เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - นางกู่ ไคไหล ภรรยานายปั๋ว ซีไหล อดีตคณะกรรมการกรมการเมืองหรือโปลิตบูโรที่ถูกถอดถอนไปไม่นานนี้ เธอยอมรับว่าสังหารนักธุรกิจชาวอังกฤษ นายนีล เฮย์วู้ด จริง โดยการเทยากพิษกรอกปาก หลังจากที่เขาเมาและอาเจียน เจ้าหน้าที่ศาลจีนเผยเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ว่าเป็นการพิจารณาคดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษของจีน
“จำเลย นางกู่ ไคไหลและนายจัง เสี่ยวจวิน ผู้ช่วยครอบครัวของนางกู่ ไม่ได้ให้การปฏิเสธการสังหารนายนีล เฮย์วู้ด นักธุรกชาวอังกฤษ ด้วยวิธีการกรอกยาพิษจนถึงแก่ความตาย” นายถัง อี้กาน รองประธานศาลประชาชนชั้นกลางเมืองเหอเฝย มณฑลอานฮุย เผยกับนักข่าว ณ ศาลฯ อันเป็นสถานที่รับฟังคำฟ้องของอัยการ
การพิจารณาคดีความจะเลื่อนออกไป โดยศาลจะเลือกวันอีกครั้งเพื่อทำการตัดสินอีกครั้ง ทั้งนี้คดีดังกล่าวเป็นที่จับตาของบรรดาชาวจีนและสื่อต่างประเทศอย่างคับคั่ง
การกล่าวรายงานคำฟ้องของอัยการเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 8.30น. ตามเวลาท้องถิ่น ใช้เวลานานถึง 6 ชั่วโมง ครั้งนี้เชื่อกันว่าเป็นเป็นจุดไคลแม็กซ์ของคดีการเมืองที่ร้ายแรงที่สุดของจีนในรอบกว่า 20 ปี เป็นที่สนใจกว้างขวางไปทั่วโลก นักข่าวทั้งในแผ่นดินใหญ่และต่างแดนแห่แหนกันมายังเมืองเหอเฝยกว่า 200 คน แม้ว่าการพิจารณาคดีฯ จะเปิดให้เพียงสื่อที่ได้รับคัดเลือกแล้วเข้าฟังเท่านั้น
นักธุรกิจผู้เข้าฟังคำตัดสินวัย 50 คนหนึ่ง ในฐานะตัวแทนของสาธารณชน ได้เผยกับผู้สื่อข่าวฯ ว่า นางกู่พูดว่า เธอเชื่อว่าศาลจะให้การตัดสินที่เป็นธรรม ขณะที่สามีของเธอ นายปั๋ว ซีไหล อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งมหานครฉงชิ่ง ไม่ได้ถูกกล่าวถึงตลอดการพิจารณาคดี
ถังเผยว่า อัยการกล่าวรายงานต่อศาลว่า “นางกู่เชื่อว่านายเฮย์วู้ดเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของลูกชาย คือนายปั๋ว กวากวา หลังจากที่เธอมีปากเสียงเรื่องเงินกับนายเฮย์วู้ด เธอจึงตัดสินใจสังหารเขา เธอตระเตรียมแผนให้เจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครฉงชิ่งและนายจัง เสี่ยวจวิน เชิญนายเฮย์วู้ดให้บินจากปักกิ่งมายังฉงชิ่ง โดยที่เจ้าตัวก็หารู้ไม่ว่ากำลังบินมาสู่เปลวเพลิงแห่งมัจจุราช”
“ค่ำวันที่ 13 พ.ย. 2554 นางปั๋วกู่ ไคไหลเดินทางไปหานายเฮย์วู้ดยังห้องพักหมายเลข 1605 อาคารหมายเลข 16 โรงแรมหนานซาน ลี่จิง ฮอลลิเดย์ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และน้ำชากับเขา” นายถังอ่านแถลงการณ์ซึ่งนางกู่ใช้ชื่อปั๋วกู่ตามหนังสือเดินทาง และกล่าวต่อว่า “หลังจากนายเฮย์วู้ดเริ่มมึนเมา อาเจียน และถามหาน้ำดื่ม นางกู่ก็เทยาพิษกรอกปากทันที ซึ่งยาพิษดังกล่าวได้มีการเตรียมมาล่วงหน้าและได้ฝากให้นายจัง เสี่ยวจวินถือติดตัวไว้ตลอด จนท้ายที่สุดนายเฮย์วู้ดก็ถึงแก่ชีวิตนอนไม่ไหวติง”
อัยการได้เสนอหลักฐานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณา พร้อมให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ก่อนที่อัยการจะสรุปว่า “การกระทำของนางกู่และนายจังละเมิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 232 ดังนั้นอัยการจึงฟ้องเป็นคดีอาญา ฆ่าคนตายโดยเตนา”
ถังยกคำกล่าวของอัยการอีกว่า “คดีนี้ถือเป็นความผิดร่วมระหว่างนางกู่ในฐานะผู้กระทำผิดหลัก และนายจัง เสี่ยวจวินในฐานะผู้สมรู้ร่วมคิด”
“กู่และจัง ไม่ได้ให้การปฏิเสธความจริงในคดีอาญาดังกล่าว ตลอดจนข้อหาเรื่องเจตนาในการฆ่า” ถังเพิ่มเติมว่า นางกู่ในขณะที่ฟังคำฟ้องนั้นอยู่นั้นอาการสงบทั้งทางกายและอารมณ์
ทนาย หลี่ ฟังผิง จากกรุงปักกิ่งเผยว่า นางกู่ก็เป็นนักกฎหมาย เธอใช้การตัดสินใจเชิงยุทธวิธีประการหนึ่งคือ ไม่ปฏิเสธคดีสังหาร เพราะจะทำให้ได้รับการลดหย่อนโทษ ศาลจะพิจารณาปัจจัยนี้ด้วยเมื่อครั้นลงอาญา
สองทนายความที่รัฐบาลจีนจัดสรรค์ให้นางกู่แย้งว่า ความสามารถในการคุมพฤติกรรมของนางกู่น้อยกว่าคนปรกติ ในขณะที่เธอยอมรับว่าก่อคดี ซึ่งเธอยอมรับด้วยว่านายเฮย์วู้ดเป็นเหยื่อมาตั้งแต่เริ่มต้นการพิจารณาฯ สองทนายยังกล่าวด้วยว่า นางกู่พยายามทำให้ตนได้รับความเมตตาจากศาล โดยการรายงานคดีอาชญากรรมที่บุคคลอื่น ๆ กระทำ การเปิดโปงเช่นนี้อาจทำให้ศาลลดหย่อนโทษให้เธอได้บ้าง
นักกฎหมายเผยว่า การตัดสินคดีความนางกู่คาดว่าน่าจะอยู่ที่ตั้งแต่จำคุก 15 ปี ไปจนถึงโทษรอการประหารชีวิต
ศาสตราจารย์เฉิน จงหลินด้านกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยฉงชิ่งเผยว่า หากพิสูจน์ได้ว่านางกู่ขณะลงมือก่อคดีวางยาพิษนั้นมีปัญหาทางประสาท ก็จะช่วยให้โทษเบาลงได้มาก
ขณะที่ทนาย หลิว เสี่ยวหยวน ในกรุงปักกิ่งเผยว่า นางกู่เหมือนจะได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือไม่ก็รับโทษรอประหารชีวิต “หากพิสูจน์ได้ว่าขณะลงมือเธอไม่มีความสามารถในการควบคุมตัวเอง กอปรกับที่เธอแฉความผิดของบุคคลอื่นอันเป็นประโยชน์ต่อการไต่สวนคดีอาญาอื่น ๆ ศาลก็อาจไม่หยิบยื่นโทษตายให้เธอ”
ถังเผยว่า ผู้คนกว่า 140 คนเข้าฟังการฟ้องคดี ตลอดจนเพื่อนและญาติของนางกู่และนายจัง ส่วนฝั่งของนายเฮย์วู้ด ก็มีเจ้าหน้าที่กงสุลอังกฤษและท่านทูตอังกฤษเข้าฟังด้วย นอกนั้นยังมีนักข่าว และเจ้าหน้าที่จากสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ และจากคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาการเมืองประชาชนจีน รวมทั้งสาธารณะชนด้วย
ไม่ว่าผลจะออกหัวหรือก้อย แต่การพิจารณาคดีนี้ฯ ก็ถือได้ว่า “สะเทือนพรรคคอมมิวนิสต์และฟ้าดินแดนมังกร”