“อภิสิทธิ์” เปิดตัว “สุขุมพันธุ์” อย่างเป็นทางการ หวังรักษาเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.อีกสมัย รับเสียงแตกอาจเป็นโอกาสผู้สมัครอิสระ การันตี “คุณชาย” ตัวเลือกดีที่สุด ไม่หวั่นเกิดอุบัติเหตุกลางทางกรณีดีเอสไอจะแจ้งข้อหาต่อสัญญาบีทีเอส ยันคนกรุงเทพฯ ได้ประโยชน์ ด้าน “สุขุมพันธุ์” รอฤกษ์ลาออก มั่นใจผ่านคดีบีทีเอสฉลุย แขวะแค่ถูกกล่าวหาไม่ใช่พิพากษาว่าผิด ใครคิดว่าผิดก็ไร้สติเต็มที เชื่อไม่ซ้ำรอยกรณีรถดับเพลิงของ “อภิรักษ์”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวเปิดตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ให้ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.อีกสมัยหนึ่งอย่างเป็นทางการ หลังจากที่จะครบวาระดำรงตำแหน่งในวันที่ 10 ม.ค.นี้
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคได้พิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ โดยดูจากรายงานของคณะกรรมการคัดเลือกที่มีผู้สมัครรวม 4 คน ซึ่งทุกคนมีจุดเด่นมีแนวคิดดีในการแก้ปัญหาให้คนกรุงเทพฯ แต่เราประเมินว่าสภาวะปัจจุบันของ กทม.ต้องการการทำงานที่ต่อเนื่อง รู้งานเป็นอย่างดี มีประสบการณ์ทั้งการเมืองและการบริหาร ที่สำคัญคือกลไกที่ขับเคลื่อน กทม.มีความหลากหลาย จึงเห็นว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์มีประสบการณ์มีความรู้ความเข้าใจในปัญหา กทม.อย่างลึกซึ้ง และสามารถประสานงานได้ทุกกลไกเพื่อแก้ปัญหาให้ กทม.ทั้งกับฝ่ายข้าราชการประจำและสภา กทม.
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์มีความลงตัว ไม่นำความขัดแย้งทางการเมืองมาปนกับการบริหารงานท้องถิ่นจึงเป็นจุดแข็งที่ทำให้งานบริหารของ กทม.มีความก้าวหน้า เช่น การเปิดส่วนต่อขยายระบบขนส่งมวลชน งานด้านการศึกษาที่มีอาหารเช้า กลางวัน ให้เด็กการสาธารณสุข ปรับปรุงระบบการให้บริการ เพิ่มพื้นที่สีเขียว การปรับปรุงภูมิทัศน์ แม้ว่าในการทำงานจะมีทั้งคนที่พอใจและไม่พอใจเสียงตำหนิวิพากษ์วิจารณ์ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ก็น้อมรับที่จะทบทวนมาปรับปรุงให้ดีขึ้น ส่วนการวิจารณ์ในทางการเมืองก็ต้องชี้แจงตามความเป็นจริง ทางกรรมการบริหารพรรคจึงส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์สานต่องานเพิ่มงานใหม่ บริหารด้วยความทุ่มเทและซื่อสัตย์สุจริตเพื่อรับใช้คน กทม.ต่อไป ทั้งนี้ พรรคได้มอบให้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคจะเป็น ผอ.การเลือกตั้งครั้งนี้
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าวขอบคุณกรรมการบริหารพรรคและกรรมการคัดเลือกประชาธิปัตย์ ที่ส่งตนลงสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม.อีกสมัย เชื่อว่าเวลา 4 ปีที่ผ่านมาภายใต้การบริหารของตนจะเดินหน้าต่อไปในการที่จะรับใช้ประชาชนชาว กทม.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ เพราะงาน กทม.เป็นงานที่หนัก สลับซับซ้อน ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ แต่ตนมีความรู้งานและ 4 ปีจากนี้ไปหากได้รับเลือกตั้งก็จะทำงานได้ดีกว่าเดิมจากประสบการณ์ที่มี ทั้งนี้จะเน้นแก้ปัญหาจราจรติดขัด สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยจะเดินหน้าเต็มที่เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ชาว กทม.ดีขึ้นให้กรุงเทพเป็นมหานครที่น่าอยู่ต่อไป
นายอภิสิทธิ์กล่าวเสริมถึงกรณีที่ผลสำรวจของนิด้าโพลระบุว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์มีคะแนนเป็นรองคู่แข่งนั้น ตนทราบดีว่าการเลือกตั้งมีทั้งแพ้และชนะประชาชนมีสิทธิเลือกเต็มที่ แต่เราไม่ประมาทและทราบอยู่แล้วว่าปัจจุบันมีการสร้างกระแสกันมาก แต่ผู้ว่าฯ กทม.และพรรคพร้อมที่จะแข่งขัน ผลโพลก็สลับไปมา แต่คาดว่าในวันเลือกตั้งก็ขอให้กลับมาเป็นพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้ชนะ เนื่องจาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ผ่านบทพิสูจน์การทำงานมาแล้วว่าไม่เอาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ยึดประโยชน์คนกรุงเทพฯเป็นสำคัญ เช่น กรณีปัญหาน้ำท่วมก็ยืนหยัดในหลักการจนสามารถป้องกัน กทม.ชั้นในไม่ให้น้ำท่วมได้ ลดความเสียหายลงได้มาก อีกทั้งที่ผ่านมา การเมืองเล่นแรง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ก็โดนหลายเรื่องพร้อมน้อมรับการตรวจสอบเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งนี้เห็นว่าทุกคนมีจุดเด่น จุดเสี่ยง และมีข้อบกพร่อง แต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์มีความตั้งใจทำงานให้ กทม. ซึ่งตนและ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะร่วมกันรณรงค์ให้คน กทม.เลือกพรรค
ส่วนที่เกรงว่าคะแนนเสียงจะไม่เป็นเอกภาพจนถูกผู้สมัครอิสระดึงคะแนนไปนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ไม่สามารถเดาใจผู้ใช้สิทธิได้ แต่เมื่อเข้าสู่สนามเลือตั้งก็ต้องนำเสนอสิ่งที่จะทำให้ประชาชน พร้อมตัดพ้อสื่อมวลชนว่า การบริหารที่สร้างผลงานของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ไม่ได้รับความสนใจจากสื่อ แต่ถูกกล่าวหาเป็นการเมืองระดับชาติก็จะได้พื้นที่หน้าหนึ่ง จึงขอให้สื่อมวลชนเปิดพื้นที่ให้กับทาง กทม.ด้วย
ด้าน ม.ร.ว.สุขุพันธุ์ยังไม่ยอมพูดชัดเจนว่าจะลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.วันใด แต่ยืนยันว่าจะไม่รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.เพราะเกรงว่าจะสร้างความลำบากใจให้กับ ขรก.ของ กทม. และอยากให้การหาเสียงผู้ว่าฯ กทม.เป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ให้เป็นสนามที่เปิด ถ้ายังรักษาการอยู่สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่เกิด โดยตนจะทำวิธีเดียวกับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม. ที่ส่งหนังสือแจ้งไปยัง รมว.มหาดไทยว่าได้พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.แล้วซึ่งจะมีผลทันที
“หลายคนถามผมว่าจะลาออกวันไหน ผมขอสงวนสิทธิ์ แต่ยืนยันไม่อยู่เต็มวาระ ขอดูฤกษ์ยามในการออกจากเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม. เพราะผมเป็นคนไทยที่เชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่ามีจริง จึงไม่จำเป็นต้องปิดบังความเชื่อของตัวเองที่คนไทยส่วนใหญ่ก็เชื่อในเรื่องนี้เช่นกัน และมั่นใจว่าการลงนามในสัญญาบีทีเอสถูกกฎหมายจะไม่ซ้ำรอยกรณีรถดับเพลิงของนายอภิรักษ์ เพราะถ้ามีการกล่าวหาแล้วบอกว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิดถือว่าเป็นเรื่องที่ไร้สติสิ้นดี เพราะการกล่าวหากับคำพิพากษาต่างกัน และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจะแจ้งข้อกล่าวหาเท่านั้น ผมย้ำว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมายจึงมีความมั่นใจในเรื่องนี้”
นายอภิสิทธิ์ได้อธิบายเพิ่มเติมว่า การยื่นหนังสือถึง รมว.มหาดไทย จะมีขึ้นในช่วงหลังปีใหม่ก่อนวันที่ 10 ม.ค. 55 ซึ่งเป็นวันที่ครบวาระของผู้ว่าฯ กทม. และไม่เป็นห่วงกรณีที่ดีเอสไอกำลังจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อ 11 ผู้บริหาร กทม. ซึ่งรวมถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ด้วยว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการหาเสียง เพราะ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์พร้อมชี้แจงและยอมรับการตรวจสอบและสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงข้อกล่าวหา ซึ่งผู้กล่าวหาก็ควรแสดงเอกสารให้ชัดเจนเพื่อให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจง ที่สำคัญคือตนยังไม่แน่ใจว่าดีเอสไอมีอำนาจในการดำเนินการต่อผู้ว่าฯ กทม.หรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วดีเอสไออาจเลี่ยงแจ้งข้อกล่าวหาในฐานะส่วนตัวเหมือนกับที่ตนโดนมาแล้ว แต่ถ้าแจ้งข้อกล่าวหามาก็พร้อมต่อสู้โดยเชื่อว่าไม่น่าจะกระทบคุณสมบัติการเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.
พร้อมกับย้อนถามผู้สื่อข่าวว่าจะทราบได้อย่างไรว่าผู้สมัครของอีกพรรคหนึ่งจะไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาด้วย และเราก็ไม่สามารถทราบด้วยว่าหากพรรคส่งคนอื่นลงจะไม่ถูกดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหาอื่นอีก
ส่วนปัญหาการต่อสัญญญาส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้น ยืนยันว่าคน กทม.ได้ประโยชน์ สามารถลดภาระค่าโดยสารในอนาคต โดยเปรียบเทียบได้ว่าราคาจะถูกกว่าที่รัฐบาลปัจจุบันดำเนินการ ซึ่งจะทำให้ คน กทม.ได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ในการทำงานของผู้ว่าฯ กทม.จะมีการประสานกับพรรคมากขึ้น หลังจากที่พรรคได้แก้ข้อบังคับการจัดระบบการทำงานท้องถิ่นที่จะต้องมีระบบรายงานต่อพรรคมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาการบริหารของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็นรัฐอิสระจากพรรคนั้นเป็นเพียงระยะห่างที่พรรคเปิดโอกาสให้บริหารเต็มที่ แต่หลังจากนี้พรรคจะติดตามการทำงานของผู้ว่าฯ กทม.มากขึ้น หากได้รับเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จะเกิดอุบัติเหตุเรื่องคุณสมบัติในระหว่างทางหาเสียงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ดูฤกษ์ยามแล้วคงไม่มีอุบัติเหตุอย่างไร อีกทั้งการแจ้งข้อกล่าวหากับการชี้มูลความผิดมีความแตกต่างกัน พร้อมยกตัวอย่างกรณีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ลาออกจากผู้ว่า กทม.ทันทีที่ชี้มูลกรณีรถดับเพลิงทั้งที่กฎหมายไม่ได้บังคับ ก็ถือเป็นสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองที่พรรคตั้งไว้สูงกว่าพรรคการเมืองอื่น
