xs
xsm
sm
md
lg

“องอาจ” เชื่อ “สุขุมพันธุ์” ไม่ได้ทำอะไรผิด เตือนเข็นนิรโทษฯ ทำรัฐบาลอายุสั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ส.ส.ปชป. มั่นใจ “สุขุมพันธุ์” ไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แม้ กกต.ยังไม่รับรองเป็นผู้ว่าฯ กทม. ส่วนกฎหมายปรองดองมองฉบับ “วรชัย” ไม่แตกต่างจาก 4 ฉบับที่ค้างในสภา หวั่นใช้เสียงข้างมากถูลู่ถูกัง เตือน “ยิ่งลักษณ์” ระวังจุดชนวนวุ่นวาย ทำรัฐบาลอายุสั้น

วันนี้ (17 มี.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการไม่รับรอง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ขณะนี้ กกต.ยังไม่รับรอง เพราะมีคนร้องเรียนเข้ามา โดยอ้างว่า ผู้สมัครของพรรคได้กระทำผิดขัดต่อกฎหมาย 3 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545, พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528, พ.ร.บ.พรรคการเมือง ซึ่งขณะนี้เรื่องได้ส่งต่อจาก กกต.กทม. ไปยัง กกต.กลาง และอยู่ระหว่างการวินิจฉัยของ กกต.กลาง แต่เป็นที่สังเกตว่า ตั้งแต่มีการร้องเรียนผู้ถูกร้องเรียนยังไม่ได้รับเชิญให้ไปชี้แจงแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์มีความมั่นใจว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่ได้กระทำผิดขัดต่อกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ เพราะพรรคได้ตระหนักเสมอว่า จะต้องดำเนินการรณรงค์หาเสียงด้วยความถูกต้อง ไม่ขัดกับหลักกฎหมาย ซึ่งพรรคมั่นใจในตัวผู้สมัครของพรรค และพรรคเชื่อว่าการพิจารณาของ กกตทั้ง 5 ท่าน ว่าจะมีความสุจริต เที่ยงธรรม เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง พรรคจึงไม่หวั่นไหวเพราะพรรคเชื่อมั่นในความถูกต้อง และความบริสุทธิ์ใจ” นายองอาจกล่าว

นายองอาจ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย นำ 41 ส.ส.ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาว่า การสร้างความปรองดองให้แก่สังคมควรจะเกิดขึ้นจากทุกภาคส่วนของสังคมเห็นพ้องต้องกัน เป็นการปรองดองของคนในสังคม ไม่ใช่เป็นไปเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือบุลคลใดบุคคลหนึ่ง ต่อกรณีนี้พรรคเห็นว่า ไม่ใช่การนิรโทษกรรมที่แท้จริง เพราะ 1.ร่างฯ ยังไม่สามารถตอบโจทย์ให้แก่สังคมได้ อาจมีวาระซ่อนเร้นมากว่า 2.เป็นไปเพื่อประโยชน์ของคนบางคน หรือเพียงกลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเท่านั้น และ 3.ไม่มีหลักประกันว่าจะเป็นการแก้ปัญหาความขัดแย้งให้สังคม แต่อาจจะเป็นการเพิ่มปัญหาความขัดแย้งให้สังคมมากกว่า

“ร่างนิโทษกรรมฉบับนี้ไม่มีความแตกต่างจาก 4 ฉบับ ที่ค้างอยู่ในสภาขณะนี้ และต้องจับตามองว่า จะมีการเลื่อนระเบียบวาระขึ้นมาอยู่ลำดับต้นๆ ในสัปดาห์หน้าหรือไม่ โดยจะใช้เสียง ส.ส.เสียงข้างมากในรัฐบาลเพื่อให้ผ่านกฎหมายฉบับนี้ ซึ่งถ้าหากเป็นอย่างนั้น พรรคมองว่าจะทำให้สังคมแตกแยก” นายองอาจกล่าว

นายองอาจ กล่าวต่อว่า ต่อกรณีนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะผู้นำประเทศควรส่งสัญญาณไปยังวิปรัฐบาล และ ส.ส.พรรครัฐบาล ว่า หากยังดึงดันจะเดินหน้าเลื่อนระเบียบวาระนี้ขึ้นมาจะสร้างความขัดแย้ง ความวุ่นวายในบ้านเมืองแน่นอนและ จะทำให้รัฐบาลอายุสั้น





กำลังโหลดความคิดเห็น