“นพดล” โต้ “ชวนนท์” ปัดแถลงการณ์ร่วมไทย-เขมรแผนขั้นแรกฮุบพื้นที่ทับซ้อน ขุด 6 เรื่องเล่า ท้าถ้ามีหลักฐานว่าฝ่านค้านไม่เกี่ยวจะจ่าย 2 ล้าน
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แถลงตอบโต้นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า การจัดทำแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาในสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชนเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย เพราะทำให้กัมพูชาไม่นำพื้นที่ทับซ้อนขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย และขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทพระวิหารซึ่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) มีคำตัดสินตั้งแต่ปี 2505 ให้ตัวปราสาทตกเป็นของกัมพูชาแล้ว ดังนั้น การที่นายชวนนท์ระบุว่ากัมพูชามีแผน 5 ขั้นเพื่อฮุบพื้นที่ทับซ้อน โดยการจัดทำแถลงการณ์ร่วมถือเป็นแผนขั้นแรกนั้นถือว่าไม่เป็นความจริง
นายนพดลกล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงคดีปราสาทพระวิหารมี 6 ข้อที่ควรทราบ คือ 1. ปี 2505 ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช อดีตหัวหน้า ปชป.เป็นหนึ่งในทีมทนายที่ว่าความในคดีที่ศาลโลกตัดสินว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา 2. ปี 2553 กัมพูชายื่นเรื่องให้ศาลโลกตีความคำตัดสินเมื่อปี 2505 ในยุคที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี 3. ปี 2543 ปชป.จัดทำเอ็มโอยู 2543 ใช้แผนที่ระวาง 1 : 200,000 เพื่อปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา ทั้งๆ ที่ศาลโลกใช้แผนที่มาตราส่วนดังกล่าวตัดสินให้ไทยแพ้คดีและต้องยกปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชาตามคำตัดสินของศาลโลกเมื่อ 50 ปีก่อน
นายนพดลกล่าวอีกว่า 4. ปี 2551 ปชป.เป็นพรรคแรกที่แต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ ผู้ที่ด่าผู้นำประเทศอื่นว่าเป็นกุ๊ยมาเป็น รมว.ต่างประเทศ ซึ่งผิดธรรมเนียมทางการทูตอย่างรุนแรง 5.ปี 2553 นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีตผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศในรัฐบาล ปชป.ก่อเรื่องรุกล้ำดินแดนกัมพูชา จนทำให้มีคนไทยถูกจับกุมไปขังคุกในกัมพูชา และสร้างความตึงเครียดตามแนวชายแดน และ 6. ปี 2556 ปชป.เป็นพรรคที่เสนอให้ประเทศไทยถอนตัวจากภาคีสมาชิกมรดกโลกที่จะทำให้ไทยออกจากโลกอารยะ และส่งผลต่อสถานที่ที่ เป็นมรดกโลกของไทยแห่งอื่นด้วย
“ขอปฏิเสธว่าสิ่งที่นายชวนนท์พูดบิดเบือนข้อเท็จจริง และหากใครสามารถหาเอกสารหลักฐานมายืนยันว่าทั้ง 6 ข้อที่กล่าวไปเกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์นั้นเป็นความเท็จ ผมจะขอมอบเงินสด 2 ล้านบาทให้คนที่มีหลักฐานนั้น” นายนพดลกล่าวพร้อมนำเงินสด 2 ล้านบาทขึ้นมาแสดงต่อสื่อมวลชนประกอบการแถลงข่าวด้วย