ปธ.ญาติวีรชนพฤษภา 35 เสนอผ่าทางตันความขัดแย้ง หนุน พ.ร.บ.นิรโทษฯ ฉบับ “ดร.อุกฤษ” ดำเนินคดี รบ.ในขณะนั้น-ผู้นำเหล่าทัพ-เจ้าหน้าที่รัฐ-แกนนำที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อ ปชช.โดยตรงนับตั้งแต่ “ทักษิณ” ลงมา ชี้ “ธาริต” เกี่ยวคดีโดยตรง ควรลาออกให้ดีเอสไอทำงานอย่างอิสระ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 31 ม.ค. นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ได้ออกมาแถลงความเห็น สืบเนื่องจากการนำเสนอให้มีการนิรโทษกรรมประชาชนที่ร่วมชุมนุมทางการเมืองจากหลากหลายกลุ่มตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนี้
“ข้อที่หนึ่ง ผมรู้สึกดีใจที่ทุกฝ่ายได้ออกมาสนับสนุนการนิรโทษกรรมประชาชนที่ร่วมชุมนุมทางการเมือง แม้ว่าเนื้อหาสาระของกฎหมายที่นำเสนอจะมีความแตกต่างกันบ้างก็เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสนอกฎหมายของแกนนำ นปช. ต่อรัฐบาลถือเป็นสิ่งที่น่าเห็นใจและสามารถเข้าใจได้ เพราะคนเสื้อแดงถึงวันนี้ยังทุกข์ทรมานจากการรับโทษตามกฎหมายอยู่ในคุกอยู่ แต่เป็นที่ทราบกันดีเหมือนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้ท้วงติงว่า ถึงเราวิ่งเข้าเส้นชัย 100 เมตรได้เร็วที่สุด แต่สุดท้ายอาจถูกจับแพ้ฟาวล์ได้ ในส่วนของกลุ่มแดงอิสระที่ได้ออกมาเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับนิรโทษกรรมนั้น ยิ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมเพราะท่านมองไปถึงอนาคตด้วย แต่เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวใช้เวลาเนิ่นนานกว่าประชาชนผู้ที่รับความทุกข์ทรมานจะถูกช่วยเหลือและคงจะรอไม่ไหวเพราะได้ล้มหายไปหลายคนแล้ว จึงมีวิธีการเดียวเท่านั้น คือ เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของ ศ.ดร.อุกฤษ ที่มีความชัดเจน สามารถทำให้เป็นจริงได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่ปรับแก้ไขและทำความชัดเจนเพิ่มขึ้นว่านิรโทษเฉพาะภาคประชาชนเท่านั้น เพื่อนำส่งกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาอย่างเร่งด่วนตามกระบวนการ และหากท่านต้องการให้ประชาชนลงชื่อสนับสนุนก็คงหาได้ไม่ยากแต่อย่างใด
ข้อที่สอง ผมต้องขอขอบคุณอดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ กับพวก ที่ยืนยันยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติในคดีการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางการเมือง ซึ่งเป็นสาเหตุของเราที่ออกมาเรียกร้องให้ไม่ยกเว้นคน 4 กลุ่มที่เกี่ยวข้อง คือ รัฐบาลในขณะนั้น ผู้นำเหล่าทัพ เจ้าหน้าที่รัฐ และแกนนำการชุมนุมที่เกี่ยวข้องนับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ลงมา ซึ่งเป็นผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนโดยตรง เพราะในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีครั้งใดที่ผู้มีอำนาจต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเลย ครั้งนี้จึงนับเป็นโอกาสในการสร้างเป็นบรรทัดฐานสำคัญให้แก่ลูกหลานของเราต่อไป
“ผมขอยืนยันว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีและความเสียหายตรงนี้โดยตรง สมควรพิจารณาลาออกจากตำแหน่งเพื่อพ้นจากหน้าที่ตรงนี้ เพราะในฐานะอดีตกรรมการศอฉ. ท่านเป็นผู้หนึ่งที่จะต้องถูกกล่าวหาตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อเปิดทางให้ดีเอสไอดำเนินคดีอย่างเป็นธรรมต่อผู้ที่ถูกกล่าวมาทั้งหมด และนายธาริตไม่สมควรที่จะไปก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรม โดยใช้ดุลพินิจวินิจฉัยว่า กลุ่มใดบ้างที่จะพ้นจากการสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นเรื่องของศาลในการพิจารณา”
ข้อที่สาม ต้องขอขอบคุณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคอื่นๆ ที่เบื้องต้นได้ออกมาสนับสนุนการนิรโทษกรรมในครั้งนี้ แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใด ส.ส.พรรคเพื่อไทยกลับคัดค้านโดยการนิ่งเฉย “ผมขอเรียกร้องไปยัง ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคน กรุณาอย่าแสดงท่าทีในการคัดค้านโดยการไม่แสดงท่าทีและนิ่งเงียบแบบนี้ ขอให้ออกมาแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าคนใดที่ไม่เห็นด้วยและคัดค้านทำไม เพราะเวลาที่เนิ่นนานไปหมายถึงความทุกข์ทรมานของประชาชน เพราะนี่คือความต้องการของภาคประชาชน ถ้าเขารู้ว่าส.ส.พรรคเพื่อไทยคนใดคัดค้าน ประชาชนก็จะได้ใช้ช่องทางอื่น เพราะประชาชนสามารถเสนอกฎหมายได้โดยตรงอยู่แล้ว” นายอดุลย์กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 จะมีการแถลงข่าวเพิ่มเติมในวันอาทิตย์นี้ ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เพื่อผ่าทางตันความขัดแย้งของประเทศไทย
