“เป็ดเหลิม” แจงหลังบินมาเลย์ดับไฟใต้ รอถก “มหาเธร์” เรื่องจดทะเบียนแรงงานไทยเพิ่ม มั่นใจตัดปัญหาแนวร่วมความไม่สงบกล่อมเข้าพวก ก่อนบินต่ออินโดฯ ไม่เผยคุยโจรใต้ แย้มทางลับ โวแก้ถูกจุดอาจใช้เวลา รับกองทัพรับทราบ ชี้พื้นที่เจริญจะดีขึ้น โบ้ยเมืองคอนเหตุแยะกว่า จชต.แต่ไร้ข่าว รับดื่มไวน์เพื่อนเก่าที่มาเลย์แต่นอกเวลา ขรก. โวไม่เมา
วันนี้ (11 ม.ค.) ที่ทำเนียบรับบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการเดินทางไปประเทศมาเลเซียเพื่อหารือในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันที่ 8-10 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับหลายภาคส่วน โดยได้คุยกันลงลึกในรายละเอียดหลายด้าน ขณะนี้อยู่ระหว่างให้กระทรวงการต่างประเทศสรุป และเสนอต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นอกจากนี้กำลังอยู่ระหว่างประสานรอคำยืนยันเพื่อเข้าพบ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่อยู่ระหว่างดำเนินภารกิจพัฒนาเศรษฐกิจชายแดนมาเลเซีย-ไทยตามที่รัฐบาลมาเลเซียมอบหมายให้
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวอีกว่า ผลการไปเยือนในครั้งนี้ได้มีการหารือและรัฐบาลมาเลเซียรับหลักการถึงการขึ้นทะเบียนแรงงานไทยเพิ่มเติม โดยปัจจุบันในมาเลเซียมีร้านต้มยำกุ้งอยู่ราว 6,500 แห่ง ใน 13 รัฐ มีคนไทยไปทำงานประมาณ 150,000 คน แต่ได้ขึ้นทะเบียนเพียง 6,900 คน เพราะทางการมาเลเซียอนุญาตเฉพาะคนเป็นกุ๊กและผู้ช่วยกุ๊กเท่านั้น แต่พนักงานเสิร์ฟเขาไม่อนุญาต ซึ่งตนได้พยายามขอร้อง และอธิบายว่าหากอนุญาตพนักงานเสิร์ฟขึ้นทะเบียนได้จะทำให้มีรายได้มากขึ้น และสามารถมีเงินส่งกลับมาทางบ้าน เมื่อเป็นเช่นนี้หากมีใครมาชักชวนไปทำสิ่งใดในทางที่ไม่ดี คนเหล่านี้ก็จะปฏิเสธ ซึ่งหากทำสำเร็จจะแก้ปัญหาได้หลายเรื่อง และมาเลเชียก็ได้ประโยชน์ แต่จะสำเร็จหรือไม่ต้องไปหารือกับ ดร.มหาเธร์อีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการพบกับแกนนำผู้ก่อความไม่สงบเมื่อใด ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คงยังระบุไม่ได้ เพราะเรื่องนี้หากเราพูดแล้วเขาไม่เชื่อ ก็ต้องหาคนที่เขาเชื่อไปพูด และคนที่ไปพูดต้องเป็นพวกเราถึงจะแก้ปัญหาได้ อีกทั้งต้องไม่ใช้คำว่าเจรจา แต่ใช้คำว่าพูดคุย โดยต้องเป็นการพูดคุยในทางลับก่อน การจะเปิดเผยต้องรอให้งานจบแล้วเท่านั้น มั่นใจว่ามาถูกจุดแล้ว
เมื่อถามว่า ทางการมาเลเซียรับปากจะช่วยไทยอย่างไรได้บ้าง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า บรรยากาศดีก็แล้วกัน และมั่นใจว่าเดินทางมาถูกจุด อย่างน้อยต้องพูดคุยเรื่องปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาแก้ไขภายในประเทศไม่ได้ ต้องแก้ที่อื่นแล้วจะดีเอง เมื่อถามว่า หวังผลภายในระยะเวลาเท่าใด รองนายกฯ กล่าวว่า “นาน ถ้าเร็วก็ปาฏิหาริย์”
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวด้วยว่า เรื่องการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ตนทำงานเป็นทีม และหารือกับทางกองทัพใกล้ชิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ทราบทุกขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ตนได้พบกับ ดร.มหาเธร์แล้วจะเดินทางไปประเทศอินโดนีเซียต่อ เพราะทางยุทธศาสตร์และยุทธวิธีเป็นหน้าที่ของทหารตนไม่เกี่ยว แต่หากคนรวย การศึกษาดี พื้นที่เจริญ ทุกอย่างดีขึ้น
“สื่อให้ความสนใจภาคใต้ ผมดูสถิติคดีเกิดขึ้น จ.นครศรีธรรมราช มากกว่าแต่ละจังหวัดใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เสียอีก แต่เวลา จ.นครศรีธรรมราชมีเหตุก็ไม่ได้รายงานข่าว” รองนายกฯ กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมยังได้กล่าวถึงกรณีที่การเผยแพร่ภาพตนเองในลักษณะมึนเมาขณะอยู่ประเทศมาเลเซียในสังคมออนไลน์ว่า ตนมีเพื่อนอยู่ที่มาเลเซียและสิงคโปร์รวมกัน 5 คน เรียกว่าห้าทหารเสือ ชุดนี้เคยช่วยตนตอนลี้ภัยอยู่เดนมาร์ก ปกติจะพบกันปีละครั้ง แต่ปรากฏว่า 2 ปีที่ผ่านมาไม่ได้เจอ พอตนไปมาเลเซียเขาก็ไปรับตนที่สนามบินและพาไปกิน ซึ่ง 5 คนกินไวน์ไป 8 ขวด ไม่มีข้าราชการทั้งฝ่ายมาเลเซียหรือไทยอยู่ด้วย แต่เป็นเพื่อนรักเจอกัน ไม่ได้มีใครเลี้ยง ส่วนภาพที่ตนตบหัวไหล่นั้นเป็นผู้ช่วยทูตซึ่งเป็นนายทหาร เวลาทหารหรือตำรวจเจอกันทักทายแบบนี้
“ยืนยันว่าไม่ได้เมา ไม่ได้ไปเมากับข้าราชการฝ่ายมาเลเซียหรือไทย เป็นการกินกันเอง ส่วนท่านทูตในภาพเพียงมารอเพื่อจะพาผมไปรับประทานข้าว เพราะคุณพ่อของเขาเป็นอาจารย์ของผม แต่ผมปฏิเสธว่าไม่ไปเพราะตอนเช้ามีภารกิจ” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังสัมภาษณ์เสร็จ ร.ต.อ.เฉลิมได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวแบบอารมณ์ดีว่า “เอ๊ะกินไวน์บ้างไม่ได้เชียวหรือ” ส่วนที่ทำท่าเหมือนเมานั้น ยืนยันว่าไม่ได้เมา แต่เป็นนอกเวลางาน