ทีม กม.ปชป.แนะรัฐย้อนอ่านคำวินิจฉัยศาล รธน. ยัน “มาร์ค-เทือก” สู้คดีดีเอสไอ-ไม่ขี้ขลาด

คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ แนะรัฐบาลกลับไปอ่านและศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ก่อนโหวตแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 เตือนอย่าปิดหูปิดตาเอาใจใครบางคน ยืนยัน “อภิสิทธิ์-สุเทพ” สู้คดีดีเอสไอตามกระบวนการยุติธรรม ไม่เคยกลัว-ขี้ขลาด ฝากแกนนำแดงอย่าป่วนอีก หลังเตรียมบุกดีเอสไอ

วันนี้ (9 พ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยเร่งเดินหน้าลงมติวาระ 3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ทราบว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทย มีการกำหนดเวลาตามแผนการที่จะต้องเร่งรีบแก้รัฐธรรมนูญ เป็นวาระสำคัญเร่งด่วนอยู่แล้ว คงไม่มีใครห้ามปรามหรือยับยั้งได้ จึงเป็นเรื่องของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ถ้าเห็นว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็ดำเนินการไป แต่ก็ต้องยอมรับกระบวนการตรวจสอบ และยอมรับผลที่จะตามมาด้วย ตนอยากแนะนำว่า ให้กลับไปอ่านและศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญและรัฐธรรมนูญให้ละเอียดว่าได้วินิจฉัยไว้อย่างไร เพราะคำวินิจฉัยผูกพันกับทุกองค์กร การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 หากลงมติผ่านวาระ 3 ตนอยากตั้งคำถามว่า แล้วได้กลับไปถามประชาชน ผู้สถาปนารัฐธรรมนูญแล้วหรือยังว่าพวกเขาต้องการให้แก้ มาตรา 291 หรือไม่ อย่าบอกว่าให้ผ่านวาระ 3 ไปก่อน เพราะหากผ่านวาระ 3 ทุกอย่างก็จะเข้าสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งเป็นการล้มรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ทันที

“รัฐบาลอย่าเร่งรีบปิดหูปิดตาประชาชนเพื่อเอาใจใครบางคน ไม่เช่นนั้นปัญหาจะตามมาไม่จบสิ้น ผมเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ก็ไม่ได้เป็นปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่คนบังคับใช้และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ เมื่อองค์กรใดเป็นปฏิปักษ์ วินิจฉัยไม่เป็นไปตามความประสงค์ ก็จะมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงล้มล้างองค์กรนั้น แต่ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนแปลงการกระทำของตนเลย” นายราเมศ กล่าว

นายราเมศ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ตั้งข้อหาดำเนินคดีกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลนั้น กล่าวว่า ได้มีหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะคนของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย โดยตนขอยืนยันยันว่า ทั้งนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ จะต่อสู้ตามครรลองของกระบวนการยุติธรรม เพราะขั้นตอนตามกฎหมายยังมีกระบวนการอีกหลายขั้นตอน ความเห็นของพนักงานสอบสวนของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่มีข้อเคลือบแคลงสงสัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้อกฎหมายและปัญหาข้อเท็จจริง ดังนั้น ก็ต้องต่อสู้กันว่าความเห็นที่อยู่บนพื้นฐานของคำว่า อคติของพนักงานสอบสวนกับความเป็นจริงความถูกต้องอย่างไหนจะชนะ

ทั้งนี้ นายราเมศ ได้กล่าวฝากไปยังสมุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งหลายว่า พรรคประชาธิปัตย์และคนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยกลัวหรือขี้ขลาดต่อการพิสูจน์ความจริงในกระบวนการยุติธรรม และจะไม่วิ่งเต้นคดีด้วย โดยเห็นว่า ความจริงความถูกต้องจะต้องคงอยู่กับสังคมต่อไป นอกจากนี้ ตนทราบข่าวมาว่า จะมีกลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมรวมตัวกันเพื่อเดินทางไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ในวันที่ 13 ธ.ค. เวลา 13.30 น.จึงอยากเตือนแกนนำว่าอย่านำมวลชนไปสร้างความวุ่นวายให้กับประเทศอีก เพราะทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว อีกทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษก็อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของกลุ่มของรัฐบาลอยู่แล้ว จึงวอนขออย่าทำตัวเป็นคนอันธพาลป่วนบ้านเมืองอีกเลย