พิทักษ์สยามจัดงานเลี้ยงและเปิดตัว คกก. พร้อมบรรยายปมพระวิหาร โดย “สมปอง สุจริตกุล” อดีตทนายคดีพระวิหารครั้งแรก ชี้ไม่รับเขตอำนาจศาลโลก ไร้สิทธิมาบังคับ ย้อนคดีศาลไม่มีความเป็นกลาง ไทยจึงสงวนข้อโต้แย้ง รบ.แถลงวินิจฉัยผิด แนะไม่ควรถอนตัวศาลโลก เชื่อไม่สายที่จะค้าน มั่นใจคดีรอบแรกไม่ส่งผล ศาลให้ความยุติธรรม ตำหนิ รมว.กต.พูดไม่คิด เสี่ยงหมิ่นศาล
วันนี้ (20 ม.ค.) ที่สนามม้านางเลิ้ง องค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) จัดงานเลี้ยงด้วยรักและผูกพัน โดยมีการเปิดตัวคณะกรรมการองค์การพิทักษ์สยาม ที่มี พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ เป็นรักษาการประธาน อพส. หลังจากนั้นเป็นการบรรยายพิเศษของนายสมปอง สุจริตกุล อดีตทนายความผู้ประสานงานคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2502-2505 ในหัวข้อวิกฤติพรมแดนเขาพระวิหาร โดยนายสมปองกล่าวว่า ศาลโลกไม่มีอำนาจพิพากษาคดีอะไรโดยบังคับได้ นอกเสียจากไปรับเขตอำนาจของศาลโลก หรือลงนามในสนธิสัญญาทวิภาคี การที่คดีเขาพระวิหารไปสู่การพิจารณาของศาลโลกในอดีตเมื่อ 50 ปีก่อนเกิดจากความผิดพลาดของหลายฝ่าย ขณะที่การเตรียมการต่อสู้ประเทศไทยก็ได้ตั้งคณะกรรมการมาสู้คดีหลายฝ่าย และในขณะนั้นตนก็เสนอให้ตัดฟ้องตั้งแต่ต้น โดยให้เหตุผลว่าศาลโลกไม่มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ซึ่งมติ ครม.ก็เห็นชอบ ทำให้สามารถยื้อเวลาสู้คดีต่อไปอีก 9 เดือน จึงมีคำพิพากษาออกมาซึ่งเหมือนเป็นการเอากฎหมายมาปิดปากประเทศไทยเพียงประเทศเดียว เพราะศาลโลกขณะนั้นไม่ได้มีความเป็นกลางแต่อย่างใด ประเทศไทยจึงขอสงวนข้อโต้แย้งเอาไว้ และรัฐบาลออกแถลงการณ์ว่าศาลโลกวินิจฉัยผิด
นายสมปองกล่าวต่อว่า ส่วนการเรียกร้องให้ประเทศไทยถอนตัวจากสมาชิกศาลโลกและสหประชาชาตินั้นมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่ง และขณะนี้ก็ยังถือว่าไม่สายเกินไปที่จะขอคัดค้านการวินิจฉัย เพราะการยื่นขอศาลตีความคำพิพากษาศาลโลกเมื่อ 50 ปีที่แล้วแต่เชื่อว่าไม่เป็นผลเพราะการยื่นตีความควรกระทำภายใน 1-2 ปีหลังคำตัดสิน ส่วนคำวินิจฉัยที่ออกมาจะทำให้ประเทศเสียประโยชน์หรือไม่ เชื่อว่าศาลจะไม่ทำเช่นนั้นแน่นอน พร้อมตำหนินายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ประเมินล่วงหน้าว่าไม่แพ้และเสมอตัว เพราะการกระทำเช่นนั้นเท่ากับการหมิ่นประมาทศาลโลกเช่นกัน