ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สี จิ้นผิงได้นั่งเก้าอี้เลขาธิการใหญ่และประธานคณะกรรมการกลางการทหารแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน อย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และจะขึ้นเป็นประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการเมื่อที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีนหรือรัฐสภารับรองในเดือนมี.ค.ปีหน้า สี จิ้นผิงจะเป็นหัวเรือใหญ่นำประเทศจีนในสิบปีข้างหน้า โดยตำแหน่งผู้นำสูงสุดของจีน มีวาระ 5 ปี ปกติจะกินตำแหน่งกันสองสมัยซ้อน
สี จิ้นผิง มีชีวิตในวัยหนุ่มในเขตชนบทอันห่างไกลทางตอนเหนือของจีน ทำงานตรากตรำในหมู่บ้าน ตกค่ำต้องอาศัยนอนบนก้อนอิฐเช่นนี้ เป็นเวลานานถึง 7 ปี ซึ่งแตกต่างไปจากช่วงที่ดำรงตำแหน่งในกรุงปักกิ่ง ที่อาหารการกินบริบูรณ์พร้อมอย่างสิ้นเชิง
สี เกิดมาในตระกูลผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ ทว่าหลังจากบิดาหมดความนิยมชมชอบจากท่านประธานเหมา เจ๋อตงผู้นำรุ่นแรก สีก็ถูกส่งตัวไปยังเขตทุรกันดารเพื่อนเรียนรู้คุณค่าการใช้ชีวิตแบบชาวนาด้วยวัยเพียง 15 ปี
ช่วงชีวิตหลายปีที่หมู่บ้านเหลียงจยาเหอภายใต้ความแร้นแค้น เป็นส่วนหนึ่งของการหล่อหลอมประสบการณ์ สร้างให้สี จิ้นผิงนั่งเก้าอี้ผู้นำระดับสูง จากชายคนหนึ่งในเขตชนบทที่ให้ความสนใจต่อการเมืองเพียงน้อยนิด ทว่ากำลังจะได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำสูงสุดคนถัดไปของแผ่นดินมังกรด้วยนโยบายที่ชัดเจนแกร่งกร้าวกว่าเดิม
สีขยับขึ้นสู่อำนาจระดับสูงอย่างเงียบ ๆ สิ่งที่หนุนส่งประการแรกคือ สีมีพื้นฐานครอบครัวมาจากตระกูลผู้นำเก่า มีการศึกษาดี บิดามีความเกี่ยวข้องกับการสถาปนาพรรคคอมมิวนิสต์ซึ่งเป็นประโยชน์ทางการเมืองต่อตัวสีอย่างมาก ในขณะเดียวกันสีได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์พิเศษที่ไม่เหมือนใคร ในช่วงวัยปลาย 20 สียอมละทิ้งตำแหน่งในกรุงปักกิ่ง ไปบริหารงานในเขตชนบทแทน ทำให้เขามีมุมมองกว้างไกลและกลายเป็นผู้นำแถวหน้าได้อย่างไม่เคอะเขิน
วัยหนุ่ม สีไม่ได้เต็มใจไปใช้ชีวิตชนบทที่เหลียงจยาเหอ หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ประชาชนขุดถ้ำแถบตีนเขาเป็นที่อยู่อาศัย และทำผนังด้วยการฉาบโคลนดิน ประตูก็นำไม้มาขัดเป็นโครงทำทางเข้า สีพยายามจะหลบหนี แต่ก็ถูกกักตัวไว้ ชาวบ้านในหมู่บ้านยังจำสีได้ดี ว่าเป็นคนสูง เป็นหนอนหนังสือ นายซื่อ ชุนหยัง สหายเก่าของสี ผู้ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นฯ เผยว่า "สีเป็นคนจริงใจทำงานหนักเช่นเดียวกับพวกเรา สีเป็นหนอนหนังสือตัวยง"
ในวงการการเมืองจีน น้อยคนนักที่จะรู้ว่านโยบายของสีจะโน้มเอียงไปทางใด สีไม่ค่อยเกี่ยวข้องหรือสัมพันธ์กับการปฏิรูปที่สุดโต่ง นักการเมืองที่ได้รับการสนับสนุนมักจะต้องมีแนวคิดเน้นผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขจัดความไม่สงบเรียบร้อยในสังคมให้ราบคาบ และไม่แตกแถวไปจากนโยบายที่รัฐบาลกลางกำหนด นักการเมืองที่มีบุคลิกโดดเด่นหรือกล้าคิดริเริ่มสิ่งใหม่ไม่เป็นที่ปรารถนาของพรรคฯ
สีกลับมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองในระดับมณฑลฯ ได้ทำการเปิดให้บริษัทโรงงานเอกชนสามารถเข้ามาลงทุน และปฏิรูประบบการบริหารซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพรรคฯ สีชื่นชอบภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สอง มีลูกสาวเรียนมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แต่สีก็พยายามส่งสัญญาณว่า เขามีเลือดรักชาติจีนอย่างเต็มเปี่ยม
สีร่างกายสูงใหญ่ แต่งงานกับนักร้องที่ดำรงตำแหน่งในกองทัพ "นางเผิง ลี่หยวน" เขาเป็นคนง่าย ๆ ในกลุ่มนักการเมือง เขาไม่มีบุคลิกแข็งทื่อหรือเย็นชาอย่างเช่นประธานาธิบดีหู จิ่นเทา คนปัจจุบัน หลายฝ่ายวาดหวังว่า คณะบริหารของสีในอนาคตจะสามารถออกนโยบายต่างประเทศที่ทรงพลังได้ ตามกระแสเชื่อของปักกิ่งที่ว่า "สหรัฐฯ ขาลง มังกรจีนขาขึ้น" จีนจะสามารถแสดงบทบาทเด่นในเวทีต่างประเทศให้ประจักษ์ขึ้น
แอนดริว นาธาน ผู้เชี่ยวชาญการเมืองจีนประจำมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์กเผยว่า สีได้รับเลือก เนื่องจากเป็นผู้มีบุคลิกกว้างขวาง แน่วแน่และเชื่อมั่นสูง สามารถเป็นผู้นำในการกำหนดยุทธศาสตร์ได้
อย่างไรก็ดี สีจะต้องเผชิญความท้าทายอยู่ หลังจากสองทศวรรษที่จีนเติบโตแบบก้าวกระโดดและสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจจีนเริ่มเข้าสู่วงจรปัญหา ช่องว่างทางสังคมถ่างกว้าง คนรวยเพียงน้อยนิดควบคุมทรัพยากรมหาศาล มีปัญหาต่อสู้ดิ้นรนปากกัดตีนถีบ ความไม่พอใจ การคอร์รัปชั่นได้กัดกร่อนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อเจ้าหน้าที่รัฐไปไม่น้อย
นอกจากปัญหาในประเทศแล้ว จีนยังเผชิญปัญหาพิพาทชายแดนกับต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่นและชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะเดียวกัน ปักกิ่งก็รู้สึกได้ว่า สหรัฐฯ ผนึกกำลังกับชาติรอบจีน ใช้นโยบายสกัดกั้นอำนาจมังกร
โปรดติดตาม ชีวิตทรหด สี จิ้นผิง ตอนที่สอง ในวันเสาร์หน้า