“สุวัจน์” เชียร์รัฐบาอยู่ครบเทอม ยันปรับ ครม.ครั้งหน้ายังไม่เข้าไปร่วม รอจังหวะที่เหมาะสม เผย “นช.แม้ว” โทร.อวยพรวันเกิดครบรอบ 58 ปี ให้โชคดีในทุกเรื่อง หนุนนิรโทษกรรมแต่ต้องเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ระหว่างเปิดบ้านให้บรรดานักการเมือง ข้าราชการอวยพรวันเกิดครบรอบ 58 ปีว่า ของขวัญวันเกิดที่อยากได้ปีนี้อยากให้บ้านเมืองเรียบร้อย ความขัดแย้งยุติ คนไทยมีความสุข และเศรษฐกิจก้าวหน้า ส่วนตัวช่วงนี้ขอทำหน้าที่เป็นกองเชียร์ ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลให้ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาบ้านเมือง หากมีจังหวะที่เหมาะสมก็จะกลับไปรับใช้บ้านเมือง
“การเมืองมีจังหวะของมันเอง ช่วงนี้ผมไม่ได้ไปไหนเพียงแต่ไม่ได้รับตำแหน่ง แต่ด้วยสปิริตนักการเมืองก็เป็นห่วงประเทศ อะไรที่ช่วยได้ก็จะช่วยไม่ว่าจะอยู่ในสถานภาพไหน ส่วนการปรับ ครม.ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้คงจะไม่มีอะไรเกี่ยวกับผม”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบว่าที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ขอคำปรึกษาจากนายสุวัจน์เช่นกัน นายสุวัจน์กล่าวว่า ก็มีพูดคุยกันในเรื่องของเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และกีฬา วันนี้นายกฯ บริหารประเทศมา 2 ปีแล้ว และมีความเป็นผู้นำ ซึ่งความนิยมรัฐบาลก็สูงขึ้น แล้วนายกฯ ก็ห่วงเรื่องเศรษฐกิจให้ช่วยกันด้านการลงทุน โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ การส่งออก การดึงนักลงทุนเข้ามาให้มากขึ้น
ส่วนจะมีปัจจัยอะไรที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในอนาคตอีกหรือไม่ นายสุวัจน์กล่าวว่า 2 ปีที่ผ่านมา คิดว่ารัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่สังคมกังวล บริหารประเทศด้วยความยืดหยุ่น รับฟังความคิดเห็นเรื่องสำคัญหลายเรื่อง เช่น รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งรัฐบาลมีท่าทีที่รอบคอบ ระมัดระวังอยู่แล้ว
“หากรัฐบาลบริหารประเทศด้วยความถ้อยทีถ้อยอาศัย ระมัดระวังหลายเรื่องเหมือนปัจจุบันก็เชื่อว่าสถานการณ์ต่างๆ ไม่น่าจะรุนแรง และมีโอกาสสูงมากที่จะอยู่ครบเทอม เพราะเสียงในสภาก็มั่นคง และวันนี้เท่าที่ดูตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้น และหากรัฐบาลอยู่ครบเทอมได้จะทำให้เศรษฐกิจเรารุดหน้าไปไกล และเป็นการส่งสัญญาณว่าระบอบประชาธิปไตยในบ้านเราดีขึ้น ผมก็เอาใจช่วยอยากให้รัฐบาลอยู่ครบเทอม”
สำหรับการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น นายสุวัจน์กล่าวว่า พื้นฐานความขัดแย้งในบ้านเราที่ผ่านมา เกิดจากความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งการกระทำความผิดต่างๆทางการเมืองในทุกประเทศมักจะพิจารณาเรื่องกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งในประเทศไทยก็เคยทำมาแล้ว เป็นวัฒนธรรมของไทยอย่างหนึ่งในการให้อภัย แต่เนื้อหาของการนิรโทษกรรมในขั้นตอนต่างๆ ในการกระทำอะไรก็ตาม เป็นเรื่องที่ต้องเห็นพ้องกันใช้ดุลพินิจพิจารณาให้รอบคอบที่สุด เพื่อที่จะสามารถนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีผลนิรโทษกรรมครอบคลุมไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และแกนนำการชุมนุมด้วยจะเป็นอย่างไร นายสุวัจน์กล่าวว่า หลักของการนิรโทษฯ เป็นเรื่องของหลักการและเป้าหมายว่าจะนิรโทษกรรมรูปแบบไหน วัตถุประสงค์เพื่อจะนำไปสู่อะไร ดังนั้นต้องคิดเป็นเรื่องเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องของหลักการมากกว่า ขณะนี้ก็มีการนำเสนอหลายฉบับหลายความคิด ต้องให้หลายฝ่ายหาข้อยุติ และทุกฝ่ายสบายใจ
ผู้สื่อข่าวได้ให้นายสุวัจน์วิเคราะห์สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. นายสุวัจน์กล่าวว่า คน กทม.เป็นผู้ที่ใกล้ชิดข้อมูลข่าวสารมากที่สุด และมีพื้นฐานด้านการสื่อสาร ดังนั้นจึงมักตัดสินใจเลือกช่วงโค้งสุดท้าย นี่คือพฤติกรรมการเลือกตั้งของคน กทม. ดังนั้น หากจะตอบว่าใครจะชนะคงตอบไม่ได้ ต้องรอช่วงโค้งสุดท้าย ทั้งนี้อยากให้คน กทม.ออกมาใช้สิทธิให้มาก เพราะการใช้สิทธิที่ผ่านมาต่ำกว่าพื้นที่รอบนอก และการใช้สิทธิมากจะได้คำตอบที่ถูกต้อง
นายสุวัจน์เปิดเผยด้วยว่า ในระหว่างรับประทานอาหารร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีโอกาสพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งได้โทร.มาอวยพรวันเกิด โดย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวเพียงว่า ถือเป็นโอกาสดีที่วันคล้ายวันเกิดตรงกับเทศกาลปีใหม่ของชาวจีน และขอให้โชคดีในทุกเรื่อง
