รอยเตอร์ส - แหล่งข่าวระบุ ผู้นำจีนสูงสุด "หู จิ่นเทา" และผู้สืบทอดอำนาจ "สี จิ้นผิง" กำลังผลักดันพรรคคอมมิวนิสต์ให้มีกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตย นั่นคือการเลือกตั้งผู้นำในระดับคณะกรรมการกรมการเมือง แหล่งข่าวเชื่อว่าเป็นความพยายามในการฟื้นฟูภาพลักษณ์พรรคคอมมิวนิสต์ในสายตาประชาชน
การปฏิรูปประชาธิปไตยในการเลือกผู้นำพรรคฯ จะเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากว่ามีการเลือกตัวผู้นำระดับสูง ซึ่งเกิดขึ้นทุก ๆ ห้าปี และการเลือกตั้งจะกลายเป็นตรายางประทับให้แก่ตัวผู้ถูกเลือก ว่าผ่านความเห็นชอบจากสมาชิกพรรคฯ แล้ว
พรรคคอมมิวนิสต์ ครองอำนาจเหนือแผ่นดินมังกรมาตั้งแต่ปี 2492 ได้พยายามดิ้นรนรักษาอำนาจอันชอบธรรมท่ามกลางสังคมที่เผชิญปัญหาความไม่เท่าเทียม คอร์รัปชั่นและสิ่งแวดล้อมเสื่อมทราม ท่ามกลางการทำยอดเศรษฐกิจให้ดีดตัวพุ่งพรวด
แหล่งข่าว 3 แหล่งที่ใกล้ชิดกับผู้นำพรรคฯ เผยว่า ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาและทายาท นายสี จิ้นผิง ได้เสนอว่า การประชุมพรรคฯ เต็มคณะครั้งที่ 18 ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันพฤหัส ที่ 8 นี้ ควรจะมีการเลือกตั้งผู้นำตำแหน่งคณะกรรมการกรมการเมือง หรือโปลิตบูโรเป็นครั้งแรก ซึ่งผู้ชิงตำแหน่งมากกว่าตำแหน่งที่จะลงบรรจุ
ตำแหน่งโปลิตบูโร ปัจจุบันมี 24 ตำแหน่ง เป็นตำแหน่งสูงสุดลำดับสองของจีน รองจากตำแหน่งโปลิตบูโรถาวรหรือ คณะกรรมการประจำกรมการเมือง ซึ่งขณะนี้กำลังมีการเลือกโปลิตบูโรกันอยู่ โดยทำการเฟ้นจากสมาชิกของคณะกรรมาธิการกลางฯ ซึ่งมีราว 200 คน ซึ่งสองร้อยคนนี้ก็มาจากการเลือกจากผู้แทน 2,000 คนในการประชุมสภาฯซึ่งจะกระทำในสัปดาห์นี้
ภายใต้ข้อเสนอดังกล่าว จำนวนคนที่มากกว่าเก้าอี้นั้นมีถึง 20 เปอร์เซ็นต์ในการเลือกตำแหน่งโปลิตบูโร ซึ่งจะได้ดำเนินการในสัปดาห์ถัดไป แหล่งข่าวเผยว่า การชิงชัยลงคะแนนเลือกตั้งนั้น ไม่แน่ชัดว่าคณะกรรมการประจำฯ จะเข้ามามีเอี่ยวด้วยหรือไม่
แหล่งข่าวหนึ่งเผยว่า "หูต้องการขยายแนวทางประชาธิปไตยในพรรค โดยให้การเลือกตั้งเป็นมรดกตกทอดต่อไป และการเลือกตั้งนี้ก็จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สี จิ้นผิงด้วย"
สี จิ้นผิงถูกวางตัวให้แทนที่ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาคนปัจจุบันในการประชุมสภาพรรคฯ ขณะที่ตำแหน่งนายกของเวิน จยาเป่านั้นก็คงตกเป็นของนายหลี่ เค่อเฉียง ในการเปลี่ยนถ่ายอำนาจครั้งใหญ่ในรอบสิบปีนี้จะมีการส่งผ่านตำแหน่งในพรรคฯ ก่อน ส่วนตำแหน่งประธานาธิบดีและนายกฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งทางรัฐบาลนั้นก็จะได้มีการสืบทอดในการประชุมสภาฯ ในเดือนมี.ค.ปีหน้า
ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนเผยว่า การเลือกตั้งโปลิตบูโรที่มีการแข่งขันสูงนี้จะถือเป็นจุดสำคัญของการปฏิรูปครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งก็จะส่งผลไปยังการสร้างคณะทำงานของสี จิ้นผิงให้มีการปฏิรูปทางการเมืองต่อไปได้ง่ายขึ้น
เฉิง หลี่ นักวิจัยอาวุโสแห่งสถาบันบรู๊กคิงส์ ในวอชิงตันเผยว่า "ครั้งนี้เป็นการพัฒนาที่สำคัญมาก ๆ การเลือกตั้งจะกลายเป็นมรดกตกทอด ต่อไปการเมืองจีนที่ทำอะไรลับ ๆ ก็จะค่อยเปิดให้เห็นมากขึ้น หรือมองอีกแง่หนึ่ง ภาพลักษณ์พรรคฯ ในสายตาประชาชนย่ำแย่ลง การเลือกตั้งอาจช่วยฟื้นฟูอะไรได้บ้าง"
อย่างไรก็ตาม หลี่และผู้เชี่ยวชาญก็ยังคงสงสัยว่า ข้อเสนอของสองผู้นำจะได้นำไปใช้จริงหรือไม่ หรือว่าเป็นเพียงคำพูดที่ไร้ผลเชิงปฏิบัติ การเลือกวางตัวผู้นำยังคงมาจากผู้นำพรรคอาวุโสหรือฝ่ายอนุรักษ์เหมือนเดิม
ภายใต้ข้อเสนอการเลือกตั้งดังกล่าว คณะกรรมการกรมการเมืองฯ ซึ่งมีจำนวน 25 ตำแหน่ง แต่มีผู้ลงแข่ง 30 คนนั้น จะทำให้ 5 คนไม่สามารถขึ้นสู่อำนาจได้
ว่าตามหลักการแล้ว คณะกรรมการประจำกรมการเมืองมาจากการเลือกตั้งโดยคณะกรรมการกรมการเมือง การปฏิรูปเช่นนี้อาจทำให้ผู้นำระดับสูงของพรรคต้องตะลึง เนื่องจากโดยทั่วไปแล้ว การเลือกวางตัวผู้นำนั้นกระทำกันหลังม่าน ลับ ๆ หาใช่การเลือกตั้งแบบลงคะแนน
ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนศึกษาหลายคนเผยว่า ผู้ที่มีสิทธิ์นั่งเก้าอี้คณะกรรมการกรมการเมืองและคณะกรรมการประจำกรมการเมืองนั้นมีสิทธิ์เลื่อนขั้นได้นั่งเก้าอี้น้อยมาก หลายคนคงต้องผิดหวัง
ฌ็อง ปิแอร์ คาเบสตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองจีนแห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกงแบพติสท์ เผยว่า การเลือกตั้งดังกล่าวอาจจะช่วยกอบกู้เกียรติให้กับนักการเมืองหัวปฏิรูปอย่างวัง หยังพ่อเมืองก่วงตง และหลี่ หยวนเฉา ผู้นำฝ่ายการจัดการพรรคฯ ขึ้นมาได้
นายวังเป็นที่รู้จักเลื่องลือ หลังจากแก้ปัญหาปฏิรูปประชาธิปไตยที่หมู่บ้านอูข่าน ที่ก่วงตงในปีนี้ ทำให้ปัญหาความไม่สงบจบลงอย่างสวยงาม ทว่าโอกาสที่เขาจะได้นั่งเก้าอี้คณะกรรมการประจำกรมการเมืองนั้นยังคงไม่แน่ชัด นักวิเคราะห์และแหล่งข่าวหลายแห่งฟันธงว่า เขาหมดสิทธิ์ตำแหน่งสูง หลังการประชุมลับครั้งล่าสุดที่เป่ยไต้เหอ
เฉิน จื้อหมิง นักวิชาการด้านการเมืองในกรุงปักกิ่งเผยว่า นายหลิว อวิ๋นซาน หัวหน้าฝ่ายโฆษณาการแห่งพรรคฯ น่าจะเป็นผู้ที่ต้องกังวลมากที่สุดหากมีการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยจริง เพราะหลายคนไม่ชอบการทำงานของเขา
แหล่งข่าวเผยว่า ข้อเสนอของหู และสี จะทำให้การแข่งขันในการเลือกตั้งชิงเก้าอี้ในลำดับสามหรือคณะกรรมาธิการกลางฯ พลอยตึงเครียดไปด้วย ทั้งนี้คณะกรรมาธิการกลางแห่งพรรคฯ จะมีสมาชิกประมาณ 200 คน
นายเกา ซินหมิน ศาสตราจารย์ประจำโรงเรียนพรรคคอมมิวนิสต์กลางฯ เคยเขียนลงในนิตยสารของพรรคฯ ว่า ในการประชุมสภาเมื่อปี 2550 มีผู้ลงแข่งมากกว่าจำนวนตำแหน่งถึง 8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากปี 2545 ที่อยู่ที่ 2 เปอร์เซ็นต์ แหล่งข่าวเผยว่า ในครั้งนี้ภายใต้ข้อเสนอดังกล่าวของหูและสี จะทำให้อัตราผู้ลงแข่งเกินเก้าอี้มีมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์
สำนักการประชาสัมพันธ์แห่งคณะมุขมนตรีจีน ซึ่งทำหน้าที่เป็นสำนักโฆษกแห่งพรรคฯ ด้วยนั้น ขณะนี้ปฏิเสธที่จะเสนอความเห็นใด ๆ
ข้อเสนอของหูและสีผลักดันออกมาในช่วงที่การเมืองในพรรคคอมมิวนิสต์จีนแตกออกเป็นสองขั้วระหว่างฝ่ายซ้าย ที่เห็นว่าการพัฒนาเศรษฐกิจแบบพุ่งพรวดก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียม กับพวกที่ต้องการเร่งความเร็วการพัฒนา
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ เรื่องอื้อฉาวของอดีตนักการเมืองดาวรุ่ง ปั๋ว ซีไหล ที่ปีนี้ร่วงลงจากอำนาจการเป็นสมาชิกคณะกรรมการกรมการเมือง หลังจากเกิดคดีภรรยากรอกยาพิษนักธุรกิจชาวอังกฤษเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเขาเองก็ต้องคดีคอร์รัปชั่นด้วย