“เด็จพี่” ป้อง “เติ้ง” คนกลางปรองดอง ปัดช่วยล้างผิด “แม้ว” วอนดูเจตนาก่อน

โฆษกพรรคเพื่อไทย โดดป้อง “บรรหาร” กาวใจปรองดอง ปัดช่วยล้างผิด “ทักษิณ” วอนขอให้ดูเจตนา เผย “จารุพงศ์” นำลูกพรรคอวยพรปีใหม่ “ปู- สมชาย” 3 ม.ค. ยันไม่ได้หารือประเด็นการเมือง ด้าน “หมวดเจี๊ยบ” ปากว่าง เตือน “มาร์ค” หยุดตีความโพลเข้าข้างตัวเอง เลียจนลื่นอ้างยิ่งพูดถึง “ทักษิณ” คนยิ่งคิดถึง

วันนี้ (2 ม.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา อาสาเป็นคนกลางพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อสร้างความปรองดองในบ้านเมืองว่า เป็นเรื่องดีที่นายบรรหารเดินสายสร้างความปรองดองตรงกับผลโพลต่างๆ ที่ประชาชนอยากให้นักการเมืองหยุดทะเลาะกัน และยุติความขัดแย้งของกลุ่มต่างๆ ในปี 2556 เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความปรองดอง ดังนั้นไม่อยากให้ฝ่ายค้านหรือฝั่งตรงข้ามรัฐบาลออกมาเตะตัดขานายบรรหารว่าเป็นการเดินสายเพื่อนำ พ.ร.บ.ปรองดองฯ กลับมาพิจารณาอีกครั้งในการประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติ หรือเอื้อประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอให้ดูเจตนานายบรรหารก่อน

ทั้งนี้ นายบรรหารเหมาะเป็นคนกลางเพราะมีประสบการณ์ เป็นมือประสานสิบทิศ เคยทำงานมาทุกรัฐบาล และรู้จักนักการเมืองทุกฝ่าย เชื่อว่าน่าจะนำบ้านเมืองออกจากวังวนความขัดแย้งได้ แต่ทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน แม้ว่าอาจจะต้องพูดคุยกันหลายครั้ง พอเริ่มแล้วล้มเหลวก็ต้องมาพูดคุยกันใหม่ เพื่อให้เกิดความปรองดองให้ได้

นอกจากนี้ ในวันที่ 3 ม.ค.เวลา 09.00 น. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย จะนำคณะ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไปร่วมอวยพรปีใหม่ 2556 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพักหมู่บ้านเบเวอรี่ฮิลล์ ถ.แจ้งวัฒนะ แต่ไม่มีการหารือเรื่องประเด็นสถานการณ์การเมือง เช่น เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะประเด็นการเมืองจะนำไปหารือในการสัมมนาพรรคระหว่างวันที่ 6-7 ม.ค.ที่เขาใหญ่ ทั้งนี้ ทราบว่านายจารุพงศ์จะเดินทางไปอวยพรปีใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 3 ม.ค.ด้วย แต่ยังไม่กำหนดเวลาและสถานที่แน่ชัด

ด้าน ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ควรจะเลิกหมกหมุ่นเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แล้ว เพราะทำให้มองทุกอย่างผิดเพี้ยนไปหมด แม้แต่การอ่านผลโพลก็ตีความเข้าข้างตัวเอง เหมือนแกล้งไม่เข้าใจว่าประชาชนต้องการสื่ออะไรถึงพรรคประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะเรื่องการหยุดทะเลาะเบาะแว้ง และความสามัคคี ปรองดอง อยากถามว่าใจคอนายอภิสิทธิ์จะไม่เลิกชวนทะเลาะและจะไม่ยอมให้บ้านเมืองสงบ จนกว่าตัวเองจะได้กลับมาเป็นนายกฯ ใช่หรือไม่ อันที่จริงนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ควรเอาไปคิดเรื่องของพรรคตัวเองดีกว่าว่าจะนำเสนอนโยบายอะไรให้ประชาชนบ้าง ไม่ใช่วันๆ เอาแต่พูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณ

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า เราทำการเมืองเพื่อคนไทยทุกคน ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง ขอเตือนด้วยความหวังดีว่า ยิ่งนายอภิสิทธิ์พูดถึง พ.ต.ท.ทักษิณมากเท่าไหร่ ประชาชนก็จะยิ่งคิดถึง พ.ต.ท.ทักษิณมากขึ้นเท่านั้น เห็นได้จากผลโพลต่างๆ ที่ยกให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นสุดยอดซีอีโอบ้าง เป็นนักการเมืองในดวงใจบ้าง คงเป็นเพราะคนไทยเห็นว่าการคิดนโยบายและการทำงานของ พ.ต.ท.ทักษิณเหนือชั้นกว่านายอภิสิทธิ์จนเทียบกันไม่ได้ ในขณะที่ผลงานของนายอภิสิทธิ์ คนไทยแทบจะจำไม่ได้เลย จำได้แต่เรื่องสลายการชุมนุม 99 ศพ หนีทหาร และฉายาดีแต่พูดเท่านั้น

นอกจากนี้ ร.ท.หญิง สุณิสา ยังกล่าวว่า การที่นายอัศวัชร์ อภัยวงศ์ ที่ปรึกษาของนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. ข่มขู่จะฟ้อง น.ส ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพราะการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ตั้งข้อกล่าวหาแก่ กทม. นั้น สะท้อนให้เห็นว่า ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย เนื่องจาก กรณีดังกล่าวไม่ได้มีมูล และไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายใดๆ ที่จะไปเกี่ยวข้องกับ น.ส ยิ่งลักษณ์

ทั้งนี้ ดีเอสไอ เป็นองค์กรที่มีความเป็นอิสระ ย่อมต้องตัดสินใจไปตามพยานหลักฐานที่มี หาก กทม. เชื่อมั่นว่าตัวเองบริสุทธิ์ ก็ควรไปชี้แจงข้อเท็จจริงและพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ออกมาอวดเบ่งและข่มขู่ผู้ที่จะดำเนินคดีกับตัวเอง ซึ่งเป็นการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม และเป็นการแสดงความเขลาทางกฎหมายในที่สาธารณะ

"หากพวกคุณไม่มีที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ก็ไม่ควรพูดจาเลอะเทอะ เพราะยิ่งน่าสงสัยว่า ที่ถูกดำเนินคดี กรณีบีทีเอส เป็นเพราะไม่รู้กฎหมาย จนอาจไปทำอะไรไม่ชอบมาพากลไว้หรือเปล่า อยากถามว่าการดึง นายกฯ มาเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เป็นการสร้างประเด็นเพื่อหวังประโยชน์ในการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม ใช่หรือไม่ หากใช่ ก็ขอประณามที่เล่นสกปรก" ร.ท.หญิง สุณิสา กล่าว

ร.ท. หญิง สุณิสา กล่าวว่า กทม.ควรชี้แจงกับประชาชนในเรื่องสนามฟุตซอล ที่สร้างไม่เสร็จ รวมถึงเวลาฝนตกทีไรน้ำท่วมกทม.ทุกครั้ง ซึ่งการชี้แจงเรื่องเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนมากกว่า แต่การออกมาขู่ว่าจะยื่นถอดถอนนายกฯ เพื่อให้มีการยุบพรรคเพื่อไทยนั้น สมควรไปเข้ารับการบำบัดโดยด่วน