xs
xsm
sm
md
lg

“ทูตจีน” ยันไม่เคยมีสัญญาซื้อข้าว “จีทูจี” 5 ล้านตัน ตามที่ รบ.ไทยอ้าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เผยการขายข้าวแบบจีทูจี “ไทย-จีน” แค่ลงนามในหลักการ ส่วนการซื้อขายเป็นเรื่องของบริษัทไปตกลงกับไทย ลั่นไม่เคยมีสัญญาซื้อขาย 5 ล้านตัน ตามที่รัฐบาลไทยกล่าวอ้าง ยันซื้อจากหลายประเทศ ไม่ใช่แค่ไทย เลี่ยงตอบกำลังจะเป็นเครื่องมือบังหน้าทุจริต

วันนี้ (30 พ.ย.) เมื่อเวลา 16.30 น.คณะโรงเรียนการเมืองของจีน นำโดยรองผู้อำนวยการการเมืองของจีน จากกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ พร้อมกับทูตได้เดินทางมาเยือนพรรคประชาธิปัตย์ โดยรอง ผอ.การเมืองของจีน ได้บรรยายเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของประเทศจีนในทางเศรษฐกิจและการเมือง โดยยืนยันว่า ผู้นำคนใหม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน และมีแนวคิดที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตเป็นสองเท่าตัว ภายใน 10 ปี และจะดำรงเป้าหมายจีดีพีของจีนโต 15% ต่อปี ทุกๆ ปี อีกทั้งจีนยังมีนโยบายพัฒนาด้านเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดความมั่งมีศรีสุขต่อประชาชน และเป็นมิตรกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงต้องการให้เกิดสันติภาพ ซึ่งเมื่อจีนมีศักยภาพเพียงพอ ก็พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสันติภาพให้กับโลก

จากนั้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.โรงเรียนการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนเหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างหนึ่ง คือ เป็นพรรคการเมืองที่ทำเพื่อประชาชน พร้อมกับเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนนักเรียนการเมืองระหว่างกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้มากขึ้น ซึ่งรอง ผอ.การเมืองจีน ก็เห็นด้วยในหลักการ

นายก่วน มู่ เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวถึงการขายข้าวแบบจีทูจี ระหว่างไทยกับจีน ว่า เป็นประเพณีที่เกิดขึ้นมาหลาย 10 ปีแล้ว เพราะประเทศไทยผลิตข้าวมากที่สุด และขายข้าวได้เป็นอันดับหนึ่งของโลกตลอดมา จึงมีการหารือกันขอให้จีนซื้อข้าวเพิ่ม เพื่อช่วยเหลือชาวนาไทยให้มีรายได้ดีขึ้น ต่อมาก็มีการลงนามในข้อตกลงสนับสนุนค้าสินค้าเกษตร และสนับสนุนการค้าและวางแผนงาน 5 ปี ด้านการเกษตร สำหรับเรื่องข้าวถือว่ามีความสำคัญมากกว่ายางพารา และมันสำปะหลัง หรือผลไม้อื่น แต่ข้าวก็ถือว่าขายลำบาก แต่ตามประเพณีที่ปฏิบัติมา จีนก็เห็นว่า ควรที่จะสนับสนุน จึงลงนามในหลักการเรียกว่าระหว่างรัฐบาลเป็นในระดับหลักการเท่านั้น แต่ถ้าจะซื้อขายจริงๆ จะมอบหมายให้บริษัทไปหารือกับประเทศไทยโดยตรง ทั้งนี้ ทราบว่า มีการเซ็นสัญญากับบริษัทแล้ว โดยประมาณหลายแสนตัน แต่ไม่เคยมีสัญญาซื้อขาย 5 ล้านตัน ตามที่รัฐบาลไทยกล่าวอ้าง เพราะจีนไม่ได้ซื้อข้าวจากไทยประเทศเดียว จึงไม่ได้ซื้อมากมาย เพราะเราก็ไม่ได้ขาดข้าวอยู่แล้ว เพียงแต่ซื้อเพื่อปรับตามความต้องการของตลาดที่ชอบรสชาติข้าวไทย แต่บางครั้งก็ซื้อจากเวียดนาม รัสเซีย และอีกหลายประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามว่า บริษัทที่จีนมอบหมายให้ซื้อข้าวกับบริษัท จีเอสเอสจี กับไทย ใช่หรือไม่ เอกอัครราชทูตจีน กล่าวเลี่ยงว่า ไม่ได้มีบริษัทเดียว แต่มีหลายบริษัทประมาณ 4-5 บริษัท ซึ่งสัญญาซื้อขายก็ยังไม่ได้ยุติทั้งหมด ต้องตกลงกันต่อไป สาเหตุที่จีนเลือกซื้อข้าวไทยขณะที่ราคาสูงกว่าประเทศอื่น เพราะคุณภาพและรสชาติต่างกัน โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิของไทยมีชื่อเสียงในประเทศจีน โดยเฉพาะผู้บริโภคทางภาคใต้ของจีนชอบข้าวไทย แม้ราคาจะสูง แต่บริษัทเอกชนต้องคิดว่าคุ้ม ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ซื้อข้าวจากไทย เพราะทุกอย่างมีกลไกตลาดกำกับ เมื่อถามว่า สังคมกำลังสงสัยว่า จีทูจีในการขายข้าวระหว่างไทยกับจีน กำลังเป็นเครื่องมือบังหน้าในการทุจริตนั้นมองอย่างไร เอกอัครราชทูตจีน ปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้ โดยกล่าวว่า ไม่ทราบ และอยากอธิบายว่า การซื้อข้าวจากไทยเป็นประเพณีที่ทุกปีต้องซื้อ ส่วนการเปิดแอลซี รัฐบาลจะไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของบริษัท เนื่องจากการดำเนินการของบริษัท หรือรัฐวิสาหกิจจะทำเอง รัฐบาลมีบทบาทเพียงแค่ชี้นำให้มีการซื้อขายเท่านั้น จากนั้นบริษัทจะไปตกลงกันเองกับประเทศไทย

“ระบบที่ทำอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจีนเป็นผู้ซื้อ แต่มีบทบาทชักนำให้รัฐวิสาหกิจ หรือภาคเอกชนเข้ามาซื้อเท่านั้น หลังจากนั้น ก็ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลแล้ว รวมถึงเรื่องการตกลงราคาก็เป็นเรื่องที่สองฝ่ายคุยกัน หลักการอยู่ที่กลไกตลาด บริษัทที่ซื้อไปต้องขายได้กำไร เพราะถ้าขาดทุนคงไม่ซื้อเพราะรัฐบาลไม่ได้ช่วย เนื่องจากมีกฎเกณฑ์และระเบียบหลายอย่าง” นายก่วน มู่ ระบุ


กำลังโหลดความคิดเห็น