xs
xsm
sm
md
lg

“ชวนนท์” ซัด “นพดล” พูดเท็จ ยันแถลงการณ์ร่วมฯ ต้นเหตุเขมรนำพระวิหารเข้ามรดกโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต (แฟ้มภาพ)
โฆษก ปชป.จับเท็จ “นพดล” ชี้เขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกได้เพราะแถลงการณ์ร่วมฯ ที่ทำในยุค “นพดล” และยื่นขึ้นทะเบียนก่อนศาล รธน.ของไทยจะตัดสินว่าแถลงการณ์ร่วมฯ เป็นโมฆะ แนะอยากล้างบาป ควรไปบี้ “ปึ้ง” ให้สู้ดคีกับกัมพูชาในศาลโลกให้เต็มที่

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา สนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว จนนำมาสู่ความสูญเสียของทั้งไทยและกัมพูชา แต่พยายามอ้างว่าแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นโมฆะแล้วไม่สามารถนำไปใช้งานได้ว่า เป็นการพูดที่ขัดกันเอง คือ 1. นายนพดลย้ำว่าไม่ว่าจะมีแถลงการณ์ดังกล่าวหรือไม่ กัมพูชาสามารถขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอยู่แล้วเพราะเป็นเจ้าของปราสาทพระวิหาร จึงต้องถามว่า หากเป็นเช่นนั้นจริงไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมฯ เพื่ออะไร เพราะความจริงคือกัมพูชาพยายามจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกมาตลอด แต่คณะกรรมการมรดกโลกมีความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งไทย-กัมพูชา จึงนำมาซึ่งแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา สนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวโดยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน

2. แถลงการณ์ถูกศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินว่าเป็นโมฆะในวันที่ 8 ก.ค. 51 แต่การประชุมกรรมการมรดกโลกที่แคนนาดานั้นเริ่มตั้งแต่วันที่ 2-10 ก.ค. 2551 กัมพูชาได้ใช้แถลงการณ์ร่วมดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 2551 ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยให้แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นโมฆะจึงทำให้กฎหมายภายในประเทศไม่มีผลในเรื่องนี้ เนื่องจากมีการยอมรับในเวทีระดับโลกไปแล้ว หากนายนพดลยังยืนยันว่าแถลงการณ์ร่วมฯเป็นประโยชน์ทำไมจึงบานปลายมาถึงทุกวันนี้และทำไมกัมพูชาจึงจดทะเบียนปราสาทพระวิหารแต่เพียงฝ่ายเดียว

3. เหตุที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าเป็นโมฆะเพราะเห็นว่าเป็นหนังสือสัญญาที่อาจมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตของประเทศ และกระทบสังคมอย่างกว้างขวางต้องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 ดังนั้น คำแก้ตัวของนายนพดลจึงฟังไม่ขึ้น เพราะจากคำวินิจฉัยดังกล่าวสะท้อนชัดว่าแถลงการณ์ร่วมฯ ที่นายนพดลไปลงนามอาจส่งผลต่อเขตแดนไทย และสุดท้ายก็มีการนำไปใช้เป็นข้ออ้างจนทำให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวได้ ดังนั้นเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง ซึ่งปลายปีนี้จะเป็นเรื่องใหญ่มากขึ้นอีก

“หากนายนพดลอยากล้างบาป ควรไปบอก รมว.ต่างประเทศให้ขยันต่อสู้กับกัมพูชาที่ศาลโลก ไม่ใช่มาแสดงความเป็นคนรักแผ่นดินเฉพาะกิจ คือมีปัญหาทีก็ออกมาที แต่ปีครึ่งที่ผ่านมาไม่มีความตั้งใจแก้ปัญหาที่ก่อไว้เลย อยากให้รัฐบาลมีความจริงใจมากกว่านี้ ไม่ใช่ชี้แจงเฉพาะที่กระทบกับตัวเอง เช่นเดียวกับนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ที่พลิกลิ้นพูดจากลับไปกลับมาจากบอกว่าเสียเปรียบ เป็นมีโอกาสชนะ จากแรงกดดันทางการเมืองทำให้จะเดินทางไปร่วมการไต่สวนของศาลโลกด้วยตัวเองนั้นไม่เป็นประโยชน์ หากปราศจากความจริงใจในการรักษาอธิปไตยของชาติ”



กำลังโหลดความคิดเห็น