xs
xsm
sm
md
lg

ตัวเก็งผู้นำจีนสมัยหน้า ฝ่ายอนุรักษ์นิยมครองตำแหน่งเพียบ

เผยแพร่:   โดย: ชัยพร พยาครุฑ

หนึ่งอดีตประธานาธิบดี เจียง เจ๋อหมิน (ขวา) กับอีกหนึ่งผู้ที่กำลังจะเป็นอดีตประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ทั้งนี้สื่อนอกเชื่อว่า อิทธิพลของเจียงยังคงมากว่าหู ในการแต่งตั้งผู้นำชาติชุดถัดไป (ภาพซินหวา)
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - นักการเมืองหัวเก่าหรือฝ่ายอนุรักษ์นิยมมีแนวโน้มได้นั่งเก้าอี้ผู้นำระดับสูงพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นส่วนใหญ่ หลังจากช่วงชิงกันในเฮือกสุดท้ายก่อนการเปลี่ยนถ่ายอำนาจผู้นำแดนมังกรในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์เต็มคณะครั้งที่ 18 ในอนาคตอันใกล้นี้

แหล่งข่าวหลายแห่งระบุว่า บัญชีรายชื่อบุคคลผู้มีแนวโน้มได้นั่งเก้าอี้คณะกรรมการประจำกรมการเมืองหรือโปลิตบูโรจีน เป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมเสียเป็นส่วนใหญ่ อันได้แก่ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคฯ แห่งฉงชิ่ง นายจัง เต๋อเจียง วัย 65 ผู้นำฝ่ายโฆษณาการของพรรคฯ นายหลิว อวิ๋นซาน วัย 65 ผู้นำพรรคแห่งเซี่ยงไฮ้ฯ นายอี๋ว์ เจิ้งเซิง วัย 67 และผู้นำพรรคฯ แห่งเทียนจินนายจัง เกาหลี วัย 65

แหล่งข่าวเผยว่า เป็นที่น่าประหลาดใจเมื่อผู้นำหัวปฏิรูปอันอยู่ภายใต้ร่มเงาของประธานาธิบดีหู จิ่นเทา สองคน อันได้แก่ นายหลี่ หยวนเฉา ผู้นำฝ่ายการจัดตั้งองค์กรกลาง ซึ่งจะมีอายุ 62 ปีพอดีในเดือนนี้ และนายวัง หยัง วัย 57 ผู้นำพรรคฯ แห่งก่วงตง ถูกสลัดออกจากบัญชีรายชื่อ แหล่งข่าวเชื่อว่าเป็นผลงานการสกัดดาวรุ่งของอดีตผู้นำหัวเก่าอย่างอดีตนายกฯ หลี่ เผิงและพรรคพวก

รองนายกรัฐนตรีหวัง ฉีซานวัย 64 น่าได้จะดำรงตำแหน่งคณะกรรมการประจำกรมการเมืองต่อไป ทว่าอาจมีแนวโน้มการปรับย้ายหน้าที่รับผิดชอบสูง อย่างไรก็ดีจำนวนเก้าอี้สำหรับตำแหน่งโปลิตบูโรนี้จะลดจำนวนลงจาก 9 เหลือ 7 ขณะที่รองประธานาธิบดีสี จิ้นผิงวัย 59 ปี และรองนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงวัย 57 ปี ได้นั่งเก้าอี้คณะกรรมการประจำกรมการเมืองอยู่แล้ว

การที่โผออกมาในลักษณะที่ผู้นำรุ่นถัดไปเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ความหวังผลักดันการปฏิรูปการเมืองจีนริบหรี่ลง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เรื่องอื้อฉาวทางการเมืองของนายปั๋ว ซีไหล อดีตผู้นำพรรคแห่งมหานครฉงชิ่ง ผู้มีนโยบายซ้ายจัดและมีแนวโน้มจะได้นั่งเก้าอี้ระดับสูงได้ร่วงลงจากอำนาจ สั่นสะท้านการเมืองในพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างสาหัส

แหล่งข่าวยืนยันว่า หลังจากฟาดหัวฟาดหางกันมายาวนาน ท้ายที่สุดผู้นำจีนก็ได้ข้อสรุปหลังจากการประชุมลับเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมาระหว่างผู้นำรุ่นปัจจุบันและผู้นำเกษียณ ที่เหอเป่ย บีช รีสอร์ท เป่ยไต้เหอ แหล่งข่าวเชื่อว่า การประชุมครั้งนั้น คือการตกลงโยกย้ายวางตัวผู้นำที่จะนั่งเก้าอี้คณะกรรมการประจำกรมการเมืองหรือโปลิตบูโรครั้งล่าสุด

นักวิเคราะห์เชื่อว่า จากรายชื่อผู้นำที่เรียงหน้าขึ้นนั่งเก้าอี้กุมบังเหียนรัฐจีนรุ่นใหม่ สะท้อนให้เห็นความพ่ายแพ้ของประธานาธิบดีหู จิ่นเทาวัย 70 คนปัจจุบัน ส่วนผู้กุมชัยอยู่เบื้องหลังเห็นจะเป็นเจียง เจ๋อหมิน ผู้นำขิงแก่คนก่อนหน้า ที่ยังคงอิทธิพลดันคนของตนขึ้นสู่อำนาจระดับสูงได้เป็นทิวแถว

ศาสตราจารย์เคอร์รี่ บราวน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองจีนแห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์เผยว่า สามารถยืนยันได้ว่า หูนับวันยิ่งห่างไกลจากอำนาจเข้าไปทุกที หูไม่สามารถเอาชนะเจียงวัย 86 ปีได้

ศาสตราจารย์สตีฟ จัง ผู้บริหารสถาบันนโยบายจีนศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยน็อตติงแฮม เผยว่า ครั้งนี้ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของการเมืองมุ้งหู จิ่นเทา

นักวิเคราะห์เผยว่า การที่ครั้งนี้เลือกนายอี๋ว์ นายจัง เต๋อเจียงและนายหลิวขึ้นนั่งเก้าอี้นั้น เนื่องจากพวกเขาดำรงตำแหน่งคณะกรรมการกรมการเมืองระยะ 5 ปี มาแล้วสองสมัย เหตุที่เลือกไม่มีกฎเกณฑ์ใดในพรรคฯ ระบุชัด ทว่าเป็นกฎเรื่องความอาวุโสเสียมากกว่า ขณะที่นายจัง เกาหลี สมาชิกคณะกรรมการกรมการเมืองสมัยเดียว ก็ได้ประโยชน์มหาศาลจากการโยกย้ายตำแหน่งของนายหวัง ฉีซาน

เฉิน จื้อหมิง นักวิเคราะห์ในกรุงปักกิ่ง เผยว่า การเลื่อนขั้นของจัง เต๋อเจียง จัง เกาหลี และหลิว อวิ๋นซานซึ่งเป็นพวกอนุรักษ์นิยมทั้งหมดนั้น ทำให้เกมการเมืองจีนจบลงแบบไร้ความหมาย เนื่องจากใช้เรื่องอายุมาสกัดความสามารถผู้นำรุ่นใหม่ที่มีหัวก้าวหน้าเน้นปฏิรูป นั่นก็ชี้ชัดว่าผู้นำพรรคฯ ไม่ได้มีเจตคติต่อการปฏิรูปประชาธิปไตย

แบ่งเค้กการเมือง

จัง เต๋อเจียง ผู้ที่โดดลงไปนั่งเก้าอี้ผู้นำฉงชิ่งหลังจากปั๋ว ซีไหลถูกปลดเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา จะได้แทนที่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนประชาชนของนายอู๋ ปังกั๋วในเดือนมี.ค. นายจังเคยดำรงตำแหน่งผู้นำพรรคที่ก่วงตง และมีสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเจียง จะได้อยู่ในลำดับสามรองสี จิ้นผิงและหลี่ เค่อเฉียง ซึ่งแตกต่างไปจากคณะบริหารชุดปัจจุบันที่ประธานสภามีความสำคัญอยู่ลำดับสอง ก่อนนายกรัฐมนตรี

ส่วนนายอี๋ว์ กลุ่มการเมืองสายลูกท่านหลานเธอ ผู้ซึ่งบิดาเคยผ่านสมรภูมิการปฏิวัติมาก่อน ด้วยสายสัมพันธ์ที่มั่นคงและความสามารถในการรับมือกลุ่มต่าง ๆ ในพรรคคอมมิวนิสต์ได้อย่างเก่งกาจสามารถ จะได้นั่งเก้าอี้ประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองประชาชนจีนหรือ CPPCC อันเป็นองค์กรที่ปรึกษาทางการเมืองระดับสูงของจีน ตำแหน่งนี้ใหญ่เป็นอันดับสี่

ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวเชื่อว่าเขาจะได้ขึ้นตำแหน่งประธานสภาฯ หรือรองประธานาธิบดี แต่ก็เชื่อว่าตำแหน่งมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากกระประชุมที่เป่ยไต้เหอในต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีข่าวลือด้วยว่า หลี่ เผิง อดีตนายกรัฐมนตรีฯ อยู่เบื้องหลังการกีดกันไม่ให้อี๋ว์ขึ้นนั่งเก้าอี้ระดับสูง

ส่วนนายหลิว อวิ๋นซาน ผู้มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายหลี่ ฉังชุน ซึ่งก็เป็นมุ้งการเมืองสายเจียง เจ๋อหมินอีกคน จะได้นั่งตำแหน่งฝ่ายโฆษณาการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ และอาจจะได้โยกขึ้นไปกินตำแหน่งรองประธานาธิบดีและประธานกิจการพรรคคอมมิวนิสต์ ในฐานะเลขาธิการผู้มีอำนาจสูงดูแลคณะกรรมาธิการกลางฯ จำนวนสมาชิก 370 คน

แหล่งข่าวเผยว่า นายจัง เกาหลี อดีตเลขาธิการพรรคแหงเซินเจิ้นฯ มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเจียง จะได้เป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหารดูแลด้านกิจการเศรษฐกิจ

ส่วนนายหลี่ หยวนเฉา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรค ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มลูกท่านหลานเธอ น่าจะไม่ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งโปลิตบูโร 7 ตำแหน่ง ตัวหลี่สัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มสันนิบาตเยาวชนและมุ้งการเมืองหู จิ่นเทา การไม่ได้รับพิจารณากินตำแหน่งก็เท่ากับเป็นความพ่ายแพ้ของหู จิ่นเทาด้วย

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวเผยว่า ผู้อาวุโสในพรรคยังคงเห็นว่า หลี่ หยวนเฉา และวัง หยัง ยังคงมีโอกาสดีที่จะได้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูงในการโยกย้ายครั้งหน้า เมื่อบรรดาคณะกรรมการชุดนี้ถึงอายุเกษียณ

นักวิเคราะห์เชื่อว่า การโยกย้ายตำแหน่งของหวัง ฉีซาน น่าจะมีเหตุผลมาจากความกังวลว่าเขาจะไปบดบังบารมีของหลี่ เค่อเฉียง พันธมิตรที่หูไว้ใจได้มากที่สุด

เฉินเผยว่า ตำแหน่งใหม่ที่น่าจะเป็นไปได้สำหรับหวังน่าจะเป็นประธานคณะกรรมาธิการกลางด้านการตรวจสอบวินัยแห่งพรรคฯ ซึ่งเป็นองค์กรต่อต้านทุจริตระดับสูง ทำให้เขาได้อยู่ในลำดับที่ 7 แห่งตำแหน่งโปลิตบูโร ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า เขามีแนวโน้มได้นั่งตำแหน่งประธานสภาผู้แทนประชาชนฯ

"อย่างน้อยหวังก็มีอำนาจที่แท้จริง มากกว่ามีแต่บทบาท และเขาสามารถทำอะไรได้ อาทิเช่น ขจัดเจ้าหน้าที่คอร์รัปชั่นอย่างปั๋วออกไปได้" เฉินกล่าว

ขณะนี้สิ่งที่นักวิเคราะห์ถกเถียงกันอยู่คือ หู จิ่นเทาจะได้ตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการทหารกลางในกองทัพหรือไม่ สองนักวิเคราะห์ เฉินและถังเห็นพ้องกันว่า การวางตัวผู้นำชุดใหม่นี้ก็พอจะเดาได้ว่าหูน่าจะได้นั่งตำแหน่งในกองทัพ แต่นักวิเคราะห์อีกคนเชื่อว่า หูจะได้พักผ่อนถาวร เพราะเขาหมดไฟแห่งการต่อสู้แล้ว
คนงานกำลังติดตั้งป้ายโฆษณาชวนเชื่อ เชิดชูสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ นอกวัดตงเย่ว์ อันเก่าแก่ถึง 700 ปี กลางกรุงปักกิ่ง วันที่ 5 พ.ย. 2555 (ภาพ รอยเตอร์ส)
ภาพรวมตัวเก็งจากแหล่งข่าวอีกแห่ง ซึ่งระบุว่าคนเหล่านี้มีแนวโน้มได้ขึ้นแท่นโปลิตบูโรของจีน ไล่จากบนลงล่าง ขวาไปซ้าย ตามลำดับ รองประธานาธิบดีสี จิ้นผิง รองนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง รองนายกจัง เต๋อเจียง รองนายกหวัง ฉีซาน หัวหน้าฝ่ายกิจการพรรคนายหลี่ หยวนเฉา แถวล่างได้แก่นายจัง เกาหลี เลขาพรรคฯ เทียนจิน นายวัง หยัง เลขาพรรคฯ ก่วงตง หลิว เหยียนตง มุขมนตรี นายหลิว อวิ๋นซาน สมาชิกโปลิตบูโร และนายอี๋ว์ เจิ้งเซิง เลขาพรรคฯ แห่งเซี่ยงไฮ้ (รอยเตอร์ส)
สี จิ้นผิง
หลี่ เค่อเฉียง
จัง เต๋อเจียง
อี๋ว์ เจิ้งเซิง
หลิว อวิ๋นซาน
จัง เกาหลี
หวัง ฉีซาน
กำลังโหลดความคิดเห็น