“กรณ์ จาติกวณิช” ควงแขน “สาธิต ปิตุเตชะ” ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ขอตรวจสอบดูลายเซ็น “นช.ทักษิณ” มอบอำนาจให้ “พร้อมพงศ์” แจ้งความดำเนินคดี “มาร์ค” พร้อมพรรคพวก ปชป.หมิ่นประมาทฯ เป็นลายเซ็นปลอมหรือไม่
วันนี้ (18 ต.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สน.ลุมพินี นายกรณ์ จาติกวณิช และนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ถูกกล่าวหา จากกรณีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมทนายความเดินทางแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายกรณ์ จาติกวณิช นายสาธิต ปิตุเตชะ นายศิริโชค โสภา พร้อมพวก ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กรณีจัดปราศรัยขึ้นที่สวนลุมพินี เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา โจมตีใส่ร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นผู้บงการกลุ่มชายชุดดำ และการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ตามข่าวที่เสนอแล้ววานนี้ (17 ต.ค.) ได้ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.รังสรรค์ ประดิษฐ์ผล ผกก.สน.ลุมพินี เพื่อขอตรวจสอบข้อเท็จจริงของเอกสารการแจ้งความว่า มีการเซ็นมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างถูกต้องหรือไม่ โดย พ.ต.อ.รังสรรค์ใช้เวลาชี้แจงประมาณ 30 นาที
นายกรณ์เปิดเผยว่า จากกรณีเรื่องชายชุดดำเมื่อ 2 ปีก่อน ที่ทางประชาธิปัตย์ได้นำมาปราศรัยนั้น ดูเหมือนว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ต้องลุกมาแจ้งความดำเนินคดีต่อตนกับพวก ซึ่งพวกตนก็พร้อมจะต่อสู้คดีในชั้นศาล แต่วันนี้ได้เดินทางมาเข้าพบ พ.ต.อ.รังสรรค์ เพื่อขอทำความเข้าใจเกี่ยวกับเอกสารที่ทางนายพร้อมพงศ์นำมายื่นฟ้องพวกตนว่ามีการทำผิดข้อหาอะไรบ้าง และการมอบอำนาจของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นถูกต้องหรือไม่ หากเอกสารถูกต้องก็อยากทราบว่านายพร้อมพงศ์นั้นไปรับมอบเอกสารจาก พ.ต.ท.ทักษิณที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นเป็นบุคคลที่ถูกออกหมายจับ ศาลตัดสินว่ามีความผิด และหลบหนีคดีอยู่ ซึ่งทาง พ.ต.อ.รังสรรค์ก็ได้ชี้แจงว่า กำลังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารการแจ้งความที่ได้รับ ทั้งนี้หากเอกสารการแจ้งความนั้นไม่ถูกต้อง มีการปลอมลายเซ็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือลงนามเอกสารแจ้งความไว้ก่อนเกิดเหตุ นายพร้อมพงศ์ก็อาจจะเข้าข่ายมีความผิดฐานยื่นเอกสารเท็จต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ
“ฝากบอก พ.ต.ท.ทักษิณด้วยว่า หน้าไม่อาย พอกระบวนการยุติธรรมเป็นโทษกับตัวเองก็บอกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่กรณีแบบนี้กลับมาพึ่งกระบวนการยุติธรรม ถ้าแน่จริงก็ขอให้กลับมาสู้คดีที่ประเทศไทย เพราะน้องสาวเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่” นายสาธิตกล่าว
ทางด้าน พ.ต.อ.รังสรรค์กล่าวว่า เรื่องนี้ได้รายงานผู้บังคับบัญชาไปตามขั้นตอนแล้ว โดยอาจจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหานั้นเป็น ส.ส. ซึ่งทาง บก.น.5 จะเป็นผู้พิจารณาเพื่อให้การทำงานนั้นรัดกุมมาที่สุด โดยขั้นตอนหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการแจ้งความอยู่ว่ามีการมอบอำนาจอย่างถูกต้องหรือไม่ ผู้มอบเอกสารให้มาแจ้งความเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงหรือไม่ หากเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงก็จะทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ผู้ถูกกล่าวหานั้นกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ หากมีความผิดก็จะออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป