“เฉลิม” ยกคนเรียม กม.รู้ มีสิทธิ์ชิงผู้ว่าฯใหม่ ชี้เสริมบารมีขู่ผู้ว่าฯ ถึงบำบัดยาฯ สำเร็จ

“เหลิม บางบอน” ตอก “ปลาบู่ ปชป.” ยัน กกต.องค์กรอิสระ จุ้นไม่ได้ คุยเรียน กม.รู้ดีต้องยึดหลัก มีเหลือง-แดง ต้องเคารพกติกาเลือกตั้งผู้ว่าฯ ใหม่ ขู่หน้าแหกอีก พร้อมโม้วันละ 3 หน ปัดนายใหญ่ติงเอาแต่ปราบยาฯ ไม่บำบัดรักษา แจงทำเบ็ดเสร็จบารมีต้องถึง หรือนายกฯ คุมเอง ชี้คุม มท. ผู้ว่าฯ กลัวสั่งได้ไม่ดื้อ เก็บอาการหากนายใหญ่ตอบรับ รับไม่รู้ชะตาถูกปรับ ครม.หรือไม่

วันนี้ (13 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) ส่งข้อร้องเรียน 2 เรื่องเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาว่า คนเรียนกฎหมายก็ต้องพูดอย่างที่ตนพูด มันชัด และเป็นกรณีตัวอย่างมาแล้ว เมื่อถามว่าไม่มีกลไกพิเศษอะไรไปกดดัน กกต.ใช่ใหม ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่มีทาง เราได้ประโยชน์จะไปกดดันทำไม ก็เลือกตั้งใหม่ เมื่อถามว่าถ้า กกต.กลางให้ใบเหลืองหรือใบแดงจริงจะทำให้เกิดม็อบออกมาคัดค้านหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า จะมาม็อบอะไรต้องเคารพกติกา ต้องดูว่าที่เขาชนะมาล้านกว่าก่อนชนะเขาทำอะไรมาหรือไม่ เมื่อถามว่าดูแนวโน้มแล้วน่าจะมีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนก็หวังอย่างนั้น ส่วนพรรคเพื่อไทยจะทำคะแนนได้มากหรือไม่ถามตนก็ต้องบอกชนะอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องยึดหลักฎหมาย ถ้า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริบัตร ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม.จะได้ 3 ล้านก็ได้ไป แต่ต้องยึดหลักกฎหมาย ไม่ใช่ว่าความเป็นประชาธิปัตย์ทำอะไรได้หมด กกต.เขามีหลัก ไม่อย่างนั้นก็โยนใบปริญญากฎหมายทิ้งไป เมื่อถามว่าหากครั้งนี้ทายผิดอีกจะเดิมพันอะไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า จะให้สัมภาษณ์วันละ 3 หนเป็นการชดเชย

“เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ผมให้สัมภาษณ์เรื่อง กกต. ปลาบู่ชนเขื่อนบอกว่าตนไปแทรกแซง จะแทรกแซงได้อย่างไร กกต.เป็นองค์กรอิสระ หมอนี่ถ้ามาเป็นรองผู้ว่าฯ ก็เหนื่อยแทน ในฐานะคน กทม.จะย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดก็ไม่ได้ ไม่มีเงินปลูกบ้าน” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์กระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตำหนิเน้นการปราบปรามยาเสพติดมากเกินไปไม่เน้นบำบัดรักษาว่า ไม่มี เมื่อวันที่ 12 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณคุยกับตนบอกว่าคิดถึง ไม่เห็นตำหนิอะไร จะตำหนิอะไร คนทั้งประเทศชมทั้งนั้นว่าปราบปรามดี ส่วนการบำบัดเราก็เน้นแต่ว่าคนที่มาคุมตรงนี้ จะต้องเป็นนายกฯ คุมถึงจะมีบารมี หรือไม่ต้องเป็นรองนายกฯ คุมตำรวจและควบมหาดไทย แบบสมัย พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ จึงจะมีบารมี จะเอาใครก็ได้ไม่ต้องเป็นตน เพราะที่ผ่านมาจะเห็นชัดเจนว่าเวลาตนคุมตำรวจไปบอกผู้ว่าฯ เขาก็ไม่ค่อยขานรับ การบำบัดรักษาต้องอาศัยผู้ว่าฯ ถ้าย้ายผู้ว่าฯ ไม่ได้ ไม่มีบารมี ตนให้คุณให้โทษผู้ว่าฯ ไม่ได้ แล้วจะให้ทำอย่างไร

ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า ที่บอกว่าต้องเป็นนายกฯ นั้น สังเกตดูว่าเวลาเรียกประชุมทุกหน่วยงานมาหมด แต่ถ้าตนเรียกประชุมจะส่งตัวแทนหรือที่ปรึกษามาประชุมแทน ตนไม่ได้พูดว่าอยากเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่ถ้ารัฐบาลต้องการให้งานนี้เดินได้ ทั้งการปราบปรามและบำบัด นายกฯ ต้องคุมเอง หรือเอาใครก็ได้มาดูแล 2 ส่วนนี้ ทุกอย่างจะเรียบร้อย สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณสั่งได้หมด แต่ตนจะสั่งใครได้ บางทีไปประชุมต่างจังหวัด ผู้ว่าฯ ก็ไม่มาส่งรองผู้ว่าฯ ปลัดมาแทน ตนก็บังคับไม่ได้ ข้าราชการรู้ว่าใครให้คุณให้โทษได้ ฉะนั้นถ้าจะให้การปราบปรามเห็นผลต้องใช้วิธีแบบนี้ เมื่อถามว่าถ้า พ.ต.ท.ทักษิณให้ตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนพูดไม่ได้ วันเวลายังไม่ถึง ส่วนข่าวที่ว่าจะปรับตนออกจากรองนายกฯ นั้นไม่มี นายกฯ คงไม่บอกเวลาจะปรับใคร