xs
xsm
sm
md
lg

“เด็จพี่” เย้ย “มาร์ค-เทือก” ยอมรับกฎแห่งกรรม “นพดล” ไล่ “กรณ์” ไปช่วยเพื่อนสู้คดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (แฟ้มภาพ)
โฆษกเพื่อไทยเย้ย “มาร์ค-เทือก” ต้องยอมรับกฎแห่งกรรม อ้างอย่าโยงนิรโทษกรรมคนละเรื่อง “นพดล” ซัด “กรณ์” กล่าวเท็จ ปัด “นช.แม้ว” จุ้น ไล่ไปแนะนำ หน.พรรครวบรวมหลักฐานสู้คดี

วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ดีเอสไอส่งหนังสือเชิญนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีที่มีผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ในวันที่ 13 ธ.ค. โดยนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพระบุว่ายอมติดคุกถึงโทษประหารชีวิต แต่ไม่ยอมให้ต่อรองแลกกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมว่า วันนี้ญาติของผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากนั้นต้องการให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่สั่งการที่น่าจะบริหารราชการแผ่นดินผิดพลาดจนมีผู้เสียชีวิตเกือบร้อยราย ซึ่งเป็นการสูญเสียทางการเมืองที่น่าจะมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ดังนั้น วันนี้นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพต้องยอมรับเรื่องของกฎแห่งกรรมที่ใครทำอะไรไว้ก็ย่อมต้องรับกรรมอย่างนั้น แต่อย่าโยงเรื่องนี้กับเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรม หรือพยายามโยงให้เป็นเรื่องทางการเมืองเพราะเป็นคนละเรื่องกัน ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดและสับสน เพราะเมื่อมีผู้เสียชีวิตฝ่ายบริหารที่สั่งการก็ย่อมจะต้องรับโทษ ต้องมีผู้รับผิดชอบตามระบบนิติรัฐ นิติธรรม ดังนั้นขอให้ทั้ง 2 คนไปต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความจริงให้เป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่มาเบี่ยงประเด็นว่าถูกบีบให้แลกกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรม

ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตามที่นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าการที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอตั้งข้อกล่าวหานายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ในข้อหาฆ่าคนตายจากการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการใช้อำนาจรัฐบีบนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ให้ยอมรับกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น เรื่องนี้ขอชี้แจงว่าเป็นการกล่าวหาที่เป็นเท็จของนายกรณ์ และเป็นการใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็ได้รับความไว้วางใจและเคยทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนไม่ใช่หรือ และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอก็ทำงานและตัดสินใจร่วมกับอีกสองฝ่าย คือ ตำรวจ และอัยการ ดังนั้นการตั้งข้อกล่าวหาจึงเป็นการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา โดยรัฐบาลไม่ได้เข้าไปชี้นำหรือบังคับให้ทำการใดๆ เป็นดุลพินิจที่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ขนาดรัฐบาลยังแทรกแซงไม่ได้ พ.ต.ท ทักษิณจะเข้าไปแทรกแซงได้อย่างไร

“แทนที่นายกรณ์จะใช้เวลาว่างเขียนเฟซบุ๊กกล่าวหาคนอื่นพล่อยๆ นายกรณ์ควรไปแนะนำให้นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ไปรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแก้ข้อกล่าวหาจะดีกว่า เพราะเป็นขั้นตอนการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมปกติธรรมดา ไม่เหมือนข้อกล่าวหาที่จ้องเอาผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณหลังรัฐประหาร ที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องแก้ข้อกล่าวหากับศัตรูทางการเมืองที่เป็น คตส.ที่สอบสวนคดี และไม่แปลกใจเลยที่สั่งฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณเกือบทุกคดี ผมไม่คาดหวังที่นายกรณ์จะมอง พ.ต.ท.ทักษิณในแง่ดี แต่คนเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีคลัง น่าจะมีมาตรฐานในการแสดงความเห็นต่อปัญหาบ้านเมือง และถ้าเขียนอะไรที่สร้างสรรค์ไม่ได้ก็ไม่ต้องเขียนเฟซบุ๊กทุกวันก็ได้” นายนพดลกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น