xs
xsm
sm
md
lg

อุบัติเหตุเฟอรารี ที่พุ่งชน “มุ้งการเมืองหู จิ่นเทา”

เผยแพร่:   โดย: สุรัตน์ ปรีชาธรรม

ซากยับเยินของเฟรารี 430 ที่กระจายบนถนนวงแหวนที่สี่ ในกรุงปักกิ่ง ในตอนเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2555 (ภาพ เอเจนซี)
ASTVผู้จัดการออนไลน์--เฟอรารีคันดำพุ่งชนกำแพงถนนวงแหวนที่สี่ในกรุงปักกิ่งเช้ามืดของวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นก็พลิกตลบลอยไปชนราวกันถนนอีกฝั่ง ภายในรถเฟอรารีเจ้ากรรมนี้ พบชายหนุ่มวัย 20 ปีต้นๆ ในสภาพกึ่งเปลือย เสียชีวิตทันที และร่างหญิงสาวอีกสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคนหนึ่งอยู่ในสภาพเปลือย อีกคนกึ่งเปลือย

ภาพอันน่าอนาถอดสูนี้ ได้ถูกเผยแพร่ในสังคมออนไลน์ ชาวเน็ตหลายคน ทอดถอนใจ “อุบัติเหตุรถยนต์นี้ ก็ไม่พ้นเรื่องราวของ ‘พวกลูกหลานผู้ทรงอิทธิพลและคนรวย... ซิท่า’”

ทว่า ต่อมาก็มีข่าวคาดเดากันเซ็งแซ่ ว่าชายหนุ่มผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุเฟอรารีดังเมื่อวันที่ 18 มี.ค. แซ่ “จย่า” เป็นบุตรชายนอกสมรสของ จย่า ชิ่งหลิน ประธานสภาปรึกษาการเมืองพรรคฯ และเป็นผู้นำใหญ่อันดับสี่ขององค์กรอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในประเทศจีนคือ คณะกรรมการประจำกรมการเมือง หรือโปลิตบูโรแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ด้วยเหตุสงสัยตัวตนของผู้เสียชีวิตฯ นี้เอง อุบัติเหตุเฟอรารีครั้งนี้ จึง “ไม่ธรรมดา” เสียแล้ว โรงสีข่าวลือทำงานกันคึกคัก โดยเสียงโจษจัณฑ์ที่แรงที่สุดคือ ทั้งสาม คือชายหนุ่มหญิงสองในรถเฟอรารีนั้น เล่นเซ็กซ์หมู่กันภายในรถจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น

นอกจากนี้ จังหวะเวลาที่เกิดอุบัติเหตุเฟอรารีนี้ ไล่หลังเพียงสามวันที่ผู้นำระดับตัวเก็งคณะกรรมการประจำกรมการเมืองฯ นายปั๋ว ซีไหล ถูกปลดออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ แห่งนครฉงชิ่ง (15 มี.ค.) ในความผิดละเมิดวินัยร้ายแรงจากการพัวพันเรื่องอื้อฉาวโดยเฉพาะกรณีฆาตกรรมนักธุรกิจชาวอังกฤษนาย นีล เฮย์วู้ด ที่ภรรยาของปั๋ว คือ นาง กู่ ไคไหล ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ยิ่งทำให้อุบัติเหตุนี้ มีนัยสำคัญยิ่งขึ้นไปอีก

กรณีอื้อฉาวทั้งสองนี้ แดงโร่ขึ้นก่อนการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์เต็มคณะครั้งที่ 18 ซึ่งคาดกันว่าจะจัดในปลายเดือนต.ค.นี้ แวดวงการเมืองโลกจับตาการประชุมสมัชชาพรรคฯ ครั้งนี้ เนื่องจากมีวาระหลัก คือการถ่ายโอนอำนาจการนำสู่กลุ่มผู้นำรุ่นใหม่ในทศวรรษต่อไป ดังนั้น ช่วงก่อนการประชุมฯ นี้ จึงเป็นนาทีทองแห่งการโรมรันศึกใหญ่ช่วงชิงอำนาจระหว่างกลุ่มผู้นำ
นาย หลิง จี้ ฮว่า ที่ปรึกษาคนสำคัญของ ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ที่ถูกอื้อฉาวเฟอรารี ทำลายอนาคตการเมืองไป โดยบุตรชายของหลิง คือ หลิง กู่ เสียชีวิตในอุบัติเหตุเฟอรารีเมื่อวันที่ 18 มี.ค. (ภาพ เซาท์ ไช่น่า มอร์นิ่ง โพสต์)
สื่อฮ่องกงเซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ฉบับวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา รายงานข้อเท็จจริงล่าสุดเกี่ยวกับอุบัติเหตุเฟอรารีฯ อันเป็นข่าวที่พลิกสถานการณ์ศึกช่วงชิงอำนาจใหญ่ในนครหลวงแผ่นดินใหญ่ ระบุว่า "หลายแหล่งข่าวทั้งจากสื่อจีนหลายรายและเจ้าหน้าที่ในกรุงปักกิ่ง เผยว่า หนุ่มผู้เสียชีวิตนั้น ของหาใช่บุตร ผู้นำจย่า ชิ่งหลิงซึ่งเป็นพันธมิตรมุ้งการเมืองของเจียง เจ๋อหมิน แต่เป็น หลิง กู่ บุตรชายของหลิง จี้ฮว่า"

หลิง จี้ฮว่าผู้นี้ กินตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานกลางพรรคคอมมิวนิวสต์จีน (General Office of the Communist Party) ซึ่งเทียบเท่าหัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว (White House Chief of Staff) หลิงเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของประธานาธิบดีหู จิ่นเทา เป็นผู้กุมอำนาจอนุญาตทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเข้าสู่สำนักงานประธานาธิบดี และเป็นผู้กำหนดวาระให้แก่หู และแน่นอน หลิงเป็นผู้นำคนสำคัญของมุ้งการเมืองหู จิ่นเทา ก่อนเกิดอุบัติเหตุเฟอรารีฯ หลิงเป็นตัวเก็งระดับแถวหน้าของคณะกรรมการประจำกรมการเมืองฯ

หลิง ยังเป็นหมากตัวสำคัญในการส่งมอบอำนาจของหู หูได้ตระเตรียมลงจากอำนาจนายใหญ่พรรคฯ โดยหวังให้สหายคนสนิทครองตำแหน่งยุทธศาสตร์ เพื่อรักษาอิทธิพลฝักฝ่ายตนต่อไป

แต่แล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา มีประกาศโยกย้ายผู้นำกลุ่มหนึ่งนำร่องก่อนการประชุมสมัชชาพรรคฯ ปรากฎชื่อหลิง จี้ฮว่าถูกย้ายไปคุมฝ่ายการแนวร่วมกลางของพรรคฯ ซึ่งเป็นหน่วยที่ทรงอิทธิพลน้อยกว่าสำนักงานกลางพรรคฯ มาก ความเคลื่อนไหวนี้มีนัยว่า โอกาสที่หลิงจะได้นั่งเก้าอี้ในคณะกรรมการประจำกรมการเมืองฯ ถูกตัดรอนไปเสียแล้ว มิฉะนั้นแล้ว เมื่อประชาชีทั่วแผ่นดินใหญ่ต่างรับรู้ถึงกรณีอื้อฉาวอันน่าอดสูในครอบครัวของผู้นำระดับสูงสุด ก็จะมีแต่บั่นทอนพลังต่อรองของมุ้งการเมืองหู จิ่นเทา

เพียงแค่กระแสสงสัยต่อการเสียชีวิตของบุตรชายที่ปรึกษาคนสำคัญของหู จิ่นเทา ก็ได้แปดเปื้อนภาพลักษณ์การปกครองของหูที่มีความสะอาดระดับสูง โดยคำถามแรกที่ประชาชนถามกันอื้ออึง ก็คือ หลิง กู่ มีเงินซื้อรถยนต์สปอร์ตหรูหรา ราคา 5 ล้านหยวน ( ราว 25 ล้านบาท) ขับได้อย่างไร? กรณีอื้อฉาวนี้ ยิ่งตอกย้ำความเชื่อของประชาชนที่ว่า ลูกหลานของเจ้าหน้าที่ระดับสูง ใช้ชีวิตกันฟุ้งเฟ้อเกินกว่าที่คิด ซึ่งมิพ้นถูกเชื่อมโยงกับคอรัปชั่น
หนึ่งอดีตประธานาธิบดี เจียง เจ๋อหมิน (หลัง) กับอีกหนึ่งผู้ที่กำลังจะเป็นอดีตประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ในการประชุมสภาฯ ทั้งนี้สื่อนอกเชื่อว่า อิทธิพลของเจียงยังคงมากว่าหู ในการแต่งตั้งผู้นำชาติชุดถัดไป (ภาพรอยเตอร์ส)
บางที นี่คือเหตุผลที่เจ้าหน้าที่ในแผ่นดินใหญ่ซุบซิบกันไปว่า รายละเอียดแผนการถ่ายโอนอำนาจกลุ่มการนำรุ่นต่อไป ดูคลอดยากคลอดเย็นนี้ จนถึง 12 ก.ย.ที่เขียนบทความนี้ ก็ยังไม่มีการประกาศวันประชุมสมัชชาพรรคฯซึ่งปกติเปิดประชุมในเดือนต.ค. นับเป็นสิ่งที่น่าเคลือบแคลงนี้และน่าจะเชื่อมโยงกับการปกปิดตัวตนที่แท้จริงของหนุ่มผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุเฟอรารีเมื่อวันที่ 18 มี.ค.

หลังเกิดอุบัติเหตุ ชื่อในบัตรประจำตัวผู้เสียชีวิต ที่ค่อยๆ เผยออกมาเป็นข่าวครั้งแรก ปรากว่าเป็นชื่อ “ปลอม” จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเป็นความบังเอิญหรือไม่... คำว่า “ปลอม” ในภาษาจีนกลาง ออกเสียง “จย่า” ซึ่งพ้องเสียงกับแซ่ของ จย่า ชิ่งหลิง พันธมิตรมุ้งการเมืองของเจียง เจ๋อหมิน นี่ก็เป็นประเด็นให้โรงสีข่าวลือ นำไปสีอย่างเมามัน

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวสื่อต่างๆในปักกิ่ง เผยว่า แท้จริงแล้วพวกเขารู้มานานแล้วว่า ผู้เสียชีวิตในอุบัติเหตุฯ คือ หลิง กู่ แต่ก็โดนกำแพงเซ็นเซอร์ปิดบังไว้ในพลัน

การปกปิดตัวตนที่แท้จริงของกรณีอื้อฉาวเฟอรารีฯ นี้ ละม้ายกับกรณีอำพรางฆาตรกรรมนักธุรกิจชาวอังกฤษ นีล เฮย์วู้ดในนครฉงชิ่งเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว (2554) ซึ่งกรณีนี้ได้ผลักปั๋ว ซีไหล สู่หุบเหวการเมืองโดยถูกปลดออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯประจำฉงชิ่ง และอื่นๆ เส้นทางสู่คณะกรรมการประจำกรมการเมืองฯ ก็ไม่ต้องพูดถึง

กรณีอื้อฉาวของครอบครัวปั๋ว แดงโร่ขึ้นเมื่อมือขวาของปั๋ว นายหวัง ลี่จวิน รองนายกเทศมนตรี และผู้นำหน่วยพิทักษ์สันติราษฏร์ ได้แจ้นไปขอลี้ภัยและสาวไส้ความฟอนเฟะของผู้นำจีนที่สถานกงสุลสหรัฐฯ ในนครเฉิงตูเมื่อเดือนก.พ. จากนั้นกรณีฆาตกรรมนายเฮย์วู้ด ก็ถูกขุดคุ้ยชนิดฝุ่นตลบไปทั่วโลก เพราะผู้ต้องสงสัยตัวเอ้ คือ นาง กู่ ไคไหล ภรรยาของปั๋ว ซีไหล นางกู่ถูกดำเนินคดี และถูกตัดสินมีความผิดสังหารนายเฮย์วู้ด ต้องโทษประหารชีวิต โดยรอลงอาญาสองปี

เรื่องอื้อฉาวเหล่านี้ ดั่งลูกไฟใหญ่จู่โจมบนเวทีการเมืองแผ่นดินใหญ่ในรอบหลายสิบปี ทำให้แผนการถ่ายโอนอำนาจ ที่ในรอบสิบปีมีหนหนึ่งนี้ ต้องตกอยู่ในความวุ่นวาย โดยที่กลุ่มผู้นำมังกรมิได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน.
กำลังโหลดความคิดเห็น