เชื่อ พันธมิตรเจียง เจ๋อหมินยังทรงอิทธิพลในคณะผู้นำชุดหน้า

ASTVผู้จัดการออนไลน์/เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - อิทธิพลของอดีตผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน "เจียง เจ๋อหมิน" อาจจะบดบังอำนาจของเลขาธิการพรรคฯ คนปัจจุบัน "หู จิ่นเทา" ในการแต่งตั้งผู้นำที่จะขึ้นมาบริหารประเทศชุดใหม่ ที่ได้ก่อรูปก่อร่างเตรียมประจำตำแหน่งสำคัญของประเทศ

พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังจะเผยโฉมกลุ่มผู้นำรุ่นใหม่ ที่จะกุมนาวารัฐจีนสิบปีต่อไปนี้ ในการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์เต็มคณะครั้งที่ 18 ซึ่งเปิดประชุมในสัปดาห์หน้าวันที่ 8 พ.ย.นี้ และศึกช่วงชิงอำนาจใหญ่ที่โรมรันกันดุเดือดเลือพล่านตลอดทั้งปี ทั้งกลยุทธใส่ร้ายป้ายสี การเจรจาต่อรองถ่วงดุลอำนาจ การสร้างแนวร่วม ไปถึงการล็อบบี้ทางการเมืองฯ ก็ดูจะสงบลงแล้ว

ขณะนี้ม่านฝุ่นควันได้จางลง พรรคคอมมิวนิสต์ของพญามังกรดูเหมือนพร้อมแล้วที่จะประกาศรายชื่อผู้มีอำนาจตัดสินใจระดับสูงสุดชุดใหม่ของประเทศ และผู้นำเหล่านี้ก็จะต้องรับมือปัญหาการกระตุ้นเศรษฐกิจของมหาอำนาจเศรษฐกิจลำดับสองของโลกให้เติบโตอย่างยั่งยืน

แหล่งข่าวระบุอีกว่า จำนวนสมาชิกคณะกรรมการประจำกรมการเมืองจะลดลงจาก 9 เหลือ 7 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการขยับปรับให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดปัญหาผลประโยชน์ไม่ลงรอยของแต่ละฝ่ายการเมือง และจะทำให้มีแนวโน้มการปฏิรูปที่ชัดเจนลุล่วงได้ง่ายขึ้น

ผู้นำชุดใหม่ที่ต่อแถวนั่งเก้าอี้ใหญ่ๆในทำเนียบรัฐบาล ขณะนี้เกือบแน่นอนแล้ว ซึ่งการจัดแจงเรื่องตำแหน่งใหม่ก็ใช้เวลาไม่นานหลังจากนายปั๋ว ซีไหล ดาวรุ่งการเมืองแห่งฉงชิ่ง ร่วงลงจากอำนาจ นักวิเคราะห์หลายคนเห็นว่า เป็นชัยชนะของฝ่ายการเมืองสาย หู จิ่นเทา ทว่าการถ่วงดุลอำนาจขณะนี้ดูเหมือนจะเทน้ำหนักมาทางการเมืองสายเจียง เจ๋อหมิน อดีตผู้นำรุ่นก่อนฯมากกว่า อย่างไรก็ดี การเมืองจีนลื่นไหลเหมือนปรอท ไม่มีอะไรที่แน่นอนตายตัว

ตามกระแสคาดการณ์ที่แทบกล่าวได้ว่าฟันธงแล้ว รองประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และรองนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการประจำกรมการเมืองหรือโปลิตบูโรอยู่แล้ว ก็จะได้ขึ้นแทนที่ตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากหู และตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากเวิน จยาเป่า ฯ ตามลำดับ 

นายอี๋ว์ เจิ้งเซิง ผู้นำพรรคจากมหานครเซี่ยงไฮ้ บุตรชายอดีตผู้นำรุ่นอาวุโสกลุ่มลูกท่านหลานเธอ ก็เป็นที่รู้กันว่าเขามีสัมพันธ์มั่นคงและสามารถจัดการสายสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในพรรคฯได้อย่างคล่องตัว ก็มีแนวโน้มจะได้ขึ้นมานั่งเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ หรือรัฐสภา แทนที่อู๋ ปังกั๋ว

พันธมิตรของเจียงอีกคนคือ จัง เต๋อเจียงที่เข้าไปกินตำแหน่งนายใหญ่พรรคฯประจำนครฉงชิ่งแทนที่นายปั๋ว ซีไหลผู้ถูกปลดฯ ก็เชื่อว่าจะได้ขึ้นมานำสภาที่ปรึกษาการเมืองประชาชนจีน แทนที่นายจย่า ชิ่งหลิน ซึ่งก็เป็นสหายที่ไว้ใจได้อีกคนของเจียง สำหรับนายจัง เต๋อเจียง ผู้นี้ เป็นอดีตผู้นำพรรคแห่งก่วงตง (กวางตุ้ง) เป็นที่จดจำของชาวฮ่องกงว่าเป็นคนหัวเก่า อนุรักษ์นิยม และมีฉายา "มิสเตอร์ไว้ใจได้" ในการเมืองจีนแผ่นดินใหญ่

นายหลี่ หยวนเฉา ผู้นำฝ่ายการจัดตั้งองค์กรกลาง ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่ทรงอิทธิพลหน่วยหนึ่งของพรรคฯ ก็จะได้ตำแหน่งรองประธานาธิบดี รับผิดชอบดูแลเขตปกครองพิเศษฮ่องกงและมาเก๊า

รองนายกรัฐมนตรีหวัง ฉีซาน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและเศรษฐกิจของประเทศที่ยากจะหาตัวจับ ก็จะได้นั่งตำแหน่งเดิมเป็นครั้งที่หก

ดูแล้ว เก้าอี้ตัวสุดท้ายก็เหลือไว้ให้กับสามตัวเก็งที่เหลือ อันได้แก่ ผู้นำพรรคฯ จากก่วงตง นายวัง หยัง ผู้นำพรรคฯ จากเทียนจิน นายจัง เกาหลี หรือผู้นำฝ่ายโฆษณาการของพรรคฯ นายหลิว อวิ๋นซาน

สื่อนอกเทียบเคียงจากสามคนนี้พบว่า จังน่าจะมีแนวโน้มได้เก้าอี้ไปครอง ส่วนนายวัง วัย 57 ปีนั้น คงต้องรอการโยกย้ายในครั้งต่อไป ด้วยปัญหาอายุน้อยของวัง ส่งผลต่อโอกาสขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำระดับสูงของประเทศ

สื่อในกรุงปักกิ่งเผยว่า นายวัง หากได้ขึ้นเป็นคณะกรรมการประจำกรมการเมืองในปีนี้แล้ว ก็จะมีอำนาจยาวไปยันปี 2570

นายฮุ่ย ชิง นักวิเคราะห์ในฮ่องกงเห็นด้วยว่า "แม้วังเป็นคนมีเสน่ห์ และเป็นที่ชื่นชมของหลายคน แต่เขาก็ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์ในบางแง่มุม ด้วยเรื่องอายุหนึ่งเรื่อง และเรื่องปัญหาไม่ลงรอยกับปั๋ว ซีไหล ในด้านอุดมการณ์การพัฒนา ทำให้โอกาสเข้าชิงตำแหน่งใหญ่ลดลง ส่วนนายจัง เกาหลี ดูเป็นคนที่ทุกฝ่ายยอมรับได้"

สำหรับผู้นำที่ดาหน้ากันขึ้นสู่อำนาจนี้ คนที่หูไว้ใจได้มีเพียงหลี่ เค่อเฉียง ส่วนนายวัง นายอี๋ว์ นายจัง เกาหลี ทุกคนล้วนเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับเจียง เจ๋อหมิน ขณะที่นายหลี่ หยวนเฉา ก็ดูเหมือนจะย้ายสายการเมืองได้ไม่ยาก

การลงจากตำแหน่งสูงสุดของหู จิ่นเทา ต่างจากเจียง เจ๋อหมิน โดยหูจะไม่ได้กุมอำนาจทางการเมืองสำคัญอีกต่อไป แม้กระทั่งตำแหน่งคุมฝ่ายกลาโหมฯ แทนที่เขาจะได้ขึ้นตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการฝ่ายการทหารกลางของพรรคฯอีกสองปี เหมือนอย่างที่เจียงเคยนั่งมาก่อนหน้า

หู เป็นผู้ที่เชื่อมั่นในบูรณาการองค์กรต่างๆในพรรคฯ เขาต้องการสร้างแบบอย่างที่ดี แต่เรื่องอื้อฉาวในครอบครัวของผู้ช่วยที่เขาไว้ใจ คือ นายลิ่ง จี้ฮว่า ทำให้เขาหมดแรง บุตรชายของนายลิ่ง เสียชีวิตในอุบัติเหตุขับเฟอรารีชนที่กรุงปักกิ่งเมื่อเดือนมี.ค. ส่วนหญิงสองคนที่นั่งรถมาด้วยก็บาดเจ็บสาหัส อุบัติเหตุเฟอรารีนี้ ดูน่าอนาถและอดสู ผู้โดยสารท้งสามอยู่ในสภาพเปลือยและกึ่งเปลือยกัน