โฆษกประชาธิปัตย์ เผย “อภิสิทธิ์” ส่งทนายยื่นศาลปกครองเช็กคำสั่งกลาโหมถอดยศมิชอบหรือไม่ เชื่อถูกกลั่นแกล้งไม่ให้อภิปราย หยันคงหวั่นไหว “ยิ่งลักษณ์” จะโดนซักครั้งแรกในชีวิต ชี้ส่อรีบร้อนจัดพิมพ์ตกหล่น เย้ยพวกขายตัวไปเป็นบริวาร “นช.แม้ว” จี้ “สุรพงษ์” รับผิดชอบคืนพาสปอร์ตนายใหญ่ อย่าโบ้ยความผิดให้ข้าราชการ หยันเตรียมไปรับกรรม จวกเลิกหลอกใช้ให้ความหวังแดงยื่นศาลโลกฟันเผาเมือง
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้พิจารณาว่าคำสั่งที่ออกโดยกระทรวงกลาโหมนั้นเป็นคำสั่งมิชอบ และจะดำเนินการอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป โดยมีการแนบชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีในท้ายญัตติการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะตามข้อกฎหมายนั้นนายอภิสิทธิ์ไม่มีความผิด และพรรคก็มั่นใจว่าหนังสือดังกล่าวขัดต่อข้อกฎหมาย คือ 1. การพิจารณาปลดหรือไล่ออกข้าราชการที่ได้ออกจากราชการไปแล้วทำได้หรือไม่ 2. การกระทำของนายอภิสิทธิ์เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวินัยทหารตามที่หนังสือกล่าวอ้างหรือไม่ และ 3. การใช้เอกสารของนายอภิสิทธิ์ก็มีหลักฐานยืนยันว่าไม่ได้มีการใช้เอกสารเท็จ หรือมีเจตนาปลอมแปลงเอกสารราชการแต่อย่างใด เรื่องนี้จึงพูดได้ชัดเจนว่าเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง เพื่อยุติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
“รัฐบาลคงหวั่นไหวที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นครั้งแรกในชีวิตการเมือง จึงพยายามสร้างกระแสกลบการบริหารที่ล้มเหลว และเอกสารที่กระทรวงกลาโหมออกมาที่ตกคำว่า “กระ” กลายเป็น รัฐมนตรี “ทรวง” กลาโหมนั้นเป็นเอกสารจริง ซึ่งหาก พล.อ.อ.สุกำพล มีความเป็นชายชาติทหารก็ต้องกล้ายืนยันว่าเป็นเอกสารจริง แต่กลับพยายามบอกว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช่ของจริง แสดงให้เห็นว่าความรีบร้อนในการออกเอกสารดังกล่าวมีจริงหรือไม่”
นายชวนนท์ยังกล่าวถึงกรณีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ระบุว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีข้อมูลในการอภิปรายรัฐบาล เป็นพรรคที่ดีแต่พูดและเชื่อถือไม่ได้นั้นว่า ตนยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่ทำตามระบอบรัฐสภา และระบอบประชาธิปไตย ซึ่งตรงกันข้ามกับนักการเมืองขายตัวที่เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ เคยมีคดีฟ้องร้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่สุดท้ายก็ไปเป็นบริวารของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพรรคก็ยินดีที่คนแบบนี้ออกจากพรรค ส่วนกรณีของนายสุรพงษ์นั้นตนยืนยันว่าการออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นผิดระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ตรวจการแผ่นดินก็ชี้แล้วว่ากระทรวงการต่างประเทศกระทำผิดระเบียบตัวเอง
“ขอเรียกร้องให้นายสุรพงษ์รับผิดชอบแบบลูกผู้ชาย อย่าโยนความผิดให้ข้าราชการ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง ซึ่งก็มีการยื่นถอดถอนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งนายสุรพงษ์ต้องได้รับกรรมแน่นอน ถึงแม้สิ่งที่นายสุรพงษ์ทำจะไม่ถูกอภิปรายในสภา แต่สิ่งที่ทำก็จะส่งผลให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกอภิปรายในเรื่องนี้ จึงอยากให้นายสุรพงษ์ไปเตรียมตัวเตรียมใจกับผลการกระทำ ทั้งจาก ป.ป.ช. ผู้ตรวจการแผ่นดิน และการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องรับกรรมแทน”
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า การที่นายสุรพงษ์พยายามบอกว่าจะนำคดีความ 98 ศพไปดำเนินคดีในศาลอาญาระหว่างประเทศนั้น นายสุรพงษ์เองก็รู้ดีว่าศาลอาญาระหว่างประเทศไม่สามารถเข้ามาดำเนินการในคดีดังกล่าวได้ เพราะขณะนี้ทุกคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลไทย และสาระของคดีความดังกล่าวก็ไม่เข้าข่ายตามฐานความผิดของศาลอาญาระหว่างประเทศ จึงอยากให้นายสุรพงษ์เลิกหลอกใช้และสร้างความหวังให้คนเสื้อแดง แต่สิ่งที่ควรทำคือการขอรับอำนาจศาลในกรณีการฆ่าตัดตอนยาเสพติด เหตุการณ์กรือเซะ และตากใบ ซึ่งในสัปดาห์หน้าตนจะรวบรวมผู้เสียหายในกรณีดังกล่าวยื่นหนังสือต่อนายสุรพงษ์ ที่กระทรวงการต่างประเทศ
“การที่นายสุรพงษ์จะดำเนินคดีต่อนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพในศาลอาญาระหว่างประเทศต่างชาติเขารู้ทันว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร สะท้อนได้จากการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ติดอยู่ในอันดับผู้นำขี้โกงระดับโลก ตามที่เว็บไซต์ของจีนนำเสนอ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากำพืดเป็นอย่างไร นอกจากจะทุจริตคอร์รัปชันแล้วยังมีส่วนในการปลุกระดมเผาบ้านเผาเมือง และการเสียชีวิตของประชาชน จนติดคดีก่อการร้าย หากมีการรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศจริง เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องบินไปขึ้นศาลก่อนคนไทยทั้งประเทศแน่นอน” นายชวนนท์กล่าว