและไทยมุสลิมนั้นความจริงไม่น่าทำร้ายคนทั้ง 2 พวก ดังนั้น แสดงว่าต้องมีปัจจัยอื่นด้วย ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์อย่างเดียว อาจมีเรื่องส่วนตัว การเมืองท้องถิ่น หรือภัยแทรกซ้อนที่มีการหักหลังธุรกิจ โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ผมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะที่เป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรมให้ติดตามทุกคดีว่า มีคดีความมั่นคงกี่คดี ซึ่งเขาต้องการพยายามสร้างความบาดหมางให้กับคนสองศาสนา โดยสถิติปีที่แล้ว 7-8 พันคดีเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนอีก 2 พันกว่าคดีเป็นคดีความมั่นคง ส่วนที่เหลือเป็นคดีทั่วไป" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
**ส.ว.ประนามคนร้ายยิงครูชาวนา
การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธาน ก่อนเข้าสู่วาระเป็นการหารือของสมาชิก ซึ่งมีการหยิบยกปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้เข้าหารือ พร้อมขอประนามคนร้ายที่ลอบยิง นายถนอม ขำเกื้อ ครูชาวนาจากจังหวัดสิงห์บุรีและสุพรรณบุรี ที่มาสอนปลูกข้าวตามโครงการฟื้นฟูนาร้างของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ที่อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี และขอประนามเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมขอสนับสนุนโครงการของ ศอ.บต. เพื่อสรรค์สร้างสิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาให้เกิดความสันติสุขโดยเร็ว
ขณะที่วันที่ 21 ก.พ. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประเทศมาเลเซีย จะเดินทางมาพบร.ต.อ.เฉลิม ที่ประเทศไทย
ก่อนหน้านี้รองนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายราจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดย ร.ต.อ.เฉลิม ยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่คุยกับแกนนำของกลุ่มก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ จนกว่าจะหารือในการแก้ไขปัญหาแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น นายเอกยุทธ อัญชันบุตร ผู้ก่อตั้งเวปไซค์ไทยอินไซเดอร์ โพตส์ข้อความในเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า “ได้คุยกับผู้ยิ่งใหญ่ที่มาเลเซียและได้สอบถามกรณีเหลิมบินไปหานายกฯมาเลเซียว่า..ปชช.ของทั้งสองประเทศจะได้ประโยชน์อะไรกับการไปเจรจาของเหลิมบ้าง..เค้าบอกผมว่า ยังไม่ได้คุยอะไรเลยทางเราก็พล่ามน้ำลายนองเป็นภาษาไทยและเค้าก็ไม่เข้าใจว่าพล่ามอะไรและหลังจากนั้นก็"เมา"และมีคน"จัดหา"ให้เพลิดเพลินอย่างเดียว ไม่มีสาระอะไรเพื่อปชช.ครับ..บอกกี่ครั้งแล้วว่า..ผมอยู่กับศูนย์อำนาจที่นั่นและร่วมงานทางธุรกิจกันมากว่า 20 ปี อย่ามาโม้ที่นี่เลย ผมตรวจสอบได้หมด”นายเอกยุทธระบุในเฟซบุ๊ค
** “เฉลิม” รอวันพบ “มหาเธร์”
ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ครูอาสาใน จ.ปัตตานี ถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยิงเสียชีวิตว่า ตนจะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ ที่จะมีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์ และแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศปก.กปต.) ซึ่งตนจะหารือกับกองทัพ ตำรวจ และฝ่ายปกครอง แล้วจะมีความชัดเจนว่าศปก.กปต.จะทำอะไรบ้าง และมีการแบ่งงานอย่างชัดเจน ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่เคยพูดคุยกับครูอาสาเป็นการภายในแล้ว แต่เขาไม่เชื่อ โดยคิดว่าไปทำความดี และเขามีความคลางแคลงใจ อย่างไรก็ตาม ตนเคยยกตัวอย่างแล้วว่าควรส่งตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) ลงไปสอนหนังสือแก่นักเรียนในพื้นที่ที่อันตรายจริงๆนั้น เพราะสามารถพกพาอาวุธได้ รวมถึงป้องกันตัวเองและครูในโรงเรียนได้
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า สำหรับการพบหารือกับนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซียนั้น ตนกำลังรออยู่ว่าจะเป็นวันใด เพราะศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) ระบุว่าเป็นช่วงวันที่ 4-9 ก.พ.นี้ แต่ตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดวันเข้าพบที่แน่นอน ซึ่งถ้าท่านพร้อมเมื่อใด ตนจะเดินทางไปพบทันที ทั้งนี้ ตนเห็นว่าอดีตนายกรัฐมนตรีมีบารมีที่จะสามารถช่วยพูดคุยกับกลุ่มต่างๆได้ ทั้งนี้ นายราจิบ นาซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เคยแนะนำตนว่ารัฐบาลมาเลเซียมอบหมายให้นายมหาเธร์ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและแนวชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย รวมถึงสามารถหารือกับคนได้หลายกลุ่ม
เมื่อถามว่า เชื่อมั่นว่าอดีตนายกรัฐมนตรีจะสามารถเป็นตัวกลางประสานความเข้าใจและความร่วมมือกับแกนนำที่ยังเข้าใจรัฐบาลไทยผิดใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนเชื่อว่าท่านทำได้ ขณะที่ฝ่ายต่างๆของไทยมีความเห็นตรงกันแล้วว่าต้องพึ่งพาประเทศเพื่อนบ้านในการพูดคุยกับกลุ่มเหล่านั้น แต่ไม่ใช่การเจรจา และต้องไม่มีผลที่ทำให้เกิดการแบ่งแยก
** "ประยุทธ์" ซัดพวกยิงไทยพุทธ-ไทยมุสลิม
ที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ผู้ก่อความไม่สงบยิงครูสอนทำนาในพื้นที่ จ.ปัตตานี เสียชีวิต ว่า ตนได้สั่งเจ้าหน้าที่ให้ติดตามตั้งแต่เกิดเหตุ และให้สำรวจว่า มีหน่วยงานไหนเอาคนนอกพื้นที่เข้ามาหรือไม่ เพราะบางทีอาจไม่ได้แจ้งกัน เมื่อไม่ได้แจ้งจะทำให้เกิดช่องว่าง คนที่ไปทำงานในพื้นที่ภาคใต้ถือเป็นเรื่องดีและเป็นน้ำใจของคนภาคกลาง เพราะเป็นการฟื้นฟูนาร้างตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทั้งนี้ ต้องไปทบทวนว่าจะแก้ช่องว่างพวกนี้อย่างไร ซึ่งทาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) แสดงความเป็นห่วง และสั่งการมายังตนขอให้ดูแลความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้เข้มข้นมากขึ้น ซึ่งตนได้สั่งการให้คนในพื้นที่ทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยจะมีการปรับกำลังทั้งพลเรือน ตำรวจ ให้รับผิดชอบงานในเชิงรับมากขึ้นในพื้นที่ที่ไม่รุนแรงมากนัก เพื่อจะได้นำทหารไปปิดกั้นส่วนอื่น ซึ่งอีกประมาณ 2-3 เดือนเมื่อตำรวจได้รับการอนุมัติให้ทำงาน ทางทหารจะแบ่งมอบพื้นที่ให้ตำรวจทำงาน
"ยืนยันว่า การทำงานไม่สับสน และมีความชัดเจน โดยเราได้จัดรองแม่ทัพภาคทุกกองทัพภาคไปเป็น ผบ.ฉก.จังหวัด โดยจัดกำลังลงไปทั้งหมด 16 กองพัน เพี่อประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัด โดยจะมีการปรับพื้นที่ให้มีการสอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ถือเป็นการแก้ปัญหาในระยะที่สอง คือ การสร้างความเข้มแข็งให้หน่วยงานในพื้นที่ หากสถานการณ์ดีขึ้นจะค่อยๆ ปรับกำลังออก แต่ถ้ายังไม่เรียบร้อยก็ปรับอะไรไม่ได้ ขอร้องให้ประชาชนช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในเรื่องการข่าว วันนี้ต้องแยกให้ออกว่า สถานการณ์เกิดขึ้นจากอะไร ซึ่งการที่มีการทำร้ายทั้งคนไทยพุทธและไทยมุสลิมนั้นความจริงไม่น่าทำร้ายคนทั้ง 2 พวก ดังนั้น แสดงว่าต้องมีปัจจัยอื่นด้วย ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์อย่างเดียว อาจมีเรื่องส่วนตัว การเมืองท้องถิ่น หรือภัยแทรกซ้อนที่มีการหักหลังธุรกิจ โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ผมพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะที่เป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรมให้ติดตามทุกคดีว่า มีคดีความมั่นคงกี่คดี ซึ่งเขาต้องการพยายามสร้างความบาดหมางให้กับคนสองศาสนา โดยสถิติปีที่แล้ว 7-8 พันคดีเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนอีก 2 พันกว่าคดีเป็นคดีความมั่นคง ส่วนที่เหลือเป็นคดีทั่วไป" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
**ส.ว.ประนามคนร้ายยิงครูชาวนา
การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธาน ก่อนเข้าสู่วาระเป็นการหารือของสมาชิก ซึ่งมีการหยิบยกปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้เข้าหารือ พร้อมขอประนามคนร้ายที่ลอบยิง นายถนอม ขำเกื้อ ครูชาวนาจากจังหวัดสิงห์บุรีและสุพรรณบุรี ที่มาสอนปลูกข้าวตามโครงการฟื้นฟูนาร้างของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ที่อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี และขอประนามเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมขอสนับสนุนโครงการของ ศอ.บต. เพื่อสรรค์สร้างสิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาให้เกิดความสันติสุขโดยเร็ว