ซินหัว/ASTVผู้จัดการ – สื่อทางการจีนรายงานว่า ปั๋ว ซีไหล นักการเมืองจีนผู้ถูกตราหน้าว่าสร้างความเสื่อมเสียให้กับพรรคคอมมิวนิสต์จีนถูกขับออกจากพรรคฯ อย่างเป็นทางการ โดยการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นในการพบปะของผู้นำระดับสูงก่อนที่การประชุมเพื่อเปลี่ยนถ่ายอำนาจสูงสุดของจีนที่มีเพียงหนึ่งครั้งในรอบทศวรรษจะเริ่มขึ้นเพียง 4 วัน
ช่วงเย็นวันนี้ (4 พ.ย.) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 17 ในวันอาทิตย์ (4) ให้การรับรองคำตัดสินของคณะกรรมการกรมการเมือง (โปลิตบูโร) เพื่อขับนายปั๋ว ซีไหล อดีตสมาชิกคณะกรรมการกรมการเมืองจีน อดีตนายกเทศมนตรีเมืองต้าเหลียน อดีตรัฐมนตรีพาณิชย์ และอดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำนครฉงชิ่งออกจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน โดยคำตัดสินของคณะกรรมการกรมการเมืองมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ในการประชุมใหญ่แบบเต็มคณะดังกล่าวยังมีการตรวจสอบและอนุมัติรายงานการสืบสวนกรณีของนายปั๋วที่คณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยแห่งศูนย์กลางพรรค (CCDI) ส่งขึ้นมาอีกด้วย
จากการสืบสวนพบว่านายปั๋วได้ละเมิดวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์จีนอย่างร้ายแรงระหว่างดำรงตำแหน่งผู้บริหารเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง และระหว่างที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงระหว่างการดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการกรมการเมืองจีน และเลขาธิการพรรคฯ ประจำนครฉงชิ่งด้วย
การสืบสวนยังแสดงให้เห็นถึงการใช้อำนาจเกินขอบเขต ทำผิดอย่างร้ายแรง และละเลยต่อความรับผิดชอบที่มีในกรณีหวัง ลี่จวิน หลบหนีเข้าไปยังสถานกงสุลสหรัฐฯ ประจำเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน (ซื่อชวน) รวมถึงกรณีการจงใจฆาตกรรมนักธุรกิจชาวอังกฤษของนางกู่ ไคไหล
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ศาลประชาชนเมืองเหอเฝยได้ตัดสินให้ นางกู่ ไคไหลภรรยานายปั๋ว ซีไหลอดีตนักการเมืองดาวรุ่งแห่งฉงชิ่ง มีความผิดต้องรับโทษประหารชีวิตแต่ให้รอลงอาญา 2 ปี เนื่องจากสังหารนายนีล เฮย์วูด นักธุรกิจชาวอังกฤษ ขณะที่นายปั๋วเองก็ถูกตั้งข้อหาว่า แสวงหาประโยชน์ระหว่างดำรงตำแหน่งเพื่อหาประโยชน์ให้บุคคลอื่น รับเงินสินบนด้วยตนเอง และผ่านทางครอบครัวของเขา นอกจากนี้ภรรยาของเขา นางกู่ ไคไหล ยังใช้อำนาจของสามีเพื่อหาประโยชน์ให้บุคคลอื่น และครอบครัวของตนเอง ด้วยการรับเงิน และทรัพย์สินซึ่งเป็นสินบนจากผู้อื่น
นอกจากนี้ มติของคณะกรรมการกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อวันที่ 28 ก.ย. ยังระบุด้วยว่า นายปั๋วมีความสัมพันธ์ทางเพศที่ไม่เหมาะสมกับผู้หญิงหลายคน ทั้งยังมีการละเมิดระเบียบวินัยขององค์กรและบุคคล และตัดสินใจผิดพลาดในการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ ก่อให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง นอกจากนี้จากการสืบสวนยังมีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรมต่างๆ โดยพฤติกรรมของนายปั๋วส่งผลให้เกิดผลกระทบที่ร้ายแรง ทำลายชื่อเสียงของพรรค และประเทศจีน ก่อให้เกิดผลในเชิงลบอย่างหนักทั้งในประเทศ และนอกประเทศ ซึ่งเป็นการทำร้ายทำลายพรรคและประชาชน
ขณะที่เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการถาวรแห่งสภาประชาชนแห่งชาติจีนก็เพิ่งถอดถอนนายปั๋วออกจากตำแหน่งในสภาประชาชนแห่งชาติ ซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้ายของเขาที่เหลืออยู่ โดยนอกจากนายปั๋ว แล้วในวันนี้ในการประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 17 รับรองรายงานของคณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีมติให้ขับนายหลิว จื้อจวิน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงรถไฟออกจากการเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์อีกด้วย
สำหรับ นายหลิวถือเป็นผู้มีบทบาทในการพัฒนาเครือข่ายรถไฟความเร็วสูง ซึ่งทำให้ทั่วโลกตะลึงกับเทคโนโลยีการคมนาคมที่พัฒนาเร็วปานฟ้าแลบของจีน เขาใช้นโยบายก้าวหน้าแบบ “กบกระโดด” จนได้รับฉายา “หลิวกระโดด” โดยนายหลิวเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงรถไฟในปี 2539 และต่อมาขึ้นแท่นรัฐมนตรีฯ ในปี 2546 อย่างไรก็ตามโครงการก่อสร้างฯ ในระหว่างที่นายหลิวดำรงตำแหน่งฯ ถูกวิจารณ์เละว่าไร้คุณภาพไม่ปลอดภัย กอปรกับมีการทุจริตมหาศาล อุบัติเหตุเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2551 รถไฟสายปักกิ่ง-ชิงเต่าชนครั้งร้ายแรงในรอบทศวรรษที่มณฑลซานตงเนื่องจากเจ้าหน้าที่ขับเร็วเกินอัตราและรถไฟบรรทุกหนักเกินมาตรฐาน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 71 ราย บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้นายหลิวเริ่มถูกตั้งคำถามเรื่องการจัดการฯ
ในช่วงที่นายหลิวดำรงตำแหน่งฯ กระทรวงรถไฟมีแผนการสร้างเส้นทางเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงให้ได้ 16,000 กม.ภายในพ.ศ. 2558 มีการระดมเงินลงทุนมูลค่าหลายล้านล้านหยวน และกองทุนเหล่านี้มีการคอร์รัปชั่นกันอย่างมหาศาล กระทั่งสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินออกมาแฉ (มี.ค.2554) กรณีที่เงินลงทุนถูกนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสมโดยปัจเจกบุคคลหรือบริษัทมากถึง 187 ล้านหยวน ในโครงการรถไฟความเร็วสูงปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้
กระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 นายหลิวถูกตั้งคณะกรรมการฯ สอบสวนและถูกถอดถอนจากตำแหน่งรัฐมนตรี ตั้งแต่นายหลิวร่วงลงจากอำนาจ ปัญหาต่าง ๆ ที่เกาะกินระบบรถไฟจีน ซึ่งฟักตัวมาตั้งแต่ช่วงที่เขาบริหารก็ได้ผุดพรายขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินมหาศาล จากการระดมทุนสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายใหม่ ปัญหาอุปกรณ์เสียหายและวัสดุปลอมอีกเพียบ
นอกจากนี้ เมื่อปีที่ผ่านมา กระทรวงรถไฟจีนเจอมรสุมลูกใหญ่จนไม่เหลือภาพลักษณ์ หลังจากเกิดเหตุรถไฟชนที่เมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 ราย ตามรายงานของรัฐบาลจีน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเกือบ 200 คน โศกนาฏกรรมใหญ่ทั้ง 2 เหตุการณ์ดังกล่าว คณะกรรมาธิการฯ ลงความเห็นว่า ต้นเหตุสำคัญก็คือ “นายหลิว”
สำหรับ การประชุมใหญ่ครั้งที่ 7 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 17 ในวันนี้เกิดขึ้นก่อน การประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 18 หรือ “สมัชชา 18” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. ณ กรุงปักกิ่ง เพียง 4 วัน โดย “สมัชชา 18” นี้มีความสำคัญต่อทิศทางทางการเมืองของจีนอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการถ่ายโอนอำนาจผู้นำจากรุ่นที่ 4 ภายใต้การนำของ นายหู จิ่นเทา ไปยังผู้นำรุ่นที่ 5 ซึ่งคาดหมายกันว่าคือ นายสี จิ้นผิง