เอเจนซี - เรื่องอื้อฉาว ที่ทำให้นายปั๋ว ซีไหล อดีตดาวรุ่งทางการเมืองแดนมังกร ต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศ และมูลเหตุสำคัญมาจากคดีฆาตกรรม ที่ภรรยาของเขาเป็นผู้ก่อนั้น นับเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเผชิญในช่วงที่ใกล้กำลังจะมีการถ่ายโอนอำนาจให้แก่ผู้นำรุ่นใหม่ ตัวละครในเหตุการณ์นี้มีใครบ้าง เราไปดูกัน
นายปั๋ว ซีไหล : อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขานครฉงชิ่ง และเคยเป็นนักการเมืองผู้โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของจีน นายปั๋วซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีพาณิชย์ เป็นบุตรชายของบุคคลสำคัญ ซึ่งได้รับยกย่องว่าเป็นบิดาในการก่อตั้งประเทศคอมมิวนิสต์จีนคนหนึ่ง ด้วยบุคลิกฉูดฉาดมีสีสัน นายปั๋วจึงเป็นบุคคล ที่ทำให้เกิดการแบ่งขั้วกันขึ้นในหมู่ชนชั้นผู้นำ อย่างไรก็ตาม ข่าวอื้อฉาวเสื่อมเสียชื่อเสียงจากคดีฆาตรกรรม ที่ภรรยาของเขาเป็นผู้ก่อนั้น ทำให้นายปั๋วถูกปลดจากตำแหน่งในคณะโปลิตบูโร ซึ่งมีจำนวน 25 คน ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และหลุดจากการเป็นตัวเก็ง ที่คาดว่าจะได้นั่งอยู่ในคณะผู้บริหารสูงสุดของจีน 9 คนอีกด้วย อีกทั้งขณะนี้กำลังเกิดข่าวลือแพร่สะพัดเกี่ยวกับความมั่นคั่งร่ำรวยของครอบครัวนายปั๋ว ซึ่งยังคงถูกพรรคควบคุมตัวสอบสวนข้อหาละเมิดวินัย แต่มิได้ระบุชัดเจนว่าเป็นความผิดใด
นางกู่ ไคไหล : ภรรยาของนายปั๋วถูกศาลตัดสินประหารชีวิตโทษฐานวางยาพิษนายนีล เฮย์วูด แต่ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี และได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิตแทน โดยนางกู่ได้ยอมรับสารภาพว่า ฆ่านักธุรกิจชาวอังกฤษผู้นี้ เพราะขัดแย้งเรื่องเงิน และนายเฮย์วูดยังได้ขู่คุกคามความปลอดภัยของบุตรชายของเธอ กล่าวกันว่า นางกู่เกิดในครอบครัวนักการเมือง ที่มีชื่อเสียง และบากบั้นสร้างฐานะจากชีวิตในวัยเยาว์ ที่ยากลำบาก จนกลายมาเป็นทนายความชื่อดัง
นายปั๋ว กวากวา : บุตรชาย วัย 24 ปีของนายปั๋ว ซีไหล และนางกู่ ไคไหล เขาเคยเรียนหนังสือในอังกฤษ และในสหรัฐฯ ซึ่งล่าสุดที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นายกวากวามักปรากฎรูป ที่เขาไม่สวมเสื้อ ขณะไปร่วมงานเลี้ยงต่าง ๆ ลงเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต เขากล่าวว่า เขาไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ ขณะยังเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดก็เพื่อเปิดหูเปิดตา นอกจากนั้น ยังได้ปฏิเสธข้อกล่าว ที่ว่าเขาได้รับอภิสิทธิ์ในการเข้าศึกษา หรือข้อกล่าวหา ที่ว่า เขาเรียนหนังสือไม่เก่ง และขับรถหรูราคาแพง ขณะนี้ไม่ทราบว่า นายกวากวาอยู่ที่ไหน และไม่มีใครเชื่อว่า เขากลับมาจีนแล้ว หลังจากเกิดคดีอื้อฉาว
นายหวัง ลี่จวิน : อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครฉงชิ่ง แต่ถูกลดตำแหน่งเมื่อเดือนก.พ. ที่ผ่านมา นายหวังเข้าไปลี้ภัยอยู่คืนหนึ่งในสถานกงสุลสหรัฐฯ ที่เมืองเฉิงตู ซึ่งอยู่ใกล้กับนครฉงชิง และเห็นได้ว่า เขาหวาดกลัวว่า ตัวเองอาจถูกฆ่า โดยนายหวังไม่ยอมกลับนครฉงชิ่งตามคำสั่งของนายปั๋ว ซึ่งเป็นเจ้านาย แต่เขายอมให้เจ้าหน้าที่จากกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ควบคุมตัวสอบสวน เชื่อกันว่า ขณะอยู่ในกงสุล นายหวังได้กล่าวหานางกู่ว่าเป็นอยู่เบื้องหลังการตายของนายเฮย์วูด ส่งผลให้รัฐบาลอังกฤษขอให้จีนรื้อคดีการเสียชีวิตของนายเฮย์วูด อย่างไรก็ตาม เรื่องได้กลับตาลปัตร เมื่อผู้เข้าฟังการพิจารณาคดีเล่าว่า ศาลได้รับหลักฐานว่า นางกู่เองเป็นคนบอกกับนายหวังว่า ต้องการกำจัดนายเฮย์วูด และมีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่นายหวังได้ร่วมวางแผนด้วย ศาลยังได้ตัดสินจำคุกอดีตเจ้าหน้าที่ของนายหวัง 4 คน เป็นเวลา 5-11 ปี โทษฐานปกปิดการฆาตรกรรม ขณะที่ยังไม่มีการยืนยันจนถึงขณะนี้ว่า นายหวังจะถูกศาลพิจารณาคดีด้วยหรือไม่
นายนีล เฮย์วูด : ที่ปรึกษาธุรกิจชาวอังกฤษ และเป็นเพื่อนกับครอบครัวนายปั๋ว ศพของเขาถูกพบนอนตายในโรงแรมที่นครฉงชิงเมื่อเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว โดยผลการสอบสวนของตำรวจในตอนแรกระบุว่า เขาอาจเสียชีวิตจากการดื่มเหล้าเกินขนาด หรือเกิดจากหัวใจวาย จากนั้น ศพถูกนำไปเผา โดยที่มิได้มีการชันสูตร ต่อมา ทางการจีนแถลงว่า นายเฮย์วูดมีความสัมพันธ์ด้านธุรกิจกับนางกู่และนายกวากวามายาวนาน แต่มาสะบั้นลง เพราะขัดกันเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ นอกจากนั้น ยังมีรายงานด้วยว่า นายปั๋วได้หาทางสกัดกั้นการสอบสวนของตำรวจ
นายจัง เสี่ยวจิน : สื่อมวลชนของทางการจีนรายงานว่า เขาเป็นคนสนิทของครอบครัวนายปั๋ว และเคยเป็นเจ้าหน้าที่ของนครฉงชิ่ง นายจังถูกศาลตัดสินจำคุก 9 ปี โทษฐานสมรู้ร่วมคิดฆ่านายเฮย์วูด โดยนางกู่สั่งให้เขาทำทีติดตามไปเป็นเพื่อนชาวอังกฤษผู้นี้จากกรุงปักกิ่งไปนครฉงชิ่ง แล้วจัดการวางยา ซึ่งนางกู่มอบให้
นายปาทริ้ก เดอวีเล่ร์ : สถาปนิกชาวฝรั่งเศส เขาถูกตำรวจกัมพูชาจับกุมตัวในข้อหาพัวพันกับคดีนี้ แต่นายเดอวีเล่ร์ตัดสินใจบินไปจีนด้วยตนเอง เพื่อมอบหลักฐาน หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานเมื่อเดือนเม.ย. ว่า นายเดอวีเล่ร์ได้ช่วยนายปั๋วในการบูรณะเมืองต้าเหลียนในสมัยที่นายปั๋วเป็นนายกเทศมนตรีในช่วงราวปี 2533-2543 ด้านนักธุรกิจชาวอังกฤษนามว่า นายปีเตอร์ กิลส์ ฮอลล์ ซึ่งเคยทำธุรกิจกับนางกู่ เปิดเผยว่า นายเดอวีเล่ร์กับนางกู่เคยแสดงท่าที่ว่าเป็นคนรักกัน และเขาเคยเห็นทั้งคู่จับมือถือแขนกันด้วย