xs
xsm
sm
md
lg

“สาทิตย์” โวยรัฐลุแก่อำนาจไม่ถอดยศ นช.แม้ว “เฉลิม” ยันไม่ถอดแน่อ้างถูกกลั่นแกล้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
ส.ส.ตรัง ปชป.อภิปราย “เฉลิม” ลุแก่อำนาจ ไม่ถอดยศ “ทักษิณ” ทั้งที่กฤษฎีกาวินิจฉัยแล้วว่าถอดได้ เปิดคลิปเก่าโชว์กร่างที่โรงพักทองหล่อ สมุนเพื่อแม้วขวางวุ่น ด้าน “เฉลิม” โต้ไม่ถอดยศแน่ อ้างถูกอำนาจนอกระบบกลั่นแกล้ง เลียสุดฤทธิ์สร้างความดีและชื่อเสียงให้ สตช. ยันเป็นขี้ข้ามานานแล้ว

วันนี้ (25 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอภิปราย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีพฤติกรรมลุแก่อำนาจไม่มีความเหมาะสมในการทำหน้าที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีไม่ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีคำวินิจฉัยสิ้นสุดแล้วเมื่อเดือน ต.ค. 2552 ว่าสามารถดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณได้ แต่เวลาผ่านมา 1 ปี 3 เดือน ร.ต.อ.เฉลิมไม่ยอมดำเนินการ โดยอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณออกจากราชการมา 30 ปีแล้ว หรือตำรวจนอกราชการ และประเด็นที่อ้างถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม ก่อนอภิปรายได้เกิดเหตุวุ่นวายเล็กน้อยเ มื่อนายสาทิตย์พยายามเปิดคลิปวิดีโอเมื่อปี 2543 ในขณะนั้นที่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่าร้าย คุกคาม ข่มขู่เจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนขณะบุตรชายถูกควบคุมตัวที่ สน.ทองหล่อ ในคดีทะเลาะวิวาทในสถานบันเทิง ระหว่างเปิดคลิปดังกล่าว นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวคัดค้านการเปิดคลิป เนื่องจากเห็นว่าเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมานานและไม่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการของ ร.ต.อ.เฉลิม จากนั้น ส.ส.ทั้งพรรคเพื่อไทยก็ยกมือประท้วงกันเป็นระยะ

นายสาทิตย์กล่าวว่า กฤษฎีกาวินิจฉัยแล้วว่า หากมีคำพิพากษาจากศาล หรือเป็นตำรวจนอกราชการ สามารถดำเนินการได้ และที่ผ่านมามีกระบวนการพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ถอดยศตำรวจชั้นสัญญาบัตรมาโดยตลอด และตั้งแต่มีระเบียบหรือคำวินิจฉัยกฤษฎีกา มีบุคคลในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย ไปยื่นหนังสือต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ยกเลิกระเบียบดังกล่าว โดย สตช.ได้นำคำคัดค้านของ ส.ส.เพื่อไทยดังกล่าวนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ทั้งนี้ การยื่นเรื่องดังกล่าวเพื่อให้สำนักงานกฤษฎีกาวินิจฉัยอีกครั้ง กระทั่งเดือน มิ.ย. 2554 มีคำวินิจฉัยออกมาเช่นเดิม จนเวลาผ่านมาขณะนี้ไม่มีการดำเนินการใดๆ กล่าวโดยสรุป คือ กระทำผิดกฎหมาย และเป็นการช่วยเหลือเพื่อคนคนเดียว คือ พ.ต.ท.ทักษิณ

นายสาทิตย์กล่าวว่า ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิมพยายามเลี่ยงการดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยการกล่าวอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกปฏิวัติ และมีความพยายามจะขอพระราชทานอภัยโทษ ดังนั้นพฤติกรรมที่ผ่านมา คือ ลุแก่อำนาจ และช่วยเหลือพวกพ้อง จึงไม่สมควรดำรงอยู่ในตำแหน่ง และเรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนร้องเรียนต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อนำไปสู่การเอาผิดในข้อหาละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ของ ร.ต.อ.เฉลิม

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวชี้แจงว่า เหตุที่โวยวายใน สน.ทองหล่อเมื่อปี 2543 เนื่องจากเหตุว่าเจ้าหน้าที่กุมตัวบุตรชายตนเองไม่ถูกต้อง และนำผู้เสียหายและพยานมาอยู่ในห้องเดียวกัน ซึ่งควรต้องแยกกันสอบสวน ไม่ได้ข่มขู่คุกคาม และผู้กำกับ สน.ทองหล่อก็รู้จักคุ้นเคยกัน และไม่เคยข่มขู่ผู้สื่อข่าวหญิงคนหนึ่งที่สัมภาษณ์ว่าการไม่ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณเพราะเป็นขี้ข้า พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งก็ได้ตอบไปว่าตนเป็นขี้ข้า พ.ต.ท.ทักษิณมานานแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วการกล่าวแบบนี้ถือเป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า ซึ่งตนก็ยังไม่คิดจะฟ้องร้องใดๆ

ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิมอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองจากเหตุการณ์ปฏิวัติหรืออำนาจนอกระบบด้วยการตั้งศาลเดี่ยวขึ้นมาสอบคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วยการออกกฎหมายย้อนหลังลงโทษ สำหรับคำวินิจฉัยกฤษฎีกาโดยประเด็นที่ไม่เห็นด้วย คือ ตำรวจนอกราชการไม่ควรมีความผิดวินัยร้ายแรงจนถึงขั้นถอดยศ และที่สำคัญในระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณรับราชการตำรวจได้สร้างความดีความชอบและชื่อเสียงให้กับ สตช. จึงสมควรได้รับการละเว้นไม่สมควรถูกถอดยศ


กำลังโหลดความคิดเห็น