xs
xsm
sm
md
lg

กทม.โวยDSIเรียกสอบ หาเรื่องปั่นกระแสก่อนเลือกผู้ว่าฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้อง 11 ราย ซึ่งมีผู้บริหารและข้าราชการกทม. ผู้บริหารบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด และบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC มารับทราบข้อกล่าวหา ในความผิดฐานร่วมกันประกอบกิจการค้าขายอันเป็นสาธารณูปโภค โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือสัมปทานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,84 และ มาตรา 85 ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 พ.ศ. 2515 ข้อ 3 และข้อ 11 จากกรณีการทำสัญญาให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือรถไฟฟ้าบีทีเอส ระหว่างบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด กับบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นเวลา 30 ปี วงเงิน 1.9 แสนล้านบาท
นางนินนาท ชลิตานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา กทม.ได้ยืนยันและชี้แจงต่อหน่วยงานตรวจสอบหลายแห่งไปแล้วว่า การต่อสัญญาจ้างบีทีเอสซี เดินรถไฟฟ้าเป็นเวลา 30 ปี เป็นการจ้างตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการ กทม.ฯ 2528 มาตรา 89 (8) ซึ่งเป็นการว่าจ้าง ไม่ใช่การต่อสัญญาสัมปทาน จึงไม่ต้องขออนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอ ไม่มีอำนาจในการตัดสิน เพราะต้องส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อยู่แล้ว ซึ่ง กทม.ก็ได้ส่งเอกสารชี้แจงไปยังป.ป.ช.แล้วเช่นกัน
"กทม.ยืนยันมาโดยตลอดว่า สัญญาจ้างดังกล่าวไม่ใช่การต่อสัญญาสัมปทาน แต่ก็ไม่เป็นไรไม่กังวลอะไร หากดีเอสไอแจ้งมา ก็คงต้องไป" นางนินนาท กล่าว
ด้านนายอมร กิจเชวงกุล กรรมการผู้อำนวยการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด ซึ่งเป็น 1 ในผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยว่า ตั้งแต่ที่ดีเอสไอรับให้กรณีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ ดีเอสไอ ก็ไม่เคยเรียกให้ไปชี้แจง หรือขอหลักฐานเพิ่มเติม จึงแปลกใจที่ ดีเอสไอ จะมาแจ้งข้อกล่าวหา หากระบุว่ามีความผิดเกี่ยวกับสัญญาจ้างว่าเป็นการต่อสัญญาสัมปทาน ทางกรุงเทพธนาคม ก็ได้ส่งเอกสารชี้แจงไปให้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. ได้เรียกประชุมผู้บริหารระดับสูงของกทม. บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด และบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยเฉพาะทีมงานฝ่ายกฎหมายเพื่อเตรียมนำหลักฐานทั้งหมดเข้าชี้แจงกับดีเอสไอ ในวันที่ 2 ม.ค. 56
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เรียก 11 ผู้บริหาร กทม. และเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการสอบสวนในกรณี กทม.ต่อสัญญารถไฟฟ้า BTS ซึ่งตรงกับช่วงการคัดเลือกตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และช่วงการรณรงค์หาเสียงว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะมีการพูดถึงก่อนหน้านี้ ซึ่งตนเข้าใจว่ามีการพูดชัดเจนแล้วว่า อำนาจหน้าที่ของดีเอสไอ กับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็มีกฎหมายกำหนดเอาไว้ชัดเจน ซึ่งก็มีหลายกรณีที่มีการพยายามสร้างกระแสเรื่องนี้ขึ้นมา ทั้งที่ดีเอสไอ ก็ยอมรับว่าตัวเองไม่มีหน้าที่ ซึ่งครั้งนี้ก็คงเป็นการทำเพื่อหวังผลในเรื่องของกระแส ซึ่งตนเห็นว่า ควรจะมีการตรวจสอบ ถึงแม้จะอยู่ในช่วงที่มีการเลือกตั้ง ก็ต้องสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งตนก็เชื่อว่าผู้บริหารกทม. ก็พร้อมที่จะให้มีการตรวจสอบ เพียงแต่ต้องทำตรงไปตรงมา ตามบทบัญญัติ และกติกาที่กฎหมายกำหนด
" ผมเข้าใจว่ากรณีนี้เป็นเรื่องที่ต้องส่งให้ป.ป.ช. ตรวจสอบ ซึ่งประเด็นจึงมีเพียงว่า ตกลงดีเอสไอ จะทำอะไร และความพยายามในการที่จะนำเสนอข่าวในช่วงนี้ ก็ดูจะเป็นเรื่องของการตั้งเรื่องของการเมือง ทั้งนี้ขอให้ดีเอสไอ อย่าเลือกปฏิบัติ และหากทางพรรคอื่นๆ เปิดตัวผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ขึ้นมา ก็อย่าลืมตรวจสอบคนเหล่านั้นด้วย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น