ASTVผู้จัดการออนไลน์/เอเจนซี— สี จิ้นผิง นั่งเก้าอี้นายใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน และคณะกรรมการทหารแห่งพรรคฯ พร้อมแถลงคณะกรรมการประจำกรมการเมืองฯ 7 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นองค์กรกุมอำนาจสูงสุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน กุมชะตานาวารัฐจีนในอีกสิบปีข้างหน้า
เช้านี้ เมื่อเวลา 11.00 น. กลุ่มผู้นำใหม่แห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 18 ได้เลือกนาย สี จิ้นผิง นั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน แทนที่นายหู จิ่นเทา นอกจากนี้ยังได้ตัดสินนาย สี จิ้นผิง กินตำแหน่งประธานคณะกรรมการทหารแห่งพรรคฯ แทนที่ หู จิ่นเทาเช่นกัน โดยมี ฟั่น ฉังหลง และ สี่ว์ ฉีเลี่ยง เป็นรองประธานคณะกรรมการทหารแห่งพรรคฯ
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 18 ได้เลือกตั้งคณะกรรมการประจำกรมการเมือง หรือโปริตบูโร แห่งพรรคฯ จำนวน 7 คน ได้แก่ สี จิ้นผิง, หลี่ เค่อเฉียง, จัง เต๋อเจียง, อี๋ว์ เจิงเซิง, หลิว อวิ๋นซัน, หวัง ฉีซัน, และจัง เกาลี่
ในเวลาต่อมา สี จิ้นผิง ได้นำ คณะกรรมการประจำกรมการเมืองฯ มาแนะนำในที่ประชุมข่าวฯ ณ มหาศาลาประชาชน ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนมหาศาล
นอกจากนี้ คณะกรรมการกลางพรรคฯได้อนุมัติตำแหน่งสำคัญอีกตำแหน่งที่เป็นที่จับตามาก คือ นายใหญ่แห่งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยแห่งพรรคฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานปรามปราบคอรัปชั่น ให้แก่ นาย หวัง ฉีซัน
การแถลงตำแหน่งกลุ่มผู้นำสูงสุดของจีนในเช้านี้ เป็นการปิดฉากการคาดเก็งที่ร้อนฉ่าที่สุดบนเวทีการเมืองโลกที่ดำเนินมานับปี โดยก่อนหน้ามีกระแสจับตาว่า ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา จะยังคงนั่งเก้าอี้ ตำแหน่งประธานคณะกรรมการทหารต่อไปอีกช่วงหนึ่ง เช่นเดียวกับที่ ผู้นำเจียง เจ๋อหมิน เคยปฏิบัติมาก่อน เพื่อที่รักษาอิทธิพลได้อย่างถนัดมือต่อไป นอกจากนี้ กระแสคาดเก็งที่ยังเซ็งแซ่ในนาทีสุดเมื่อวานนี้ ก็คือ คณะกรรมการประจำกรมการเมืองฯ ซึ่งเป็นองค์กรที่ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศจีน เป็นผู้ชี้ขาดชะตากรรมทุกด้านของแผ่นดิน
คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เผยรายชื่อผู้นำที่จะรับช่วงอำนาจรุ่นใหม่ เป็นไปตามคาด โดย สี จิ้นผิงได้นั่งตำแหน่งผู้นำสูงสุดและจะขึ้นแท่นประธานาธิบดีคนต่อไปของแผ่นดินมังกร ส่วนนายหลี่ เค่อเฉียงก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตามลำดับ
ก่อนหน้า ผู้แทน 2,270 คน ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ชุดที่ 17 ระหว่างวันที่ 8-14 พ.ย. ได้ลงคะแนนเสียงอย่างลับ ๆ เลือกคณะกรรมการกลางพรรคฯ รุ่นใหม่ คณะกรรมการกลางพรรคฯนี้มีจำนวน 204 คนที่มีสิทธิ์ออกเสียง และมีสำรองอีก 171 คน ที่ไร้สิทธิ์ออกเสียง
เป็นที่คาดการณ์กันมาช้านานว่าสี จิ้นผิง จะได้ขึ้นเก้าอี้ต่อจากประธานาธิบดีหู จิ่นเทา เป็นผู้นำพรรคสูงสุดและประธานาธิบดีในลำดับถัดไปในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีนในปีหน้าเดือนมี.ค. ส่วนหลี่ เค่อเฉียงก็จะได้สืบอำนาจต่อนายกเวิน จยาเป่าต่อไป
รายชื่อโปลิตบูโรที่ประกาศอันประกอบไปด้วย นายจัง เต๋อเจียง ผู้ไปเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้กับเกาหลีเหนือ นายหวัง ฉีซานกูรูด้านการเงินการคลัง นายจัง เกาลี่ ผู้นำพรรคฯ แห่งเทียนจิน นายอี๋ว์ เจิ้งเซิง ผู้นำพรรคแห่งเซี่ยงไฮ้ และนายหลิว อวิ๋นซาน ฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่คุมสื่อภายในประเทศให้อยู่ในร่องรอยที่ไม่ระคายชื่อเสียงพรรคฯ นั้น นายหวังเป็นที่น่าจับตามากในขณะนี้
หวังได้รับเลือกให้เข้าไปในคณะกรรมการกลางแห่งพรรคฯ ด้านการตรวจสอบวินัยพรรคฯ ดูแลด้านการฉ้อราษฎร์บังหลวงภายในก่อนหน้านี้ ซินหวาระบุ เป็นการปูทางให้เขาได้ขึ้นเป็นหัวหน้าด้านการตรวจสอบวินัยต่อไป ซึ่งก็เป็นไปตามคาด หวังได้ตำแหน่งนายใหญ่แห่งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยแห่งพรรคฯ
ส่วนตัวเก็งอื่น ๆ อันได้แก่ นายวัง หยัง ผู้นำพรรคฯ แห่งก่วงตง นักการเมืองหัวปฏิรูป นายหลี่ หยวนเฉา รัฐมนตรีแห่งฝ่ายการจัดการพรรคฯ และผู้นำหญิงหลิว เหยียนตง ก็จะได้รับเลือกให้เข้าสู่คณะกรรมการกลางด้วย แต่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งเจ็ดสุดยอดของพรรคฯ
หลังจากช่วงหลายวันที่ออกมาแถลงสุนทรพจน์ความสำเร็จแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ ความสมานฉันท์ ในช่วงห้าปีที่สภาดำรงมา ก็ได้พิสูจน์จีนภายใต้การนำของหูว่าเป็น จีนเป็นรัฐแห่งประชาชาติ ตอกย้ำทฤษฎีของหูด้านความมั่นคงและการพัฒนาอย่างเสมอภาค
รายงานการทำงานของหู จิ่นเทาระบุว่า การคอร์รัปชั่นได้ทำลายกฎระเบียบแห่งพรรคและประเทศชาติ แต่ก็เผยว่า พรรคต้องอยู่ในฐานะที่ต้องต่อสู่กับความไม่สงบในสังคมที่เกิดขึ้น
จัตุรัสเทียนอันเหมิน ถัดจากมหาศาลาประชาคมจีน ปูธงแดงเต็ม จอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ฉายคลิปโฆษณาชวนเชื่อตลอดช่วงสัปดาห์ ขณะที่ปักกิ่งตรึงความปลอดภัยระดับสูง
นอกจากสโลแกนชวนเชื่อต่าง ๆ แล้ว ผู้นำชุดใหม่จะต้องบอกทำนายทิศทางเศรษฐกิจและนโยบายทางการเมืองในช่วงห้าปีจากนี้ ไม่รู้ว่าอิทธิพลของหูจะยังคงเหลืออยู่มากเพียงใด ในการทำงานของผู้นำชุดหน้า
การเลือกคณะกรรมการกรมการเมืองและคณะกรรมการประจำกรมการเมืองครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีผู้ชิงเก้าอี้มากกว่าจำนวนตำแหน่ง แหล่งข่าวใกล้ชิดเผย หลังจากเลือกแล้ว คณะกรรมการทั้งสองโปลิตบูโรจะได้ให้ความเห็นเรื่องทิศทางเศรษฐกิจและการเมืองจีน