รมต.ประจำสำนักนายกฯ ตะแบง “แม้ว” โผล่สื่อรัฐไม่ผิดระเบียบ โยน “อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์” แจงหากมีผู้ร้องเรียน ไม่สน ปชป.ทวงถามความรับผิดชอบ เล็งปีหน้ายกเครื่องระเบียบออกอากาศ อ้างต้องอยู่ในกรอบ กสทช. ด้าน “ธีระพงษ์” ยันไม่ใช่ภาพหลุดแค่ไม่รู้มาก่อน ยันทำตามกฎปกติ แอ่นอกป้อง “ทักษิณ” เป็นคนไทยมีสิทธิใช้สื่อรัฐตาม รธน.
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 18.50 น. น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังจากที่เรียกนายธีระพงษ์ โสดาศรี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เข้ารายงานกรณีปรากฏภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดการแข่งขันศึกมวยไทยวอร์ริเออร์ส เทิดไท้องค์ราชัน เขตปกครองพิเศษมาเก๊า ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านทางวิทยุโทรทัศน์ช่อง 11 หรือเอ็นบีที เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาในการหารือร่วม 2 ชั่วโมงว่า เบื้องต้นได้ให้อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์สรุปรายงานถึงการดำเนินการภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ โดยเป็นการดำเนินการตามธรรมเนียบปฏิบัติตามปกติของกรมประชาสัมพันธ์ โดยทางอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์พร้อมที่ตอบคำถามทุกประเด็น นอกจากนั้นก็เป็นการติดตามการปฏิบัติงานในเรื่องอื่นๆ
น.ส.ศันสนีย์กล่าวต่อว่า ทางกรมประชาสัมพันธ์ให้ความชัดเจนว่าการถ่ายทอดสดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร มีการดำเนินการขออนุญาตอย่างไร ก็จะเห็นกระบวนการว่าเหมือนการปฏิบัติปกติทั่วไปมาโดยลำดับ ซึ่งเป็นประเด็นที่เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดำเนินการตามขั้นตอนและกฎกติกาที่ยึดถือกันมา ดังนั้นเรื่องนี้คงไม่ใช่ความขัดข้องแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวรู้สึกเห็นใจทางเจ้าหน้าที่ที่อาจจะอึดอัดและเครียดจากเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุการณ์ขัดนี้ขัดต่อความรู้สึกของประชาชนบางส่วน หากเกิดขึ้นอีกในอนาคตสามารถทำได้หรือไม่ น.ส.ศันสนีย์กล่าวว่า อยากให้พูดเพียงแค่ครั้งนี้ที่เป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้ ไม่ขอพูดถึงเรื่องอนาคต เพราะไม่อยากเปิดประเด็นใหม่ ซึ่งทางกรมประชาสัมพันธ์ก็ได้ให้ความชัดเจนในกระบวนการปฏิบัติ และเจ้าหน้าที่ก็ทำตามหน้าที่อย่างเต็มที่บนพื้นฐานความระมัดระวัง อีกทั้งนายธีระพงษ์ก็ยืนยันว่าได้ดูอยู่ตลอด และพร้อมที่จะชี้แจงหากมีการร้องเรียนตามช่องทางต่างๆ
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้มีการแสดงความรับผิดชอบ น.ส.ศันสนีย์กล่าวว่า ก็ขอขอบคุณ แต่ยืนยันว่าได้ทำงานด้วยความรับผิดชอบอยู่แล้ว ส่วงนกรณีที่หากเอกชนรายเดิมมาเช่าเวลาอีก จะมีการกำชับให้พิจารณาอย่างไรหรือไม่นั้น เรื่องนี้มีหลักการทำงานอยู่แล้ว แต่ในปี 2556 นี้จะมีการมอบนโยบายอีกครั้ง โดยในครั้งนี้เป็นการปฏิบัติสืบเนื่องมา ส่วนตัวเข้ามาก็ไม่ได้ไปสั่งการใดเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องอนาคตนั้นขณะนี้มีการเปลี่ยนแปลง เพราะ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้ามากำกับดูแล กรมประชาสัมพันธ์ และสื่อในเครือที่เป็นสื่อสาธารณะ ดังนั้นก็จะมีกรอบต่างๆที่ต้องมาออกแบบร่วมกันว่าจะดำเนินการภายใต้นโยบายต่อไป ก็เพื่อให้สื่อของกรมประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยงานของการประชาสมพันธ์ให้รัฐ ทั้งการสร้างภาพลักษณ์และทำความเข้าใจต่างๆ และทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุด
เมื่อถามว่า แม้เป็นการถูกระเบียบ แต่อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม น.ส.ศันสนีย์กล่าวว่า คงระบุไม่ได้ว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะหากพูดออกไปก็ย่อมมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เนื่องจากเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน
ด้านนายธีระพงษ์ชี้แจงถึงข้อถามถึงสาเหตุที่ปรากฏภาพ พ.ต.ท.ทักษิณผ่านทางช่อง 11 ซึ่งเป็นสื่อของรัฐว่า ตามที่ พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เลขานุการคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ได้กล่าวขออภัยทางช่อง 11 ที่อาจจะทำให้เกิดความเดือดร้อน ที่ไม่ได้แจ้งประสานว่าจะมีการกล่าวเปิดงานโดย พ.ต.ท.ทักษิณมาก่อน ดังนั้นจึงไม่ใช้ความขัดข้องใดๆ ของทางช่อง เพราะไม่ถือเป็นภาพหลุดอย่างที่วิจารณ์กัน ถือเป็นเรื่องปกติที่ทำอยู่ เหมือนการถ่ายทอดสดทั่วๆไป นอกจากนี้ยังไม่ถือว่าขัดต่อกฎระเบียบของทางช่องหรือข้อกฎหมายใดๆ เพราะไม่มีระบุไว้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีสถานะเป็นบุคคลหลบหนีคดี แต่กลับมาปรากฏตัวผ่านสื่อของรัฐ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนไทยคนหนึ่งที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญเหมือนกับคนอื่นๆ ซึ่งรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ว่าทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็น และสามารถสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ ได้ และยังไม่ได้ถือว่าขัดต่อกฎระเบียบของ กสทช.อีกด้วย