xs
xsm
sm
md
lg

พญามังกรเริ่มโยกย้าย "ขุนพลใหญ่" ในพรรคฯ หั่นอิทธิพลหน่วยคุมการศาลยุติธรรมที่เคยใหญ่คับฟ้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้า เล่อจี้ (赵乐际)
ASTVผู้จัดการออนไลน์/เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์/เอเจนซี-- หลังจากที่ได้สำเร็จเลือกตั้งคณะกรรมการกลางใหม่และเผยโฉมกลุ่มผู้นำสูงสุดแห่งกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จีนก็เริ่มประกาศการโยกย้ายใหญ่ในบรรดาตำแหน่งสำคัญๆของพรรคคอมมิวนิสต์ รวมทั้งตำแหน่งในรัฐบาล โดยเริ่มจากตำแหน่งคุมด้านบุคลากรและหน่วยคุมการศาลยุติธรรม

การโยกย้ายตำแหน่งระดับสูงสุดนี้ จะเป็นดั่งขุนพลแห่งกลุ่มการนำรุ่นใหม่ของจีน ได้แก่ เลขาธิการพรรคฯแห่งมณฑลส่านซี นาย เจ้า เล่อจี้ (赵乐际)วัย 55 ปี ได้รับตำแหน่งนายใหญ่องค์กรที่ทรงอิทธิพลแห่งฝ่ายการจัดตั้งองค์กรกลางของพรรคฯแทนที่ นาย หลี่ หยวนเฉา (李源潮)

สำนักข่าวซินหวาได้แถลงการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการในวานนี้(19 พ.ย.)

นายเจ้า นับเป็นดาวรุ่งดวงใหม่คนหนึ่งที่ได้เข้าสู่คณะกรรมการกรมการเมืองสำรองหรือโปลิตบูโรชุดที่มี 25 ตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำหรับนาย หลี่ วัย 62 ปี เป็นศิษย์ก้นกุฏิของประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ที่กำลังเกษียณเร็วๆนี้แล้ว เขาชวดเก้าอี้ในคณะกรรมการประจำกรมการเมืององค์กรทรงอิทธิพลที่สุดที่เป็นดวงดาวของการไต่เต้าบนเวทีการเมืองจีน อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดเก็งอย่างกว้างขวางว่า หลี่ จะได้เป็นรองประธานาธิบดีในเดือนมี.ค.ปีหน้า โดยรับผิดชอบดูแลกิจการเขตปกครองพิเศษฮ่องกงและมาเก๊า

ในเย็นวานนี้ สำนักข่าวซินหวาก็รายงานคำประกาศการโยกย้ายที่ได้รับการจับตามองกันอย่างมาก คือ นาย โจว หย่งคัง (周永康) อดีตคณะกรรมการประจำกรมการเมือง มิได้ดำรงตำแหน่งนายใหญ่สำนักงานการเมืองและกฎหมายกลางของพรรคฯอีกต่อไป โดยผู้ที่มานั่งตำแหน่งแทนก็คือ รัฐมนตรีกระทรวงพิทักษ์สันติราษฏร์ คือนาย เมิ่ง เจี้ยนจู้ (孟建柱)วัย 65 ปี เป็นการนั่งควบทั้งสองตำแหน่ง

เมิ่งซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ของคณะกรรมการเมืองสำรองเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ชื่อเป็นซาร์แห่งหน่วยพิทักษ์สันติราษฏร์หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

กลุ่มนักวิเคราะห์กล่าวถึงการที่นายเมิ่งได้ขึ้นมากินตำแหน่งแทนที่นายโจวผู้กำลังเข้าสู่วัย 70 ในเดือนหน้านั้น แสดงถึงการลดทอนอิทธิพลของสำนักงานการเมืองและกฎหมายกลางฯซึ่งมีบทบาทหน้าที่รับผิดชอบการศาลยุติธรรมของแผ่นดินใหญ่ องค์กรนี้มีอำนาจใหญ่คับฟ้าช่วงที่นายโจวเป็นนายใหญ่อยู่ ทั้งนี้ กระแสข่าวลือหึ่งว่าโจวเป็นคู่ซี้ของปั๋ว ซีไหล อดีตเลขาธิการพรรคฯแห่งฉงชิ่งและถูกขับออกจากกรมการเมืองฯสืบเนื่องจากข่าวอื้อฉาวที่ทำให้พรรคฯอัปยศที่สุดในหลายหลายสิบปีมานี้

กลุ่มวิเคราะห์พูดกันอีกว่าการโยกย้ายตำแหน่งใหญ่สุดในฝ่ายการจัดตั้งองค์กรกลางของพรรคฯนี้ แสดงถึงการเดินหน้าผลัดรุ่นการนำการเมืองการปกครอง โดยจะดำเนินไปถึงการประชุมประจำปีของสภาผู้แทนประชาชนจีนหรือรัฐสภา ที่จะมีขึ้นในเดือนมี.ค.ปีหน้าซึ่งในการประชุมฯนี้ก็จะรับรองตำแหน่งในหน่วยบริหาร โดยนายสี จิ้นผิงจะขึ้นเป็นประธานาธิบดี และหลี่ เค่อเฉียงเป็นนายกรัฐมนตรี

สำหรับเจ้าถือว่าหนุ่มและมีความอ่่อนไหวมากสำหรับการนั่งตำแหน่งใหม่ของเขานี้ เนื่องจากแต่ไหนแต่ไรมา เก้าอี้นายใหญ่ของฝ่ายจัดตั้งองค์กรกลางพรรคฯนี้จะตกเป็นของผู้นำรุ่นเดอะและพันธมิตรที่วางใจได้มากที่สุด ดังนั้น ถือว่าเจ้าเป็นได้ทะยานขึ้นเป็นดาวรุ่งการเมืองอย่างรวดเร็วที่สุดดวงหนึ่งของแดนมังกร

การที่หลี่ ผู้เป็นพันธมิตรในมุ้งการเมืองหู จิ่นเทา ชวดที่นั่งในคณะกรรมการประจำกรมการเมืองซึ่งถูกลดขนาดเหลือ 7 ที่นั่ง ได้สร้างความประหลาดใจเหลือล้นในการวางตัวทายาทการเมืองการปกครองของจีนในรอบสิบปีนี้

และพันธมิตรมุ้งการเมืองของหู อีกคน คือ นายวัง หยัง ก็ชวดเข้าสู่คณะกรรมการประจำกรมการเมือง นับว่าเป็นความพ่ายแพ้ทางการเมืองของหู ขณะที่คู่ศึกช่วงชิงอิทธิพลการเมืองของเขาคือ ผู้นำเฒ่าเจียง เจ๋อหมิน เป็นฝ่ายชนะโดยสามารถดันพันธมิตรในกลุ่มไปครองตำแหน่งสำคัญๆได้มากกว่า

ขณะเดียวกัน กลุ่มวิเคราะห์หลายเสียงแสดงความยินดีในการลดทอนอำนาจของสำนักงานการเมืองและกฎหมายกลางฯซึ่งตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์กันหนาหูว่าเป็นหน่วยไล่ล่าปราบกลุ่มนักรณรงค์สิทธิฯ นักกฎหมาย และกลุ่มร้องทุกข์ร้องเรียนในด้านต่างๆ ในนามของความมั่นคง

เคอรี่ บราว์น (Kerry Brown) ผู้เชี่่ยวชาญการเมืองจีนประจำมหาวิทยาลัยซิดนีย์ กล่าวว่า "ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม โผตำแหน่งดังกล่าว ก็ดูเป็นโทษสถานเบาที่สุดสำหรับโทษอันหนักหนาของโจว ผู้เป็นหายนะตัวจริงของประชาชน 1,300 ล้านคน"
หลี่ หยวนเฉา (李源潮)
เมิ่ง เจี้ยจู้ (孟建柱)
โจว หย่งคัง (周永康)
กำลังโหลดความคิดเห็น