ส.ส.นราธิวาส ปชป.หวั่นไทยสูญเสีย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังพบเงื่อนไขรัฐบาลเจรจาบีอาร์เอ็น ไทยต้องแจ้งว่าจะให้อะไรกับโจรใต้ ยัน “ฮัสซัน ตอยิบ” ไร้อำนาจสั่งการใคร ชี้ความรุนแรงที่ยืดเยื้อเกิดจากความแค้นใจเหตุการณ์ตากใบ สมัยรัฐบาลทักษิณที่ทำให้ไทยมุสลิมเสียชีวิตจำนวนมาก มั่นใจนายกฯ เยือนสวีเดนมีเบื้องหลังเชื่อมโยงโจรใต้ ด้าน “เฉลิม” โต้ไม่มีข้อต่อรองทำให้เสียดินแดน ตอกเพ้อเจ้อ
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (7 มี.ค.) มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม นายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดการลงนามข้อตกลงกับกลุ่มโจรใต้บีอาร์เอ็น ต่อนายกรัฐมนตรี โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศปก.กปต.) เป็นผู้ชี้แจงแทน
นายเจะอามิงกล่าวว่า หลังจากรัฐบาลทำข้อตกลงกลับบีอาร์เอ็นที่ประเทศมาเลเซีย ก็เกิดความหวาดหวั่นและกังวลจากประชาชนในพื้นที่อย่างรุนแรง เพราะหลังจากนั้นเกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง จึงอยากถามว่าการไปเจรจาถือว่าถูกต้องถูกตัวหรือไม่ วันนี้รัฐบาลมอบให้ สมช.ไปเซ็นสัญญากับบีอาร์เอ็นที่ประเทศ มาเลเซีย อยากถามว่ารัฐบาลมีข้อสัญญาอะไรอยู่ใต้โต๊ะและไม่เปิดเผยต่อสังคม เพราะฝ่ายก่อเหตุเขาพูดชัดเจนหากรัฐบาลไม่ให้อะไรกับเขา เขาก็ไม่ยอมร่วมมือและเจรจากับรัฐบาล
ร.ต.อ.เฉลิมชี้แจงว่า รัฐบาลยึดหลักรัฐธรรมนูญเป็นหลัก เรื่องการลงนามกลุ่มบีอาร์เอ็นไม่ขัดมาตรา 190 เพราะไปเซ็นกับคนไทยที่หลงผิด แต่อุดมการณ์ไม่ตรงกันจึงไปอยู่มาเลเซีย ไม่ใช่ลงนามกับต่างประเทศ และเรื่องดังกล่าวเรียกว่าการแสดงเจตนาร่วมกันในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ ไม่มีสัญญาเกิดขึ้น โดยมีประเทศมาเลเซียอำนวยความสะดวกเท่านั้น ไม่ได้ทำสัญญากับมาเลเซีย ส่วนจะเชื่อถือได้หรือไม่ ก็ต้องยอมรับว่าเชื่อได้ เพราะคนที่เปิดประเด็นคือนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย หากไม่มีน้ำหนักเขาไม่เสี่ยง
นอกจากนี้ยังมีพยานในการลงนามที่น่าเชื่อถือ คือ เลขาฯ สมช., ผบ.ตร., ผบ.สส.ของมาเลเซีย เป็นต้น เมื่อเกิดความน่าเชื่อถือแล้ว สมช.ไทยจึงลงนาม และเมื่อไปเจรจาก็ไม่สามารถตัดสินใจด้วยตัวเองแล้วต้องนำกลับมา ศปก.กปต.
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ที่ผ่านมาการเจรจายังไม่ได้เริ่มขึ้น ส่วนที่ระบุว่าหลังจากลงนามแล้วเกิดความรุนแรงนั้นไม่เป็นความจริง แต่มีแต่การเผายางรถยนต์ 50 แห่งรุนแรงแห่งเดียวที่ จ.ยะลา และ ตำรวจก็จับคนร้ายได้แล้ว 5 คน และกำลังเจรจาให้มามอบตัว
“หลังจากเซ็นสัญญาแล้วถามว่าได้อะไรไหม ก็ดีกว่าไม่ทำ ดีกว่าอยู่เฉยๆ หากทำแล้วเสียเปรียบก็ทำไม่ได้ ถ้าทำแล้วประโยชน์เราก็ปฏิบัติการต่อไป”
นายเจะอามิงถามต่อว่า ร.ต.อ.เฉลิมตอบแบบลวงโลก ตอบในสิ่งไม่ได้ถาม และคิดคำตอบมาจากบ้าน จึงไม่ตรงกลับคำถาม อย่าลืมว่าเครือข่ายตนก็มีเหมือน ร.ต.อ.เฉลิม ทั้งนี้หากดูในเนื้อหาของเอกสารที่ไปลงนามกับกลุ่มบีอาร์เอ็นระบุว่า มาเลเซียจะเป็นผู้ลงนามเป็นพยานเท่านั้น ข้อตกลงไม่มีสภาพการบังคับ มาเลเซียไม่ต้องรับผิดชอบเช่นเดียวกับกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่ฝ่ายเรารับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียว
“ไปสอบถามได้เลยนายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำบีอาร์เอ็น เป็นผู้ไม่มีอำนาจสั่งการ ปัญหาภาคใต้จะสงบได้อย่างไร ย้อนไปดู 16 ศพ มีการบอกกล่าวจากญาติผู้เสียชีวิตไปเพราะความเจ็บปวดจากเหตุการณ์ตากใบ ที่ถูกทุบถูกตี จนในที่สุดไปอยู่กับแนวร่วมกลุ่มติดอาวุธอาร์เคเค ซึ่งเกิดจากความเจ็บปวดจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี นี่คือข้อเท็จจริง”
นายเจะอามิงกล่าวต่อว่า วันนี้การแก้ปัญหาน่าจับตารวมทั้งการเดินทางของนายกรัฐมนตรีไปสวีเดน น่าจะมีอะไรอยู่เบื้องหลัง ตนเชื่อว่ามีอะไรและเชื่อมโยงมาถึงเรื่องดังกล่าว และสิ่งที่ตนเป็นห่วงที่สุดคือการลงนามกับบีอาร์เอ็น ที่ฝ่ายตรงข้ามเขียนไว้ชัดเจนว่าหากรัฐบาลไทยมีความปรารถนาอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องมีความจริงใจ และรัฐบาลต้องแจ้งว่าจะให้อะไรกับฝ่ายเขา โดยตนเป็นห่วงว่า 3 จังหวัดชายแดนใต้จะหลุดจากประเทศไทย
ร.ตอ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่มีเงื่อนไขอะไรเลยที่จะทำให้ 3 จังหวัดหลุดจากไทย ท่านเพ้อเจ้อ จะมีรัฐบาลที่ไหนโง่ขนาดนั้น และหน่วยความมั่นคงคงไม่ยอมเด็ดขาด และที่ลงนามดังกล่าวยังไม่มีการเจรจา โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 28 มี.ค. แต่สิ่งที่ท่านพูดเป็นการคาดการณ์ไปเองหมด
