“เฉลิม” เลื่อนแจงอนุฯ กรรมการสิทธิฯ กรณียิงแก๊สน้ำตาใส่ม็อบเสธ.อ้าย ปัดรัฐบาลเล่นงาน “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ยันฟ้องฆ่าคนตายตามข้อเท็จจริง อ้างอัยการใครสั่งไม่ได้ พร้อมยืนยันต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในโลก ไม่เคยกลั่นแกล้ง ไม่เคยยัดหลักฐานเท็จ ถามศาลชี้แท็กซี่ตายตามคำสั่ง ศอฉ.ใครแกล้ง ลั่นไม่ประวิงเวลา โอ่ทำความจริงให้ปรากฏ ชี้ยังมีเวลาหายใจอีกนาน โบ้ยบีบเข้านิรโทษฯ แค่คิดไปเอง ป้อง “ธาริต” นั่ง ศอฉ.แค่ กก.ไม่ได้สั่ง
วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่อนุกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะเชิญไปให้คำชี้แจงกรณีการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า วันนี้ติดธุระจึงได้ขอเลื่อน โอกาสหน้าเชิญมาก็จะไปชี้แจงได้
ร.ต.อ.เฉลิมยังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ผอ.ศอฉ.) ออกมาระบุเรื่องของการถูกแจ้งข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนา สามารถชี้แจงได้อย่างถูกต้อง และขณะนี้กำลังถูกรัฐบาลเล่นงานอยู่ว่า ไม่ใช่รัฐบาลเล่นงาน แต่เป็นไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพราะพนักงานสอบสวนไม่ได้มีเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แต่มีทั้งหมด 3 ฝ่าย คือมีตำรวจและอัยการร่วมด้วย ซึ่งอัยการเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ใครก็ไปสั่งไม่ได้ ส่วนใครจะชี้แจงอย่างไรก็ไปว่ากันต่อที่ดีเอสไอ รัฐบาลและตนไม่เกี่ยวข้องด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้เป็นเกมการเมืองหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ใช่ อาจจะเข้าใจไปเอง “ผมยืนยันต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก ผมไม่เคยไปกลั่นแกล้งและไม่เคยไปเอาหลักฐานอะไรสักชิ้นที่เป็นเท็จและให้บุคคลเหล่านี้ถูกดีเอสไอสอบ” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า ความจริงมีว่าเมื่อเกิดเหตุใหม่ๆ เอาสำนวนชันสูตรพลิกศพไปเก็บไว้ที่ดีเอสไอและไม่ดำเนินการสอบสวน เพราะส่งให้อัยการและส่งศาลไต่สวน เรื่องเลยเงียบมาตลอด ซึ่งผิดหลักกฎหมาย เมื่อตนมารับผิดชอบจึงสั่งการว่าเมื่อมีคนตายลักษณะแบบนี้ ตำรวจท้องที่ที่พบศพต้องทำการสอบสวน และให้อัยการมาร่วม เมื่อเห็นข้อเท็จจริงเบื้องต้นก็ส่งอัยการและศาลให้ไต่สวนต่อไป ตนอ่านคำสั่งศาลโดยศาลบอกว่าใครตาย ชื่ออะไรรู้หมด และใครทำให้ตาย โดยปฏิบัติตามคำสั่ง ศอฉ. เรื่องก็มาถึงตรงนี้ ใครจะไปบังคับศาลได้ จะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ต้องดูข้อเท็จจริงและเหตุผลประกอบ เมื่อศาลสั่งชื่อนายพัน คำกอง ตายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหาร และเป็นการปฏิบัติตามคำสั่ง ศอฉ. และศาลก็ไม่ได้สั่งว่าใครเป็นคนทำให้ตาย เพราะคนเยอะ รู้แต่เพียงคนตาย อีกทั้งศาลบอกว่าที่ตายเพราะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่ง ศอฉ. แล้วใครจะแกล้ง แกล้งอย่างไรลองบอกตน
เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้อยคำแถลงของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เหมือนคำพูดของท่าน และดูเหมือนกับมีการตั้งธงไว้แล้ว ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ใช่ คนเรียนกฎหมายมาด้วยกันจะพูดไม่ต่างกัน เมื่ออ่านคำสั่งศาลแล้วจะพูดเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร ตนไม่ได้พูดก่อนศาลวินิจฉัยคำสั่ง และตอนที่ตนอภิปรายพรรคประชาธิปัตย์ฮึ่มก็ไม่เห็นทำอะไรตนได้ เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด และใครจะไปสั่งยังไง ถ้าไม่มีการชันสูตรพลิกศพเรื่องก็เก็บไว้ ตนก็มาขยับตรงนั้นและตั้งพนักงานสอบสวนโดยให้ตำรวจนครบาลไปร่วม 50 คน จึงมีความจริงปรากฏอย่างนี้ ส่วนการเลื่อนแจ้งข้อกล่าวหาสามารถเลื่อนได้กี่ครั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับดีเอสไอ แต่สมัยที่ตนเป็นสารวัตรกองปราบสามารถเลื่อนได้ 2 ครั้ง
เมื่อถามว่าจะเป็นการประวิงเวลาหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า คงไม่ เพราะมันช้ามาตั้งนานแล้ว คือรัฐบาลชุดนี้กำลังทำให้ความจริงปรากฏ ใครทำผิดต้องรับผิดชอบไม่มีอย่างอื่น เมื่อถามย้ำว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าไม่มีการตั้งธงเอาไว้ล่วงหน้า ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่าจะตั้งไว้ได้อย่างไร แล้วอัยการจะเอาด้วยหรือ เพราะเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ อย่าไปเข้าใจผิด จะไปสู้คดีกันอย่างไรก็ช่าง เมื่อถามว่านายอภิสิทธิ์และนายสุเทพยังมีเวลาหายใจได้อีกนานใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ยังสามารถหายใจได้อีกนาน
เมื่อถามว่า เป็นเหตุผลหนึ่งหรือไม่ที่ฝ่ายค้านออกมาระบุว่าเป็นการบีบเพื่อให้เข้าสู่การปรองดองนิรโทษกรรมได้ง่ายขึ้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คิดไปเอง คดีนี้เป็นคดีรุนแรง ถ้าใครผิดโทษหนัก ตนจะไม่บอกว่าใครผิดใครถูก อย่าแสดงออกแบบนี้มันไม่ใช่ข้อเท็จจริง ทำตามกฎหมายทั้งหมด คดีแบบนี้แกล้งกันไม่ได้ ถ้าเป็นยาเสพติดยังเอาไปยัดกันได้
เมื่อถามว่า กรณีที่นายสุเทพระบุว่าหากจะบีบเรื่อง พ.ร.บ.ปรองดองจะยอมติดคุกดีกว่า รองนายกฯ กล่าวว่า ขั้นตอนอีกนาน ดีเอสไออาจจะสั่งไม่ฟ้องก็ได้ หรืออัยการอาจจะสั่งไม่ฟ้องก็ได้ ไปศาลก็อีกตั้ง 3 ศาล อีกยาว ตนไม่ขอแสดงความเห็นด้วย ขอไม่ทะเลาะด้วย แต่จะทำงานตามหน้าที่และก็ไม่ใช่หน้าที่ตน ตนเพียงแต่สั่งเท่านั้น ตอนที่สั่งให้ชันสูตรพลิกศพก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าศาลจะวินิจฉัยอย่างไร ไม่มีใครสั่งศาลได้ เมื่อถามว่ากรณีที่นายอภิสิทธิ์ยืนยันว่าจะต่อสู้ทุกกระบวนการหากเรื่องนี้เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวพร้อมหัวเราะว่าจะไปกลั่นแกล้งได้อย่างไร เป็นคดีอาญาแผ่นดินไม่ใช่เรื่องการเมือง ส่วนตามลำดับขั้นตอนกฎหมายต่อนี้ไปจะเป็นอย่างไร จะขึ้นอยู่กับดีเอสไอ เพราะเป็นคดีพิเศษตอนสมัยที่นายสุเทพเป็นประธานคณะกรรมการ ไม่ได้มารับเป็นคดีพิเศษในสมัยตน พูดให้ชัด พูดให้หมด และเมื่ออีกฝ่ายถูกดำเนินคดีไปแล้ว 286 คดี แล้วจะเกี่ยวอะไรกับตน
เมื่อถามว่า นายธาริตถือว่าเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ร่วมเสนอความเห็นขณะนั้นจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า นายธาริตและอัยการสูงสุดก็เป็นคณะกรรมการ ไม่ได้ออกคำสั่ง แต่ถ้าหากประชาธิปัตย์มีหลักฐานก็แจ้งจับนายธาริตได้
นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายข้อหายาเสพติดกลางตลาดเยาวราช ส่งผลให้ประชาชนและร้านค้าได้รับความเสียหายจะต้องใช้ความละเอียดและรอบคอบอย่างไรว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจระมัดระวังอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่จะลงมือก่อน และทางฝ่ายค้านก็ฮึ่มว่าฆ่าตัดตอน ตำรวจล้มหายตายจากตั้งมาก และเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ต้องมีความระมัดระวัง