ปธ.ส.ส.กทม.ปชป.แจง “นช.แม้ว” โผล่หลอน ปชช.ผ่านช่องหอยม่วงไม่บังเอิญ ย้อนคำคนเชิญนายใหญ่เป็น ปธ.กับ “ชัยสิทธิ์” ไม่ตรงกัน แถมสาวกรู้งานรีบชวนติดตาม แฉเกี่ยวสัญญาณจากดาวเทียม ชี้ รมต.รู้ไม่เหมาะต้องหยุด อย่าปัดไม่รู้ ควรพิจารณาตัวเอง ลั่น ปชป.ไม่หนุนแก้ รธน.พร้อมขวาง วอนพรรคร่วม รบ.หยุดขัดแย้ง เลิกตามน้ำ พท.ลุยแก้
วันนี้ (11ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ถ่ายทอดสดการแข่งขันศึกมวยไทย วอร์ริเออร์ส ปีที่ 2 เทิดไท้องค์ราชัน เนื่องในโอกาสปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา ที่เขตปกครองพิเศษมาเก๊า โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดงานดังกล่าวเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าการถ่ายทอดสดครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีการวางแผนไว้ให้ พ.ต.ท.ทักษิณใช้สื่อของรัฐแก้ตัว
นายองอาจระบุว่า มีข้อสังเกตที่ขัดแย้งกันเอง ระหว่าง พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เลขาฯ คณะกรรมการจัดการแข่งขันดังกล่าว ที่ระบุว่าไม่ได้เตรียมการ โดยพบ พ.ต.ท.ทักษิณที่ฮ่องกง จึงเชิญมาเป็นประธานเปิดงาน แต่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ระบุว่าเตรียมการให้ พ.ต.ท.ทักษิณเปิดงาน อีกทั้งการที่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณเปิดงานนั้นมีแฟนคลับของ พ.ต.ท.ทักษิณในเฟซบุ๊กได้โพสต์ข้อความเชิญชวนกันให้ติดตามการถ่ายทอดสดครั้งนี้ด้วย และการออกอากาศสดนั้น เมื่อผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นว่ามีอะไรที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นก็ต้องสั่งระงับการออกอากาศทันที ซึ่งไม่เห็นว่ามีคำสั่งแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันก็มีสถานีโทรทัศน์บางช่องถ่ายทอดสดด้วย จึงถือว่ามีการเตรียมการเรื่องนี้ไว้แล้ว นายองอาจกล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนได้รับเบาะแสจากเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคของสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ว่าการถ่ายทอดสดของช่อง 11 มีการเกี่ยวสัญญาณมาจากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมบางช่องด้วย ซึ่งรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ช่อง 11 ต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 จะบอกว่าไม่รู้ก็คงไม่ได้ และเมื่อรู้เรื่องแล้วก็ต้องรับผิดชอบโดยการพิจารณาเองว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร
นายองอาจกล่าวอีกว่า พรรคยืนยันไม่เห็นด้วยต่อการที่รัฐบาลจะยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ไม่ว่าจะประดิษฐ์วาทกรรมอย่างไรก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีการในลักษณะนั้น เพราะจะนำไปสู่ความขัดแย้งอย่างรุนแรงในสังคมไทย ซึ่งถ้าพรรคร่วมรัฐบาลนอกจากพรรคเพื่อไทยได้ตระหนักถึงความเป็นจริงทางการเมืองขณะนี้ เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลควรตัดสินใจได้ว่าจะเดินไปเส้นทางใดจึงจะเหมาะสมกับสถานการณ์ช่วงนี้มากที่สุด โดยไตร่ตรองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ควรแก้เพื่อใครคนใดคนหนึ่งจนนำไปสู่ความขัดแย้งอย่างรุนแรงในสังคม พรรคร่วมรัฐบาลจึงมีส่วนสำคัญในการยุติความขัดแย้งนี้ โดยประชาธิปัตย์พร้อมดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อคัดค้านการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดยไม่รู้ว่ารัฐบาลจะแก้ไขอะไรบ้าง